“ผมจะซื้อบ้าน หรือเช่าอยู่ แบบไหนดีกว่ากัน”
“อายุเริ่มมาก
อยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง จะเลือกซื้อบ้าน หรือเช่าบ้าน แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ขอความเห็นหน่อย”
เคยคุ้น ๆ ตัวอย่างประโยคเหล่านี้ตามโซเชียลมีเดีย หรือเว็บบอร์ดพูดคุยกันบ้างไหม ไม่ว่าจะกี่ปีก็มีคนมาขอคำปรึกษาแบบนี้อยู่บ่อย ๆ และส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานที่กำลังสร้างตัว อยากมีครอบครัว หรือต้องการมีพื้นที่ของตัวเอง แต่ก็ติดที่ว่าจะเลือกซื้อไปเลย หรือเช่าเหมือนเดิมไปเรื่อย ๆ คนส่วนใหญ่บอกว่า
มีบ้านเป็นของตัวเองดีกว่า จะทำอะไรก็สะดวก แล้วยังตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ตามใจเราได้ หรือถ้าฝั่งคนเชียร์ให้เช่าบ้านต่อไปก็บอก สภาพเศรษฐกิจเอาแน่นอนไม่ได้ หากไม่มีเงินผ่อนบ้าน โดนยึดไป ที่จ่ายไปทั้งหมดก็สูญเปล่า แล้วอย่างนี้เราจะเอาไงดี ชักจะงงไปกันใหญ่ เอาอย่างนี้เพื่อเคลียร์ข้อสงสัย มาดูกันว่าจะเลือกกู้เงินซื้อบ้าน หรือเช่าต่อไปแบบไหนจะเวิร์กกว่ากัน แล้วถ้าจะ
กู้เงินซื้อบ้านจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ถึงขอสินเชื่อผ่านฉลุย ไปเคลียร์กันให้จบวันนี้เลย
ทีมเลือกกู้เงินซื้อบ้าน เป็นทรัพย์สิน ขายต่อได้ราคาขึ้น
แน่นอนว่าการมีบ้านเป็นของตัวเองก็มีหลายข้อดีเหมือนกัน อย่างเช่น คนที่กำลังคิดจะเลี้ยงน้องหมา น้องแมว หรือสัตว์เลี้ยงที่ต้องการพื้นที่วิ่งเล่น หรือคนที่ต้องการหาที่อยู่ประจำ ไม่ต้องการย้ายไปไหนบ่อย ๆ อยากสร้างครอบครัว ต้องการซื้อเพื่อลงทุนเป็นสินทรัพย์ส่งต่อเป็นมรดก การมีบ้านของตัวเองสามารถตอบโจทย์ความต้องการของเราได้แน่นอน และข้อดีของการมีบ้านยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะบ้านของเรา สามารถตกแต่ง หรือรีโนเวทได้ตามใจของเรา อยากทาสี หรือปรับปรุงส่วนไหนของบ้าน ก็สามารถทำได้เลย หากไม่ได้เป็นการทำโดยรบกวนเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียง
และการซื้อบ้านในปัจจุบัน ราคาที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือน ก็มีราคาที่ใกล้เคียงกับการเช่าบ้าน แต่เราสามารถเป็นเจ้าของได้ ถ้าเราผ่อนชำระจนครบ ชื่อบนโฉนดจะเป็นของเราทันที และดอกเบี้ยที่เอาไปผ่อนบ้านสามารถนำไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้อีก พูดเรื่องข้อดีของการซื้อบ้านกันไปแล้ว มาดูข้อเสียสำหรับการมีบ้านสักหลังอย่างเช่น การซื้อบ้านมีราคาที่ต้องจ่ายตามมายิบย่อยมาก ๆ เพราะบ้านเองเป็นสินทรัพย์ที่ต้องดูแลรักษาหากชำรุดทรุดโทรม และการมีบ้านจะทำให้เราต้องมีหนี้ติดตัวเป็นเงินก้อนใหญ่ในระยะยาว 10 – 30 ปี หากเรามีปัญหาในการบริหารสภาพคล่อง