ใเมื่อเราซื้อบ้านและอยู่อาศัยมาในระยะเวลาหนึ่งก็อาจจะพบกับความทรุดโทรมของส่วนต่าง ๆ ของบ้าน หรือบางครอบครัวอาจจะมีสมาชิกเพิ่ม ทำให้มีความจำเป็นต้องต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้าน ซึ่งการปรับปรุงบ้านในแต่ละครั้งก็ใช้วงเงินจำนวนสูง และอาจจะมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่เพิ่มมาโดยที่เราไม่ได้วางแผนไว้ก่อน แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะในปัจจุบันเราสามารถขอสินเชื่อเพื่อต่อเติมบ้านจากทางธนาคารได้ Krungsri The COACH จะพาทุกคนไปดูว่า
วิธีการขอสินเชื่อเพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้านจากธนาคารจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เราได้มีบ้านหลังงามตามที่ใฝ่ฝัน
คำถามที่ลูกค้ามักถามบ่อยเกี่ยวกับการกู้ต่อเติมบ้าน
1. การยื่นกู้ต่อเติมบ้านต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านหรือไม่
ตอบ : ผู้ที่จะยื่นกู้ต่อเติมบ้านต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้าน กล่าวคือ มีชื่อเป็นเจ้าของโฉนดที่ดินของบ้านที่ต้องการกู้ต่อเติมเท่านั้น
2. การกู้ต่อเติมบ้านมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกจากดอกเบี้ยหรือไม่
ตอบ : อาจมีค่าธรรมเนียมการขอสินเชื่อ ค่าประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าจดจำนอง และค่าประกันอัคคีภัย เป็นต้น
3. ผู้กู้สามารถนำเงินกู้ต่อเติมบ้านไปใช้ทำอย่างอื่นได้หรือไม่
ตอบ : โดยหลักการแล้ว เงินกู้ควรนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ในการต่อเติมบ้านเท่านั้น หากนำไปใช้ผิดประเภทอาจจะนำมาซึ่งปัญหาหนี้สินที่แก้ไขได้ยาก
กู้ต่อเติมบ้านได้ไหม ถ้าผ่อนบ้านยังไม่หมด
ในการกู้ต่อเติมบ้าน เราสามารถทำได้หลายวิธีเพราะธนาคารมีสินเชื่อหลายแบบ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามที่เราต้องการ ตัวอย่างเช่น การใช้สินเชื่ออเนกประสงค์ซึ่งธนาคารจะอนุมัติวงเงินเป็นเงินก้อน เพื่อให้เราสามารถนำไปใช้ในการต่อเติมบ้านได้เลย และในกรณีที่เรายังมีภาระผ่อนบ้านอยู่และต้องการยื่นกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ย ก็สามารถขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้ต่อเติมบ้านได้
4 ขั้นตอนที่ต้องเตรียมพร้อม ก่อนยื่นกู้ต่อเติมบ้าน
ไม่ว่าเราจะขอสินเชื่อแบบไหนก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อมและวางแผนก่อนที่เราจะไปพูดคุยกับทางธนาคาร เพื่อยื่นขออนุมัติสินเชื่อ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 : กำหนดจุดประสงค์ที่เราต้องการต่อเติม
เช่น ซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านในส่วนที่ชำรุด หรือตกแต่งบ้านใหม่เพื่อให้บ้านเป็นไปในลักษณะตามที่ต้องการ ซึ่งเราจะต้องกำหนดสิ่งที่ต้องการจะทำอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการกำหนดงบประมาณต่าง ๆ
ขั้นตอนที่ 2 : กำหนดงบประมาณ
หลังจากกำหนดวัตถุประสงค์ของการต่อเติมบ้านแล้ว ให้ลองประมาณการดูว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนั้นอยู่ที่เท่าไร ซึ่งการผ่อนกรณีกู้ต่อเติมบ้านในแต่ละเดือนนั้น เมื่อรวมกับยอดผ่อนหนี้บ้านหรือหนี้อื่น ๆ ที่มีอยู่ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ ยกตัวอย่าง หากเรามีรายได้เดือนละ 30,000 บาท และมีภาระในการผ่อนบ้านอยู่แล้ว 7,000 บาทต่อเดือน ก็สามารถกู้ต่อเติมบ้านได้โดยยอดผ่อนชำระต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท รวมยอดผ่อนชำระทั้งหมด 12,000 บาท คิดเป็น 40% ของรายได้
