มีการคาดการณ์ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า หลายประเทศในอาเซียนจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยที่ 5 - 6% ต่อปี ยกตัวอย่างเช่น ประเทศเวียดนาม ที่มีการคาดการณ์ว่า
เศรษฐกิจเวียดนามนั้น ในอีก 5 ปี ข้างหน้า จะเติบโตเฉลี่ยถึง 6.5% ต่อปี และถ้ายังเติบโตแบบนี้ ไปอีก 14 ปี เศรษฐกิจเวียดนามจะมีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจไทยเสียอีก
ด้วยพลังของการเติบโตทางเศรษฐกิจอาเซียนที่ค่อนข้างร้อนแรง และความโดดเด่นทางด้านประชากรกว่า 680 ล้านคน ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่เปิดกว้างของหลายประเทศ รวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทำให้อาเซียนกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนจากทั่วโลก
การที่นักลงทุน หรือคนทำธุรกิจ จะไปลงเล่นในสนามนี้ได้นั้นต้องศึกษาข้อมูล รู้อินไซต์ เข้าใจพฤติกรรมของคนในแต่ละพื้นที่ให้ดี เพราะแม้ว่าจะอยู่ในเขตเศรษฐกิจเดียวกันแต่ก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคของผู้คนในภูมิภาคนี้มีความแตกต่างกันไปด้วย เราลองมาดูกันว่ามีเทรนด์ผู้บริโภคอะไรบ้างที่น่าสนใจ และสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของเราได้บ้าง
6 เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคในอาเซียน จะมีโอกาสอะไรเกิดขึ้นบ้าง
จากรายงานของ คันทาร์ อินไซท์ ประเทศไทย (KANTAR Thailand) ได้พูดถึง 6 โอกาสที่จะเกิดขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภคในอาเซียนที่เปลี่ยนไป
1. โอกาสจากการที่ผู้คนมองหาความมั่นคงทางชีวิต ทรัพย์สิน และจิตใจมากขึ้น
คนหันมาวางแผนเพื่ออนาคตกันมากขึ้น มีการซื้อประกันภัยที่ไม่ได้ตอบโจทย์แค่เรื่องสุขภาพหรือชีวิต แต่ครอบคลุมไปถึงไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิตของคนเหล่านี้ด้วย เช่น ในประเทศอินโดนีเซีย มีการออกแบบประกันตามไลฟ์สไตล์เพื่อ
เจาะตลาดประชากร Gen Z ที่ต้องการใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยง ไร้กังวล หากต้องการไปดูคอนเสิร์ตแล้วเจอเหตุไม่คาดฝันก็ยังมีประกันคุ้มครอง
2. โอกาสจากการใช้ชีวิตสูงวัยแบบแอกทีฟ
ปัจจุบัน ประชากรสูงวัยในอาเซียนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยในปี 2030 คาดว่าจะมีประชากรสูงวัยมากถึง 15% ของประชากรอาเซียนทั้งหมด และในปี 2050 คาดว่าจะมีประชากรสูงวัยมากถึง 22% เป็นโอกาสที่ดีในการนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ปัญหาผู้สูงวัย และความต้องการที่แอบแฝงของคนกลุ่มนี้ เช่น เรื่องของแฟชั่นความงาม ไปจนถึงสินค้าดูแลสุขภาพในเชิงนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพราะกลุ่มประชากรสูงวัยนี้จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในพื้นที่ของตลาดอาเซียน
3. โอกาสจากการเป็นสังคมดิจิทัล
คนในอาเซียนคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตทั้งในโลกออฟไลน์ และออนไลน์ มีการใช้เทคโนโลยีสื่อดิจิทัลในชีวิตประจำวัน เช่น สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต โดยข้อมูลจาก World Economic Forum (WEF) ระบุไว้ว่า อาเซียนเป็นตลาดอินเทอร์เน็ตที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายใหม่ 125,000 รายต่อวัน ดังนั้น หากธุรกิจไหนสามารถทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้สามารถเข้าถึงบริการผ่านอินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วทันใจ ก็จะตอบโจทย์คนในภูมิภาคนี้ได้มากยิ่งขึ้น
4. โอกาสจากพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
คนในอาเซียนเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องของความคุ้มค่ามากกว่ามูลค่า ดังนั้นคนที่จะทำธุรกิจ หรือขายสินค้าให้กับคนกลุ่มนี้จะต้องเน้นไปที่คุณค่าของสินค้าหรือความคุ้มค่าที่ลูกค้าจะได้รับ มากกว่าการขายตัดราคาคู่แข่งไปเรื่อย ๆ
5. โอกาสจากเทรนด์ความยั่งยืน
75.5% ของคนในอาเซียนให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน ดังนั้นผู้ประกอบการที่จะเข้ามาบุกตลาดอาเซียนต้องใส่ใจไปถึงปัจจัยทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมด้วย
6. โอกาสจากค่านิยมของคนในอาเซียนที่เปิดกว้าง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกลุ่ม LGBTQ ที่ก่อเกิดเป็นกระแสซีรีส์วาย หรือสายมู ที่มาผสมผสานกับเรื่องของเทคโนโลยี เกิดเป็นกิจกรรมการตลาดมูเตลูผ่านเมตาเวิร์ส เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลบางส่วนจากงานสัมมนาแห่งปี
“Krungsri ASEAN LINK Forum” โดยธนาคารกรุงศรี จัดขึ้นเพื่อผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปในภูมิภาคอาเซียน ควรศึกษาข้อมูลเหล่านี้ให้ดีเพราะจะช่วยผลักดันธุรกิจของคุณให้เติบโตได้ไกลในอาเซียน
หลังจากรู้เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคแล้ว ธุรกิจแบบไหนที่จะตอบโจทย์ และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้ได้?
ชี้เป้า 6 ธุรกิจน่าลงทุนตามเทรนด์ผู้บริโภคในอาเซียน
1. ธุรกิจที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่ม Gen Z
จากรายงานของ
KANTAR Thailand ระบุว่า อาเซียนเป็นภูมิภาคที่ประชากรมากถึง 680 ล้านคน และอายุเฉลี่ยอยู่ที่ราว 30 ปีเท่านั้น ซึ่งก็พอจะคาดเดากันได้ว่ากลุ่ม Gen Z ที่อายุน้อยกว่านี้ก็เป็นจำนวนประชากรที่เยอะไม่แพ้กัน เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นอย่างประเทศอินโดนีเซีย ก็มีการออกแบบประกันตามไลฟ์สไตล์เพื่อเจาะกลุ่ม Gen Z เช่น ประกันคุ้มครองตอนไปดูคอนเสิร์ต เป็นต้น
2. ธุรกิจแฟชั่นและความงามตอบโจทย์การใช้ชีวิต Active แบบไม่สนวัย
ข้อมูลจาก Aging Asia ระบุว่า สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในเศรษฐกิจผู้สูงวัย (Silver Economy) ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้คนสูงวัยยังเป็นกลุ่มคนที่มีเงินออม และมีแนวโน้มว่าจะทำงานอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นธุรกิจสายความงาม และสุขภาพจะตอบโจทย์คนกลุ่มนี้มาก เพราะเรื่องสุขภาพจะถูกยกมาโฟกัสมาเป็นที่หนึ่งในใจคนสิงคโปร์ และกลุ่มผู้สูงวัยในตลาดอาเซียน
3. ธุรกิจเครื่องมือและสิ่งประดิษฐ์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า
เมื่อราคาอาจไม่ใช่ปัจจัยในการตัดสินใจของผู้บริโภคอีกต่อไป การเพิ่มมูลค่า และสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเขา โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์จะถือว่ามาแรงมาก ๆ
4. ธุรกิจเจาะกลุ่ม LGBTQ พร้อมรับค่านิยมที่เปิดกว้าง
อาจจะเป็นการเปิดธุรกิจใหม่ หรือปรับเปลี่ยนธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายมากขึ้น ยกตัวอย่างแบรนด์ที่ทำธุรกิจเจาะกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น อาทิ LEGO มีการออกตัวต่อเลโก้แบบไม่มีการระบุเพศ เป็นต้น
5. ธุรกิจด้านความเชื่อที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
ผลการศึกษาจากสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) เผยผลสำรวจคนไทยกว่า 1,200 คน พบว่า 88% เชื่อเรื่องการมูเตลู เราจะเห็นธุรกิจของสายมู แอป การดูดวงออนไลน์ต่าง ๆ มากมายที่ทำให้เศรษฐกิจสายมูโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