ขาดส่งหลาย ๆ เดือนอาจถูกยึดบ้านได้เหมือนกัน หากใครคิดจะกู้เงินซื้อบ้าน อาจต้องวางแผนการเงินให้ดีหน่อย แบ่งเก็บเงินไว้หลายก้อน ทั้งก้อนที่เอาไว้ดูแลบ้าน ก้อนเอาไว้สำรองหากเจอเรื่องฉุกเฉิน และท้ายที่สุดอีกบ้านที่เราซื้อจะมีราคาเพิ่มมากขึ้นแทบจะไม่มีลงเลย ซื้อวันนี้อีก 5-10 ปี ราคาประเมินก็มากขึ้น หากจะขายต่อก็มีแต่จะกำไร เพราะการขยายตัวของเมืองมากขึ้นเรื่อย ๆ การมีบ้านจะทำให้เราไม่เสียโอกาสได้ของดีในวันที่ราคายังเอื้อมถึง เพราะถ้ารอไปเรื่อย ๆ ราคาบ้านจะขยับขึ้นไปจนเราต้องเสียดาย
ทีมเช่าบ้าน ไม่ต้องแคร์การดูแล เบื่อก็ย้ายได้เลย
สำหรับบางคน การเลือกเช่าบ้านอาจเป็นคำตอบของชีวิตที่ต้องมีภาระผูกพัน ชอบใช้ชีวิตอิสระ ข้อดีของการเช่าบ้านก็มีด้วยกันหลายข้ออย่างเช่น เราได้งานใหม่ หรือมีธุระที่ต้องไปต่างจังหวัดเป็นเวลานาน ๆ เราสามารถย้ายบ้านได้ทันที แค่ทำเรื่องย้ายออก แล้วมองหาบ้านเช่าหลังใหม่ตามที่เราต้องการได้ หรือทำให้เรามีอิสระทางการเงินมากขึ้น เพราะการเช่าบ้านทำให้เราไม่ต้องเสียเงินมาดูแลรักษา หรือซ่อมแซมบ้านเช่าด้วยตัวเอง หากมีปัญหาบ้านเกิดชำรุด มีจุดไหนเสียเราแค่แจ้งเจ้าของบ้านให้มาแก้ไข และยังมีเงินเหลือเก็บนำไปลงทุนตามแผนของเราได้อีกมากไม่ว่าจะเป็นการ
ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ หรือลงทุนเพื่อสร้างผลกำไรระยะยาว
การปลอดหนี้จะยิ่งทำให้เรารู้สึกไม่มีความเครียด ไม่ต้องรู้สึกถึงการเป็นหนี้ จะทำอะไรก็มีความมั่นใจ แต่ข้อเสียของการเช่าบ้านก็มีเหมือนกันนะ คือเราไม่มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของที่อยู่ ไม่ว่าเราจะเสียค่าเช่ามากน้อยแค่ไหน หรือจ่ายมากี่ปี หากเจ้าของบ้านเช่าต้องการบ้านคืน เราก็ต้องหาที่อยู่ใหม่ โดยไม่มีข้อโต้แย้ง และค่าเช่าบ้านอาจมีราคาที่มากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะตอนนี้เกิดสภาวะเงินเฟ้อเจ้าของบ้านเช่าก็อาจปรับราคาเช่าให้สูงขึ้นเพื่อ
หนีเงินเฟ้อ จากข้อเสียที่กล่าวมาทำให้หลายคนที่เคยเช่าบ้านหันกลับมากู้เงินซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เพื่อไม่ต้องเจอปัญหาต้องหาที่อยู่ใหม่ในตอนอายุมากขึ้น และไม่อยากเสียเงินค่าเช่าบ้านไปเฉย ๆ สู้มีบ้านของตัวเอง ขายต่อเมื่อไหร่ก็ทำได้
1. เลือกโครงการบ้าน จากทำเล
