ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน บวกกับในช่วงสถาการณ์โควิดที่ผ่านมาแล้วด้วยนั้น ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องเผชิญปัญหารายจ่าย ภาระหนี้เยอะ ทั้งผ่อนบ้านผ่อนรถมือเป็นระวิง ฝากเงินดอกเบี้ยน้อยนิดแทบไม่งอกเงย ครั้นจะเอาเงินไปลงทุนก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่รู้จะเอาอย่างไรดี แล้วบัตรเครดิตที่ถือไว้ จะใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้คุ้มค่า? เรามีวิธีการใช้บัตรเครดิตแบบเน้นคุ้มค่า (Value Seeker) มาฝาก เพื่อเป็นทางเลือกให้เรามีเงินเหลือเก็บกันมากขึ้น
ใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้คุ้ม? ลองสังเกตดูนะครับว่าปัจจุบันเงินคืนที่ได้รับจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตรวม ๆ กันแล้วยังมากกว่าดอกเบี้ยที่ได้รับจากการฝากเงินเสียอีก ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน เช่น ช้อปปิ้งและเติมน้ำมันจ่ายด้วยบัตรเครดิตเดือนละ 5,000 บาทหรือเท่ากับทั้งปีมียอดใช้จ่าย 60,000 บาท โดยบัตรเครดิตมีเงินคืนให้ 3% จากยอดใช้จ่ายเท่ากับช่วยประหยัดเงินได้ 1,800 บาทต่อปี เทียบกับการนำเงิน 60,000 บาทเท่ากันไปฝากบัญชีออมทรัพย์ได้ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี สิ้นปีก็จะได้รับดอกเบี้ยเพียงแค่ 300 บาทเท่านั้นเอง
อีกตัวอย่าง คนที่มีรายได้สูงจนต้อง
เสียภาษีเงินได้จะมีรายการใช้จ่ายรูดซื้อประกันชีวิตเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท ซึ่งเป็นรายการที่มียอดค่อนข้างสูงมากจึงนิยมจ่ายด้วยบัตรเครดิตและวิธีใช้บัตรเครดิตให้คุ้มก็คือ ถ้าเลือกจ่ายด้วยบัตรที่มีเงินคืน 3% ก็เหมือนได้รับผลตอบแทนเพิ่ม 3,000 บาทต่อปีเลยนะครับ
ทุกวันนี้บัตรเครดิตเกือบทุกรายแข่งขันกันออกโปรโมชันมัดใจลูกค้า ไม่ว่าจะส่วนลด เงินคืน คะแนนสะสมพิเศษ และของกำนัล โดยเฉพาะที่ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และซื้อสินค้าออนไลน์ จะมีโปรโมชันอยู่เต็มไปหมด ตั้งแต่เงินคืน 5%-10% และโปรโมชั่นส่วนลด 10%-18% โดยใช้แลกคะแนนเท่ายอดซื้อสินค้า ซึ่งคะแนนสะสมที่นำมาแลกก็ได้มาฟรีจากการใช้บัตรเครดิตที่ผ่านมาอยู่แล้ว ถ้าหากใช้บัตรเครดิตซื้อของจำเป็นไม่ฟุ่มเฟือย และเลือกใช้บัตรเครดิตที่ให้เงินคืนสูงสุดทุกครั้งที่รูดแล้วละก็ แต่ละปีน่าจะช่วยประหยัดเงินได้หลายหมื่นบาท ถือเป็นเทคนิคในการใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่าที่ดีทีเดียว
เครดิตของคุณเลยจ่ายเงินให้ร้านค้าแทนคุณไปก่อน แล้วค่อยส่งใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินในภายหลัง วิธีการใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้คุ้มก็คือ ใครที่จ่ายครบตามจำนวนใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว เช่น รูดใช้ไป 10,000 บาทและจ่ายคืนครบ 10,000 บาท ส่วนใครที่จ่ายน้อยกว่าที่ตนเองใช้ไปก็ต้องเสียดอกเบี้ย 18% ต่อปีตามยอดเงินที่ค้างชำระ เช่น รูดใช้ไป 10,000 บาทและจ่ายขั้นต่ำ 10% คือ 1,000 บาทก็ต้องเสียดอกเบี้ยในส่วนที่ยังค้างจ่ายไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจ่ายครบทั้งหมด
