หลายคนใฝ่ฝันอยากจะมีบ้าน หรือทาวน์โฮมหลังแรกเป็นของตัวเอง แต่เมื่อตัดสินใจกู้ธนาคารเพื่อซื้อบ้านแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนไม่อยากต้องประสบพบเจอคือ ไม่อยากชำระค่าผ่อนบ้านในจำนวนอัตราดอกเบี้ยสูง และอยากจะรีบหาวิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ๆ
ยิ่งตอนนี้สถานภาพทางการเงินเกือบทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเรายังตกอยู่ในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง ดังนั้นการจะผ่อนบ้านให้หมดไวคงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ทุกคนอยากทำมันให้สำเร็จ บทความนี้เลยอยากจะมาแนะนำเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้มนุษย์เงินทุกคนหาวิธีผ่อนบ้าน โปะหนี้บ้านให้หมดไวกัน
6 วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็วฉบับมนุษย์เงินเดือน
1. ผ่อนเกินค่างวดทุกงวด
รู้หรือไม่ว่าค่างวดรายเดือนที่เราต้องจ่ายในการผ่อนค่าบ้านประกอบด้วยเงินต้น และดอกเบี้ย ซึ่งในสัญญาธนาคารจะแจ้งให้เรารู้ว่าแต่ละเดือนเราต้องผ่อนชำระเท่าไหร่ ซึ่งโดยปกติเงินค่างวดผ่อนชำระที่เราจ่ายจะไปตัดดอกเบี้ยก่อน หลังจากนั้นจึงไปตัดเงินต้น แน่นอนว่าหากเราจ่ายมากกว่านั้น หรือผ่อนเกินค่างวด เงินส่วนเกินที่เราจ่ายไป จะไปตัดในส่วนเงินต้นทันที หรือที่เรียกว่า
การโปะเงินต้นนั่นเอง
การผ่อนเกินค่างวดทุกเดือน หรือโปะเป็นเงินก้อน ทำให้เรา
ประหยัดดอกเบี้ยบ้านได้มากขึ้น แถมเวลาชำระหนี้สั้นลง ทำให้หนี้บ้านหมดเร็วขึ้น
ตัวอย่างเช่น
วงเงินกู้บ้าน 3,500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 5% ผ่อนบ้านเพิ่มขึ้นเดือนละ 3,000 บาท ซึ่ง 3,000 ที่เราจ่ายเพิ่มนั้น จะไปตัดเงินต้นในแต่ละงวดเพิ่มเต็ม ๆ ดอกเบี้ยในเดือนถัดไป ก็จะถูกลง และเงินต้นก็หมดเร็วขึ้น
ตารางเปรียบเทียบการผ่อนชำระ 10 งวดแรก
- วงเงินกู้บ้าน 3,500,000 บาท
- คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
- ระยะเวลา 286 งวด
- ค่างวดผ่อนชำระ 21,000 บาท
เพียงเราจ่ายเพิ่ม 3,000 บาท/เดือน ก็ช่วยให้ลดระยะเวลาผ่อนลงได้หลายปีเลย ยิ่งเพิ่มจำนวนเงินผ่อนต่อเดือนมากเท่าไหร่ยิ่งช่วยให้ระยะเวลาผ่อนลดลงได้อีก
ตารางสรุปเปรียบเทียบการผ่อนชำระ
2. เตรียมโปะบ้านในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยลด
อย่างที่บอกไปในข้อ 1 เงินค่างวดประกอบด้วยเงินต้น และดอกเบี้ย ดังนั้นหากเราจ่ายค่างวด เงินเราจะไปตัดดอกเบี้ยก่อน และหลังจากนั้นจึงไปตัดเงินต้น เพราะฉะนั้นหากในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยลด นั่นหมายความว่าจำนวนเงินที่เอาไปตัดดอกเบี้ยนั้นย่อมน้อยไปด้วย ทำให้จำนวนเงินค่างวดไปตัดเงินต้นได้มากขึ้น
ดังนั้นในช่วงนี้คือ
ช่วงนาทีทองของมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ถ้าหากเราสามารถเพิ่มเงินมาโปะบ้านได้ในแต่ละเดือน หรือหากโบนัสออกแล้วเรานำเงินก้อนมาโปะ จะช่วยให้เรา
ผ่อนบ้าน หมดหนี้ได้ไวขึ้น ดังนั้นอย่าลืมโปะบ้านในช่วงนี้ ตอนอัตราดอกเบี้ยลดด้วยนะ
3. รีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance)
รีไฟแนนซ์ หมายถึงการย้ายหนี้จากธนาคารเดิมไปยังธนาคารใหม่ โดยธนาคารใหม่โดยปกติจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า หรือดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้ารีไฟแนนซ์ เพื่อจูงใจให้เรามาใช้บริการ สิ่งนี้จะนำไปสู่การชำระหนี้ที่รวดเร็วขึ้น เป็นอีกทางเลือกที่
ช่วยลดภาระการผ่อนบ้านได้ และเหมาะสำหรับผู้กู้บ้านที่ผ่อนบ้านกับธนาคารเก่ามานานเกิน 3 ปี เนื่องจากสัญญากู้สินเชื่อบ้านทั่วไปกำหนดให้สามารถรีไฟแนนซ์ได้หลังผ่อนชำระหนี้ไปแล้ว 3 ปี (อาจจะมีบางแห่ง 5 ปี) ควรเปรียบเทียบรายละเอียด และแพ็คเกจรีไฟแนนซ์เพื่อหาเงื่อนไขที่เหมาะกับเรามากที่สุด
คุณรู้หรือไม่ว่า... รีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัย ประหยัดเงินได้เท่าไร?