ตอนนี้หากจะซื้อบ้านมีโครงการบ้านให้เราเลือกสารพัดแบรนด์ ครบทุกกลุ่มราคาตั้งแต่ราคาถูกไปราคาพรีเมี่ยม ให้เรามองหาโครงการบ้านในทำเลที่เราสนใจ รอบ ๆ โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง เช่น รถไฟฟ้า ทางด่วน หรือห้างสรรพสินค้า ไว้ถ้าเราได้อยู่จะช่วยให้ชีวิตครอบครัวสบายขึ้น ส่วนต่อไปที่เราต้องดูคือประเภทบ้านแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา ถ้าหากอยู่คนเดียว การมองหาบ้านทาวน์โฮม หรือคอนโด เป็นช้อยส์ที่ดี เพราะไม่ต้องดูแลอะไรมาก แต่ถ้าเป็นครอบครัวอาจต้องขยับไปมองประเภท บ้านแฝด หรือบ้านเดี่ยว ทั้งหมดนี้มีผลในเรื่องของราคาที่เราจะกู้เงินซื้อบ้าน อยากให้เลือกบ้านที่เหมาะกับเราจริง ๆ เวลาผ่อนจะได้สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด
2. ดูรายได้ของเรา หรือผู้กู้ร่วม
อีกข้อที่ไม่เตรียมไม่ได้คือ เงินที่จะผ่อนบ้านถึงแม้เราจะกู้เงินซื้อบ้านเต็มจำนวน แต่เงินที่ได้มาตอนนี้เรายังเรียกว่า ‘หนี้’ ที่เราต้องผ่อนชำระธนาคารคืนทุกเดือน ยิ่งเราเลือกซื้อบ้านที่ราคาแพงทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยจะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วยลองสำรวจรายได้ของเราหน่อยว่ามีเพียงพอ สำหรับการผ่อนบ้านเป็นจำนวนเงินเพียงพอต่อเดือนหรือไม่ ถ้ากู้เงินซื้อบ้านคนเดียวไม่ได้ อาจต้องหาผู้กู้ร่วมมาช่วยหาร ไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง พ่อแม่ หรือคู่ชีวิต ถ้ามีผู้กู้ร่วมธนาคารเจ้าของสินเชื่อบ้าน จะพิจารณาอนุมัติเงินกู้ได้ง่ายหน่อย เพราะมองว่ามีกำลังมากพอที่จะผ่อนชำระหนี้ได้ นอกจากดูรายได้สำหรับผ่อนบ้าน เรายังอาจต้องเตรียมเงินสำรองเผื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าตกแต่งบ้าน ค่าจดมิเตอร์น้ำ-ไฟ ค่าส่วนกลางบ้าน หรือค่าโอนบ้าน เช็กรายได้ของเราให้ดี เพราะค่าใช้จ่ายเรื่องบ้านค่อนข้างจะจุกจิก และใช้เงินเยอะ
3. เตรียมเงินดาวน์ ยิ่งมาก ดอกเบี้ยยิ่งน้อยลง
บางคนไม่ชอบที่จะเป็นหนี้ในระยะยาว โดยเฉพาะหนี้จากการกู้เงินซื้อบ้าน การวางแผนการเงินสำหรับเงินก้อนที่เตรียมไว้ดาวน์บ้าน ยิ่งเราสะสมไว้มากเท่าไหร่ ส่งผลให้ดอกเบี้ยที่เรากู้น้อยลง และสัดส่วนในการผ่อนชำระทุกเดือนเบาลง สำหรับใครที่สงสัยว่าจะวางแผนการเงินแบบไหนดี? ถึงจะได้เงินมาดาวน์บ้าน อาจนำเงินเหลือเก็บแต่ละเดือนไปลงทุนประเภทมีความเสี่ยงต่ำ-ปานกลาง อย่างเช่น ฝากในบัญชีฝากประจำปลอดภาษี หรือลงทุนในกองทุนรวม จะช่วยให้มีเงินเก็บเพื่อมาดาวน์บ้านมากขึ้น
สำหรับเรื่องบ้านไม่ว่าซื้อ หรือเช่าคำตอบไหนก็ไม่มีผิดหรือถูก อยู่ที่เราว่าเหมาะกับเราแค่ไหน สำหรับคนที่มีแผนเรื่องบ้านแต่ยังไม่รู้ว่าจะกู้เงินซื้อบ้านที่ไหนดี อาจเข้ามาขอคำปรึกษาที่สาขาใกล้บ้าน หรือสอบถามมาที่กรุงศรี เบอร์ 1572 ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นวางแผนกู้เงินซื้อบ้าน สอบถามโปรโมชั่นสินเชื่อเพื่อบ้าน หรือข้อมูลการรีไฟแนนซ์บ้านกับทางธนาคารกรุงศรีฯ ถ้าเลือกที่จะกู้เงินซื้อบ้าน มาหาเราได้เลยกรุงศรีฯ พร้อมจัดบ้านในฝันให้คุณ