ส่วนใครที่ไม่จ่ายเลยนอกจากเสียดอกเบี้ยแล้วยังต้องเสียค่าติดตามทวงถามหนี้และเสี่ยงที่จะเสียประวัติในเครดิตบูโรอีกด้วย ทำให้อนาคตการขอสินเชื่ออย่างอื่นเป็นไปได้ยาก ดังนั้น คำพูดที่ว่ามีบัตรเครดิตหลายใบไม่ดีเป็นหนี้เยอะ คิดว่าไม่เป็นความจริง หนี้เยอะหรือน้อยขึ้นอยู่กับนิสัยการใช้เงินและเทคนิคใช้บัตรเครดิตให้คุ้มมากกว่า หากใช้แล้วสามารถจ่ายเต็มจำนวนได้ตลอดก็ไม่มีปัญหาในการถือบัตรเครดิตหลายใบ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบมีบัตรเครดิตหลายใบจะได้เลือกใช้ได้ตามต้องการ เพราะบัตรเครดิตแต่ละใบให้สิทธิประโยชน์ที่ไม่เหมือนกัน
สรุป 10 เหตุผลที่ควรเลือกชำระด้วยบัตรเครดิตแทนการจ่ายด้วยเงินสด ไปดูกันเลยว่าใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้คุ้มที่สุด ดังนี้
1. บัตรเครดิตมักเป็นการชำระเงินที่จ่ายถูกสุด
โปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตมีมากกว่าการชำระเงินรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าเงินสด บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน หรือ
อีวอลเล็ต (E-Wallet) เพราะกลุ่มผู้ถือบัตรเครดิตเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไปซึ่งเป็นที่ต้องการของร้านค้า และบัตรเครดิตมีรายได้จากดอกเบี้ยทำให้มีเงินมาจัดทำโปรโมชันได้แรงกว่าการชำระเงินรูปแบบอื่น ๆ วิธีรูดบัตรเครดิตให้คุ้มหลาย ๆ ต่อจึงต้องไม่พลาดที่จะเช็กโปรโมชันก่อนจ่ายด้วย
2. บัตรเครดิตมีให้คะแนนสะสมทุกการใช้จ่าย
ปกติยอดใช้จ่ายทุก ๆ 25 บาทจะได้รับคะแนนสะสม 1 คะแนน มีค่าเท่ากับเงินคืนประมาณ 0.4% ของยอดใช้จ่ายอยู่แล้ว ยกเว้นแค่รายการใช้จ่ายบางประเภท เช่น กองทุนรวม โดยบางบัตรเครดิตมีอัตราการได้รับคะแนนสะสมที่สูงกว่านี้ก็ยิ่งเพิ่มความคุ้มค่า ถ้าถามว่าจะใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้คุ้ม ก็ต้องนำคะแนนสะสมไปแลกของหรือบัตรกำนัล และเดี๋ยวนี้ใช้เป็นส่วนลดได้ทันที โดยแลกคะแนนเท่ายอดซื้อสินค้า ช่วยลดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายได้เยอะทีเดียว
3. บัตรเครดิตไม่ต้องจ่ายเงินตนเองทันที
ผู้ถือบัตรเครดิตเป็นคนน่าเชื่อถือ สถาบันการเงินจึงมอบบัตรเครดิตพร้อมวงเงินให้ไปใช้จ่ายซื้อสินค้าได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินทันที รอใบแจ้งหนี้มาแล้วค่อยจ่าย ทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตยังมีเงินก้อนนั้นอยู่กับตัวช่วงระยะเวลาหนึ่ง วิธีใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่าแบบคนใช้เงินเป็นก็คือ สามารถนำเงินไปหมุนทำประโยชน์อย่างอื่นได้ก่อน เช่น ฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ได้ดอกเบี้ยหรือซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมระยะสั้น เป็นต้น
4. บัตรเครดิตใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ได้สะดวก
คนส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนมาซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะราคาถูกกว่าและจัดส่งสินค้าถึงบ้านเลย ซึ่งการชำระเงินนิยม
โอนเงินระหว่างบัญชีกับชำระด้วยเงินสดตอนรับสินค้า แต่สำหรับคนที่มีบัตรเครดิตจะใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้คุ้มค่า ก็ต้องเป็นความคุ้มค่าในแง่ของความสะดวกสบายนั่นเอง เพราะเพียงแค่ผูกบัตรเครดิตเข้าไปในแอปซื้อสินค้า และเวลาชำระเงินแค่ยืนยัน SMS OTP หรือใส่ตัวเลข CVV ก็ทำรายการเสร็จอย่างรวดเร็ว
5. บัตรเครดิตใช้ชำระรายการลงทุนได้สะดวก