ขั้นตอนที่ 3 : เขียนแปลนและขอใบอนุญาตก่อสร้าง
เราจะต้องจัดทำแปลนที่ต้องการต่อเติม พร้อมใบแสดงรายการค่าวัสดุและค่าต่อเติมบ้านหรือ BOQ (Bill of Quantities) จากนั้นรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยื่นขออนุญาตต่อเติมบ้านกับองค์กรปกครองท้องถิ่นให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตามการต่อเติมบ้านนั้นก็มีกฎหมายที่ควรทราบอยู่ เช่น
- ต้องระวังไม่ให้ต่อเติมบ้านจนเต็มที่ดิน และต้องมีที่ว่างเหลือไม่น้อยกว่า 30% ของพื้นที่
- ต้องทราบระยะร่นต่าง ๆ เช่น รั้วบ้านต้องสูงไม่เกิน 3 เมตร
- ต้องได้รับการยินยอมจากเพื่อนบ้าน
- ต้องมีสถาปนิกและวิศวกรควบคุมการดำเนินงาน
ขั้นตอนที่ 4 : เตรียมเอกสารประกอบให้ครบตามที่ธนาคารกำหนด
เมื่อเราขออนุญาตจากองค์กรปกครองท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว ให้เตรียมทำเช็กลิสต์เอกสารต่าง ๆ เพื่อนำมาขอยื่นกู้กับทางธนาคาร ได้แก่
- โฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก. ที่เราเป็นเจ้าของ
- แปลนที่จะมีการต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้าน
- ใบแสดงรายการค่าวัสดุและค่าต่อเติมบ้านหรือ BOQ
- สัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง
- ใบอนุญาตก่อสร้าง
หรือสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่
3 เช็กลิสต์ รู้ก่อนกู้ต่อเติมบ้าน
Krungsri THE COACH แนะนำสินเชื่อกู้ต่อเติมบ้าน แบบไหนที่เหมาะกับเรา
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีแผนในการต่อเติมบ้านและกำลังหาสินเชื่อที่เหมาะสมกับตัวเอง เราสามารถเลือกสินเชื่อตามสถานะของการ
ผ่อนบ้านของเรา เป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้
(1) คนที่มีภาระผ่อนบ้านอยู่ กู้ต่อเติมบ้านจากธนาคารเดิมได้
กรณีแรก หากเรายังผ่อนบ้านไม่หมด ยังมีภาระในการผ่อนบ้านที่จะต้องจ่ายเงินกับธนาคารในทุก ๆ เดือน ก็สามารถขอ
สินเชื่อบ้านกู้เพิ่มบนหลักประกันเดิม ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
- วงเงินกู้ : สูงสุดไม่เกินส่วนต่างของวงเงินที่เคยได้รับกับภาระหนี้ปัจจุบัน
- ดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 6.61% - 10.30% ต่อปี
- จุดเด่น : สะดวก ไม่ต้องเตรียมเอกสารมาก สามารถติดต่อธนาคารเดิมเพื่อขอกู้ได้เลย
- เหมาะกับใคร : ผู้มีกำลังผ่อนบ้านอยู่ และไม่อยากเสียดอกเบี้ยแพง
- ข้อแนะนำ : ติดต่อธนาคารที่ใช้บริการอยู่ เพื่อที่จะขอวงเงินกู้เพิ่มเติม
- สินเชื่อที่แนะนำ : สำหรับสินเชื่อบ้านกู้เพิ่มบนหลักประกันเดิม ทางกรุงศรีมีผลิตภัณฑ์ สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 6.61% - 10.30% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 6 ต.ค. 66 อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.40% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
หมายเหตุ : อัตราดอกเบี้ยนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่โพสต์บทความ สามารถตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน และรายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมได้ที่
www.krungsri.com
(2) คนที่มีบ้านหมดภาระการผ่อนบ้านแล้ว
ในกรณีที่เราผ่อนบ้านครบจนหมดภาระในการผ่อนบ้านไปแล้ว เราสามารถนำบ้านมาเป็นหลักประกันได้ จากการขอ
สินเชื่ออเนกประสงค์โดยใช้บ้านปลอดภาระเป็นหลักประกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- วงเงินกู้ : สูงสุดไม่เกิน 85% ของราคาประเมินบ้าน
- ดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 6.61% - 10.30% ต่อปี
- จุดเด่น : ใช้บ้านเป็นหลักประกัน มีโอกาสกู้ผ่านสูง
- เหมาะกับใคร : ผู้ที่ผ่อนหนี้บ้านหมดแล้ว หรือมีบ้านเป็นของตัวเอง
- สินเชื่อที่แนะนำ : สำหรับคนที่มองหาสินเชื่อบ้านแลกเงินก้อนเพื่อนำไปต่อเติมบ้าน ทางกรุงศรีมีผลิตภัณฑ์ สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช เพื่อให้อุปสรรคทางการเงินของคุณ ผ่อนคลายมากขึ้น
สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช ซึ่งเป็นสินเชื่ออเนกประสงค์แบบผ่อนชำระรายเดือน โดยใช้ที่อยู่อาศัยที่ปลอดภาระเป็นหลักประกันดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 3 ปี เริ่ม 5.90 %* อัตราดอกเบี้ยนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 6.61% - 10.30% ต่อปี*
*สมมติฐานการคำนวณมาจากวงเงินกู้ 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 6 ต.ค. 66 อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.40% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
หมายเหตุ : อัตราดอกเบี้ยนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่โพสต์บทความ สามารถตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน และรายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมได้ที่
www.krungsri.com
(3) คนที่มีภาระผ่อนบ้านอยู่ ต้องการกู้ต่อเติมบ้านจากธนาคารแห่งใหม่
กรณีสุดท้ายสำหรับผู้ที่กู้เงินกับธนาคารแห่งหนึ่งอยู่ และอยากลดภาระดอกเบี้ยไปพร้อม ๆ กับได้รับวงเงินเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการต่อเติมบ้านจากธนาคารอีกแห่ง สามารถใช้
สินเชื่อจากการรีไฟแนนซ์ เพื่อกู้เงินกับธนาคารรายใหม่ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- วงเงินกู้ : ได้เป็นเงินกู้อเนกประสงค์จากยอดที่เหลือจากการโปะหนี้ธนาคารเดิม
- ดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.47% - 5.93% ต่อปี
- จุดเด่น : สะดวก สามารถยื่นเรื่องพร้อมกันได้
- เหมาะกับใคร : ผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน และมีความจำเป็นต้องต่อเติมบ้านพอดี
- สินเชื่อที่แนะนำ : สำหรับคนที่มีสินเชื่อบ้านอยู่แล้วและต้องการลดดอกเบี้ยโดยย้ายไปผ่อนกับธนาคารใหม่ ธนาคารกรุงศรีขอแนะนำ สินเชื่อบ้านกรุงศรี รีไฟแนนซ์บ้าน กู้เพิ่มได้! ซึ่งช่วยลูกค้าลดดอกเบี้ยบ้านและยังสามารถกู้สินเชื่ออเนกประสงค์เพิ่มเพื่อใช้ต่อเติมบ้านได้
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.47% - 5.93% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 6 ต.ค. 66 อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.40% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
หมายเหตุ : อัตราดอกเบี้ยนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่โพสต์บทความ สามารถตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน และรายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมได้ที่
www.krungsri.com
การขอสินเชื่อสำหรับการต่อเติมบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก เพียงแค่เราจะต้องรู้ความต้องการของเรา รวมถึงมีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านเอกสารและเลือกสินเชื่อที่มีความเหมาะสมกับความต้องการของเรา ที่สำคัญที่สุด คือยื่นขอสินเชื่อเท่าที่จำเป็นและสามารถชำระคืนไหว ก็จะทำให้ไม่เป็นภาระทางการเงินที่ทำให้หนักใจในระยะยาว เท่านี้ความฝันที่จะมีบ้านหลังงามตามที่ใจฝันก็จะไม่ไกลเกินเอื้อม
อ้างอิง