ตารางเปรียบเทียบการผ่อนชำระ 10 งวดแรก
- วงเงินกู้บ้าน 3,000,000 บาท
- ระยะเวลาผ่อนชำระ 240 งวด
- ค่างวดผ่อนชำระ 21,100 บาท
ตารางสรุปเปรียบเทียบการผ่อนชำระ
*ตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 6 ต.ค. 66 อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.40% ต่อปี
4. ขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม (Retention)
โดยปกติหากเราผ่อนบ้านเกิน 3 ปีแล้ว เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกว่าเราจะรีไฟแนนซ์บ้าน หรือขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม ในช่วงนี้เราสามารถคุยเจรจาต่อรองกับธนาคารเดิมเพื่อขออัตราดอกเบี้ยพิเศษ โดยส่วนมากธนาคารเดิมก็จะรั้งเราไว้เพื่อให้เรายังใช้บริการอยู่ อย่างไรก็ตามไม่ว่า
จะรีไฟแนนซ์บ้าน หรือขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม ก็มีข้อดี-ข้อด้อยแตกต่างกันไป อย่างที่เราทราบกันดีว่า
หากรีไฟแนนซ์แน่นอนว่าอัตราดอกเบี้ยจูงใจกว่า และมักถูกกว่าธนาคารเดิม แต่ข้อด้อยคือ อาจจะมีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าจดจำนอง ค่าประกันต่าง ๆ เป็นต้น ส่วนการขอลดดอกเบี้ยจากธนาคารเดิม
ข้อดี คือ ไม่ยุ่งยาก ไม่เสียเวลาดำเนินเรื่องต่าง ๆ กับธนาคารใหม่ รวมทั้งไม่เสียค่าธรรมเนียมใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ข้อจำกัด คือธนาคารเดิมมักลดดอกเบี้ยลงไม่เยอะเท่ากับธนาคารใหม่ เป็นต้น
ดังนั้นเราควรเปรียบเทียบรายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ ว่าเงื่อนไขธนาคารเดิมหรือธนาคารใหม่ เงื่อนไขไหนที่ตอบโจทย์เรามากกว่ากัน หากใครสนใจสินเชื่อบ้านกรุงศรี เราพร้อมให้คำปรึกษา และบริการ
5. จ่ายหนี้ให้ตรงเวลา
แม้ว่าข้อนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนแต่อย่างใด แต่เป็นข้อที่สิ่งนี้สำคัญมาก เพื่อเป็นการรักษาเครดิตของเรา หากเราต้องการรีไฟแนนซ์บ้านไปธนาคารใหม่ หรือขอลดดอกเบี้ยจากธนาคารเดิม ธนาคารก็จะดูประวัติการชำระหนี้ของเรา
หากเราเป็นลูกหนี้ชั้นดี มีวินัยทางการเงินที่ดี คือ จ่ายเงินค่างวดตรงเวลา แน่นอนว่าเราย่อมมีโอกาสต่อรองกับธนาคารได้สูง ไม่ว่าจะเป็นธนาคารเดิม หรือธนาคารใหม่ ที่ไหน ๆ ก็พร้อมต้อนรับเรา อยากให้เราเป็นลูกค้า คราวนี้อำนาจต่อรองของเราจะเพิ่มขึ้น โอกาสได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษก็มีมากขึ้น นั่นแปลว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ หากทำตามข้อ 2 โปะบ้านในช่วงนี้ เราจะผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้นแน่นอน
6. หยุดสร้างภาระหนี้เพิ่ม
หากมนุษย์เงินเดือนต้องการหมดหนี้ไว แน่นอนว่าเราต้องมีวินัยในตัวเอง วางแผนการใช้จ่ายให้เหมาะสม เพราะหนี้บ้านถือว่าเป็นภาระที่ใหญ่พอสมควร และเป็นภาระที่ยาวนาน
ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุด คือการหยุดสร้างหนี้เพิ่ม วางแผนการใช้จ่าย รายจ่ายไหนเป็นรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เราควรจะตัดออก เปลี่ยนมาเป็นเงินออมในการโปะหนี้ มีเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเราต้องการปลดหนี้เร็วขึ้น มีบ้านปลอดภาระ
การมีเป้าหมายจะช่วยให้เราชัดเจน หาทางปลดหนี้ได้เร็วขึ้น และหากใครวางแผนค่าใช้จ่ายแล้ว ไม่สามารถลดภาระต่าง ๆ ได้จริง ๆ แน่นอนว่าเรามีทางเลือกอีก 1 ทาง คือ การหารายได้เสริม รายได้พิเศษเพิ่มเติมหลังเลิกงาน หรือช่วงวันหยุด เพื่อให้เรามีสภาพคล่องเพียงพอ รวมถึงมีเงินออมมากขึ้น จะได้นำเงินส่วนนี้มาโปะหนี้บ้านเพิ่ม ผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ภาระทางการเงินต่าง ๆ จะได้เบาลง มีอิสรภาพทางการเงิน
หากมนุษย์เงินเดือนอย่างเรานำ 6 เทคนิคข้างต้นไปใช้ เชื่อและมั่นใจได้ว่าเราจะสามารถประหยัดดอกเบี้ย และผ่อนหนี้บ้านหมดเร็วขึ้นอย่างแน่นอน ช่วงนี้ใครที่จะขอสินเชื่อบ้าน หรือทำการรีไฟแนนซ์ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสินเชื่อบ้านกรุงศรี ได้
ที่นี่