ความสะดวกสบายของการใช้บัตรเครดิตในการจับจ่ายในปัจจุบัน ทำให้ใครหลายคนเลือกใช้บัตรเครดิตชำระสินค้า และบริการ ยิ่งมีเครื่องมือสำคัญที่ช่วยภาระของคนใช้บัตรเครดิตอย่างพวกเราก็คือ การที่เราสามารถผ่อนจ่ายชำระสินค้าที่เราซื้อได้ ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามัน “แสนจะสะดวก” และทำให้เราเป็นเจ้าของสิ่งของที่เราต้องการได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน แถมบัตรบางประเภทยังมีแคมเปญโปรโมชั่นจากธนาคารผู้ออกบัตรที่แข่งขันกันออกมาอย่างต่อเนื่องยิ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเราครับ
อย่างไรก็ตามเมื่อเรามีบัตรเครดิตอยู่กับตัวแล้วก็ควรระมัดระวังในการใช้ และการรักษา เพื่อป้องกันอันตรายจากเหล่ามิจฉาชีพที่หาทางแอบใช้เงินในบัตรเครดิตของเรา หากบัตรเครดิตของเราสูญหาย หรือถูกโจรกรรมด้วยวิธีการต่างๆ อย่างกระนั้นเลยเรามาใช้บัตรเครดิตอย่าง “ปลอดภัย” กันดีกว่า มาดูกันว่าเราจะใช้บัตรเครดิตให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพได้อย่างไร
- ศึกษาวิธีการโจรกรรม การศึกษาวิธีการโจรกรรมบัตรเครดิตจะทำให้เรา “รู้เท่าทัน” และไม่ตกเป็นเหยื่อง่ายๆ โดยการโจรกรรมผ่านบัตรเครดิตทำได้หลายรูปแบบ เช่น การลักลอบคัดลอกข้อมูลบัตร หรือ Skimming โดยคนร้ายอาจแอบคัดลอกข้อมูลส่วนตัวที่เก็บไว้ในแถบแม่เหล็กของบัตร โดยใช้อุปกรณ์ไฮเทคขนาดเล็ก จากนั้นจะทำการถ่ายโอนข้อมูลเหล่านั้นลงบนบัตรปลอม แล้วนำบัตรนั้นไปใช้ซื้อสินค้าเสมือนเป็นผู้ถือบัตรตัวจริง การระมัดระวังของเราก็คือ หากเราไม่แน่ใจว่าร้านค้าที่เราไปซื้อสินค้า หรือใช้บริการ ร้านอาหาร ปั้มน้ำมัน เราก็ไม่ใครใช้บัตรเครดิต แต่ควรชำระเป็นเงินสดแทน เพราะหากร้านค้านั้นๆ คิดจะคัดลอกข้อมูลเราโอกาสสำเร็จจะมีสูงและจับผิดได้ยากมาก
- วิธีทุจริตที่แพร่หลายอีกวิธีหนึ่งคือ การลักลอบนำหมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลอื่นๆ บนบัตรที่ขโมยมาไปใช้ซื้อสินค้า หรือบางทีอาจใช้บัตรเครดิตปลอมไปซื้อสินค้า โดยการขโมยหมายเลขบัตรมักเกิดจากการที่เราซื้อสินค้าบนอินเตอร์เน็ต การป้องกันก็คือ หากเราซื้อสินค้าออนไลน์ ถ้าเราไม่แน่ใจในเว็บไซค์แปลกๆ เราก็ไม่ควรบอกหมายเลขบัตรเครดิต หรือข้อมูลส่วนตัวของเราถ้าไม่จำเป็นครับ
- หากเกิดการโจรกรรมบัตรเครดิตไปแล้วต้องรีบโทรแจ้งธนาคารที่ออกบัตรทันทีที่บัตรของเราสูญหาย และควรแจ้งความที่สถานีตำรวจ และเก็บเอกสารแจ้งความไว้เป็นหลักฐานในการชี้แจ้งกรณีที่มีการรูดใช้ชำระสินค้า และบริการที่ไม่ใช่เกิดจากเรา
- ควรเก็บรักษาบัตรเครดิตของเราให้ดีที่สุด ทำให้เหมือนกับเราเก็บเงินสด และควรเช็คดูเป็นระยะว่าบัตรเครดิตของเรายังอยู่กับตัวหรือไม่
- หากเป็นไปได้ เราไม่ควรปล่อยให้บัตรคลาดสายตาในระหว่างที่พนักงานนำบัตรของเราไปรูดชำระสินค้า ทางที่ดีควรเดินไปดูด้วย และคอยกำกับการรูดชำระค่าสินค้า หากพบสิ่งผิดปกติต้องรีบแจ้งคนรอบข้างทันที
- ก่อนเซ็นเซลส์สลิป ควรตรวจสอบจำนวนเงินว่าตรงกับราคาของสินค้า และบริการเพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นนำข้อมูลในเซลส์สลิปของเราไปใช้ในทางมิชอบ และเก็บเอาไว้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องภายหลังอีกครั้งเพื่อความชัวร์
- ตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายในใบแจ้งบัญชีบัตรเครดิตประจำเดือนว่ามีจำนวนเงินตรงกับที่คุณใช่ไปหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังกลับจากการเดินทางไปที่ที่เราไม่คุ้นเคย หรือกลับจากการท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ไม่ควรบอกหมายเลขบัตรเครดิตของเราให้แก่คนอื่นทางโทรศัพท์ เว้นแต่ธนาคารเจ้าของบัตรเอง อันที่จริงแล้วไม่ควรบอกไม่ว่ากรณีใดๆ หรือหากจำเป็นจริงๆ ที่ต้องบอกหมายเลขบัตรเครดิตของเราทางโทรศัพท์ ก็ควรจะต้องขอเอกสารยืนยันการซื้อขายที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานขายสินค้าทางโทรศัพท์ทุกครั้ง
- อย่าไว้ใจพนักงานขายสินค้าทางโทรศัพท์มากจนเกินไป บางครั้งพนักงานเหล่านี้จะเร่งหรือกดดันให้เรารีบซื้อสินค้า หรือประกัน อย่าให้หมายเลขบัตรเครดิตจนกว่าจะแน่ใจว่าเราจะได้รับเอกสารหลักฐานที่ถูกต้อง หรือหากไม่จำเป็นจริงๆ ควรไปซื้อสินค้าที่หน้าร้านจริงจะดีที่สุด
- หากมีสมาชิกในครอบครัวของเรานำบัตรเครดิตของเราไปใช้โดยที่เรารู้หรือไม่รู้ตัวมาก่อน เราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบยอดการใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพราะโดยหลักเจ้าของบัตรจะเป็นลูกหนี้บัตรเครดิตเสมอ ไม่ใช่สมาชิกคนใดคนหนึ่งในครอบครัวของเรา ดังนั้นควรเก็บบัตรเครดิตของเราให้ดีที่สุด และหากไม่จำเป็นจริงๆ เราควรไปซื้อสินค้า หรือบริการพร้อมๆ กับคนในครอบครัวของเราเพื่อรับรู้ยอดใช้จ่ายทั้งหมดด้วยตัวเอง
ถ้าเราไม่ประมาทในการใช้บัตรเครดิต และป้องกันเหตุที่ไม่พึงประสงค์ ด้วยการทำได้ครบทุกข้อ การใช้บัตรเครดิตของเราก็จะสะดวกสบาย และปลอดภัย ไม่ต้องมากังวลกับปัญหาที่เราไม่ได้ก่อ ทำให้เรามีเวลาเหลือไปจับจ่ายใช้สอย และใช้ชีวิตด้านอื่นๆ โดยไม่ต้องมาปวดหัวภายหลังนะครับ