การลงทุนยอดนิยม ได้แก่ หุ้น กองทุนรวม และอสังหาฯ ซึ่งปัจจุบันเริ่มเปิดให้รับชำระผ่านบัตรเครดิตมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับกองทุนรวมเปิดให้ใช้บัตรเครดิตได้ในกองทุน LTF และ RMF และสำหรับอสังหาฯ เปิดให้ใช้บัตรเครดิตได้ในเงินจอง เงินทำสัญญา และเงินดาวน์ ซึ่งรูปแบบการจ่ายก็ยืดหยุ่น ได้ทั้งแบบจ่ายเป็นครั้ง ๆ และแบบหักบัตรเครดิตอัตโนมัติรายเดือน (Recurring) จึงเป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นด้วยการชำระเงินเพื่อการลงทุน
6. บัตรเครดิตสะท้อนพฤติกรรมการใช้เงิน
เวลาแต่งตัวให้ดูดีก็ต้องมีกระจกไว้มองเห็น เช่นเดียวกับนิสัยการใช้เงินก็ต้องมีบันทึกรายการใช้จ่ายไว้ดูเพื่อให้รู้ว่าเราใช้เงินเก่งอย่างไร จึงเป็นที่มาของเคล็ดลับการรูดบัตรเครดิตให้คุ้มค่า เพราะการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีการบันทึกรายการอัตโนมัติจัดส่งให้เราดูทุกเดือน นั่นคือใบแจ้งหนี้ ทำให้เราสามารถคิดทบทวน เพื่อปรับเปลี่ยนใช้เงินให้คุ้มค่ามากขึ้น
7. บัตรเครดิตช่วยลดการพกเงินสด
วิธีการใช้บัตรเครดิตให้คุ้มคือการพกเพื่อลดการพึ่งพาเงินสด เวลาพกเงินสดจำนวนมากจะรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยและกลัวเงินหาย นอกจากนี้เงินเป็นปึก ๆ พกพาไปด้วยก็ไม่สะดวก ดังนั้น บัตรเครดิตช่วยตอบโจทย์ตรงจุดนี้เพียงแค่มีบัตรใบเดียวก็แทบไม่ต้องพกเงินสดแล้ว ซึ่งอนาคตเงินสดจะถูกเข้ามาแทนที่ด้วยการชำระเงินผ่านบัตรและมือถือเกือบทั้งหมด (
Cashless Society)
8. บัตรเครดิตเป็นสากลใช้ได้ทั่วโลก
สกุลเงินในโลกมีมากมายที่นิยมสูงสุดก็คือ เงินดอลลาร์สหรัฐ (US Dollar) รองลงมาก็คือ เงินยูโรของยุโรปและเงินหยวนของจีน อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถใช้ได้โดยสะดวกในทุกประเทศ อาทิเช่น ประเทศไทยก็ต้องใช้เงินบาท ประเทศสิงคโปร์ก็ต้องใช้ดอลลาร์สิงคโปร์ แต่บัตรเครดิตเหมือนภาษาสากลเพราะร้านค้าส่วนใหญ่ทั่วโลกยินดีรับบัตรเครดิต หากอยากรู้ว่าใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้คุ้มค่า การใช้กับร้านที่รับสกุลเงินอื่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า ใช้บัตรแล้วสะดวกกว่าหลายเท่า
9. บัตรเครดิตมีความปลอดภัยสูงกว่า
เมื่อเกิดเหตุการณ์ทำเงินสดหายก็ยากที่จะได้รับคืน เนื่องจากไม่ได้มีระบบป้องกันอะไรเลย แต่กรณีบัตรเครดิตหาย ผู้ถือบัตรต้องรีบโทรไประงับการใช้บัตรและดำเนินการออกบัตรใหม่แทน ซึ่งสามารถจำกัดความเสี่ยงได้ หรือบางคนกลัวว่าผู้เก็บบัตรได้จะนำบัตรเครดิตไปเบิกถอนเงินสดที่ตู้เอทีเอ็ม ก็เป็นไปได้ยากเพราะมีขั้นตอนการตรวจสอบตัวตนของผู้ถือบัตรอย่างรหัสกดตู้เอทีเอ็ม (ATM PIN) หากใครอยากใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่าก็มั่นใจได้เลยว่าจะได้รับประโยชน์ในข้อนี้ด้วย
10. บัตรเครดิตช่วยลดการพิมพ์ธนบัตร
ธนบัตรที่ถูกพิมพ์ออกมาหมุนเวียนใช้จ่ายในตลาดมีปริมาณมหาศาล ซึ่งมีต้นทุนสูงในการผลิตเพราะจำเป็นต้องใช้เทคนิคการพิมพ์ขั้นสูงสุดเพื่อป้องกันธนบัตรปลอม ดังนั้น การหันมาชำระเงินด้วยช่องทางที่ไม่ใช่ธนบัตรก็ถือเป็นเรื่องดี อย่างบัตรเครดิตสามารถใช้รูดจ่ายที่ร้านค้าหรือผูกบัญชีบัตรเครดิตจ่ายออนไลน์ก็สะดวกสบาย นอกจากจะใช้บัตรเครดิตให้คุ้มเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แล้ว ยังช่วยลดงบประมาณของประเทศในส่วนนี้ลงด้วย