6. ธุรกิจด้านความยั่งยืน
จากสถิติพบว่า 75.5% ของคนในอาเซียนให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน ดังนั้นสิ่งนี้แทบจะเป็นข้อบังคับของคนทำธุรกิจ ที่จะต้องหันมาให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น หากต้องการจะทำธุรกิจให้โตได้ในอาเซียน ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการบัตรเครดิต ที่ใช้การสะสมแต้ม ที่สามารถนำแต้มกลับไปช่วยเหลือสังคม สิ่งแวดล้อม และชุมชนได้ด้วย
Krungsri THE COACH ขอแนะนำ : 3 สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเมื่ออยากทำธุรกิจในอาเซียน
- Contactless : เน้นความสะดวกสบาย ด้วยบริการแบบไร้สัมผัส ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สังคมยุคดิจิทัลแบบเต็มที่
- Quality & Value : เน้นนำเสนอสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและคุ้มค่า เพราะลูกค้าไม่ได้มองแค่เรื่องราคาเพียงอย่างเดียว
- Sustainability : ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะเริ่มตัดสินใจรัก และซื้อของจากแบรนด์นั้น ๆ เมื่อเห็นว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน
จากเทรนด์ โอกาส และความท้าทายทั้งหมดนี้ การที่ธุรกิจจะก้าวเข้าไปเติบโตในเศรษฐกิจอาเซียนได้นั้น ต้องใช้ความว่องไว คล่องตัว ไปพร้อมกับความรู้ ความเชี่ยวชาญ รู้จริงในหลาย ๆ ด้านที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาคนี้ ดังนั้น กรุงศรีในฐานะธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน จึงพร้อมเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาพาผู้ประกอบการทุกท่านบุกตลาดอาเซียนไปด้วยกัน
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะขยายธุรกิจ หรือเริ่มต้นสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ในภูมิภาคอาเซียน Krungsri The COACH มีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถรุดหน้าในตลาดอาเซียนได้อย่างมั่นคง อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ 4 เคล็ดลับนักขายมือทอง ถ้าอยากเป็นเจ้าตลาดอาเซียน
อยากทำธุรกิจในอาเซียนทำไมต้องไปกับ Krungsri
กรุงศรี เป็นธนาคารแห่งภูมิภาคที่มีสาขาและเครือข่ายธุรกิจในต่างประเทศอยู่ 6 บริษัท ดำเนินธุรกิจใน 5 ประเทศในอาเซียน โดยที่ผ่านมากรุงศรีเปิดโอกาสให้มีการพบปะเจรจาการค้าระหว่างประเทศมาแล้วกว่า 3,000 คู่ธุรกิจ
ที่กรุงศรียังมี MUFG (มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ที่มีธุรกิจทางการเงินที่ครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ นอกจากนี้ MUFG ยังมีเครือข่ายสำนักงานราว 2,000 แห่ง ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก เฉพาะในอาเซียน MUFG มีทั้งสาขา สำนักงาน ธนาคารพันธมิตร ที่ MUFG เข้าไปถือหุ้น ครอบคลุม 9 ใน 10 ประเทศของอาเซียน
นอกจากนี้กรุงศรียังมีโซลูชันที่พร้อมเชื่อมต่อกับคู่ค้าต่างแดนผ่าน
Krungsri ASEAN LINK บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจ ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมในอาเซียนที่แตกต่างและหลากหลาย พร้อมพาลูกค้าก้าวสู่ตลาดอาเซียนและนำเสนอโซลูชันทางการเงินให้กับลูกค้าแบบ Tailor-made แล้วมาเติบโตอย่างรวดเร็วไปพร้อมกันกับ GO ASEAN with krungsri
สุดท้ายการลงทุนในต่างแดนยังมีเรื่องที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมมากมาย ซึ่งท้าทายและแตกต่างจากการลงทุนในประเทศ ดังนั้น การเลือกพันธมิตรและที่ปรึกษาที่ดี จะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโต และช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจลงได้
อ้างอิง