เมื่อทุ่มเททำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อยกันสักระยะ หลายคนมักเริ่มคิดอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ากว่าจะได้เป็นเจ้าของบ้านอย่างที่ฝันนั้นต้องผ่านขั้นตอนและการวางแผนทางการเงินมากมาย แถมยังต้องกังวลกับภาระหนี้สินที่ชำระไปเท่าไรก็ไม่หมดสิ้นสักที โอกาสนี้เรามีเคล็ดไม่ลับสำหรับผู้ที่คิดอยากซื้อบ้านหรือกำลังผ่อนชำระค่าบ้านมาฝาก เพื่อช่วยให้การเป็นเจ้าของบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้นครับ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน
ก่อนการตัดสินใจ
กู้ซื้อบ้าน เราต้องประเมินความพร้อมของตนเอง ว่าสามารถแบกรับภาระหนี้สินที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้มากน้อยเพียงใด หากผ่อนบ้านในแต่ละเดือนแล้วจะมีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือหนี้อื่น ๆ ที่ยังคงค้างหรือไม่ ที่สำคัญควรมี
เงินออมไว้สำหรับใช้ในยามฉุกเฉินด้วย
- รู้รายละเอียดของสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย
ข้อแตกต่างของสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินแต่ละแห่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรทราบเพราะสินเชื่อแต่ละประเภท ทั้ง
สินเชื่อบ้าน คอนโด หรือที่ดิน จะมีวงเงินให้กู้ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น ควรพิจารณาสินเชื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ และต้องไม่ลืมเปรียบเทียบข้อเสนอและแนวโน้มของ
อัตราดอกเบี้ยในระยะยาวด้วย
ทางเลือกดี ๆ เพื่อชำระหนี้บ้านให้หมดไว
อาจดูท้าทายไปสักหน่อย หากต้องจ่ายเงินให้มากกว่าจำนวนเงินชำระต่องวดที่ระบุไว้ในสินเชื่อ เพื่อให้จำนวนเงินที่เกินกำหนดไปหักชำระเงินต้นโดยตรง แต่วิธีนี้ถือเป็นวิธีช่วยลดเงินต้นและดอกเบี้ยอย่างได้ผลจริง ทำให้ผ่อนบ้านหมดในระยะเวลาที่เร็วขึ้น ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีรายรับ-รายจ่ายคงที่และสามารถวางแผนการเงินได้
การชำระเงินเกินด้วยจำนวนมาก ๆ เป็นก้อนเดียว คืออีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ผ่อนบ้านหมดได้เร็วขึ้น ซึ่งอาจทำได้ปีละ 1-2 ครั้ง เหมาะกับผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้ไม่คงที่ ซึ่งไม่สามารถชำระเงินเกินได้ตลอดทุกงวด
อย่างไรก็ตาม การชำระเงินเกินทุกเดือนจะช่วยลดเงินต้นได้มากกว่าการโปะเพิ่มประจำปี หากเรากำหนดให้จำนวนเงินก้อนที่ใช้โปะเพิ่มประจำปีมีจำนวนเฉลี่ยเท่ากันกับการชำระเกินทุกเดือน ในระยะเวลา 24 งวด ดังตารางด้านล่าง
*ที่มาของตารางด้านบน :
www.ddproperty.com/จากตาราง จะเห็นได้ว่าตลอด 2 ปี (24 งวด) ของการผ่อนชำระ ยอดรวมของการชำระเงินต้นเกินทุกเดือนจะอยู่ที่ 82,664.80 บาท ส่วนยอดรวมการชำระเงินต้นแบบโปะเพิ่ม ปีละคือ 82,172.57 บาท ดังนั้น การชำระเกินทุกเดือนช่วยลดเงินต้นได้มากกว่าการโปะเพิ่มปีละครั้ง จำนวน 492.23 บาท ต่อ 2 ปี ซึ่งหากคิดในระยะเวลา 20 ปี (240 งวด) จะมีจำนวนที่แตกต่างกันถึง 12,363 บาท และหากผ่อนชำระด้วยจำนวนเงินและระยะเวลาที่มากกว่านี้ ความแตกต่างก็จะชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกอื่น ๆ ที่ช่วยให้ผ่อนบ้านสำเร็จได้เร็วขึ้น เช่น การรีไฟแนนซ์ หรือการยกเลิกสัญญาสินเชื่อที่ทำอยู่ เพื่อไปทำสัญญากู้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ในกรณีที่ได้รับข้อเสนอดีกว่าเดิม และการนำเงินโบนัส เงินอั่งเปา หรือเงินอื่นที่ได้รับในโอกาสพิเศษอื่น ๆ มาเป็นตัวช่วยก็เป็นวิธีที่ดีเช่นกัน
สิทธิประโยชน์ด้านภาษี
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาด คือ การรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ซึ่งกรมสรรพากรกำหนดให้ผู้กู้สามารถนำดอกเบี้ยที่จ่ายจริงมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ตามเงื่อนไขดังนี้
- สำหรับผู้ที่มีรายได้ ตามมาตรา 40(1) ซึ่งประกอบด้วย เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เป็นต้น
- ดอกเบี้ยที่นำมาลดหย่อนภาษี ต้องเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย สินเชื่อบ้านใหม่ สินเชื่อบ้านมือสอง สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ยกเว้นสินเชื่อบ้านแลกเงิน
- ต้องเป็นเงินกู้ที่กู้จากสถาบันการเงิน / ธนาคาร ในประเทศไทยเท่านั้น
เพียงแค่คุณวางแผนให้ดี พิจารณาและตัดสินใจอย่างรอบคอบ ประกอบกับการมีวินัยและความรับผิดชอบในการชำระตามกำหนด เท่านี้ความฝันในการเป็นเจ้าของบ้านก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปครับ