“แอปกู้เงินออนไลน์” สำหรับคนรุ่นใหม่ กู้เองได้ อนุมัติไวได้เงินจริง

ในปัจจุบันหลายคนมองหาตัวช่วยที่ทำให้สามารถกู้เงินได้เร็วมากขึ้น อย่างเช่น "แอปกู้เงินออนไลน์” ซึ่งแอปเงินกู้นั้นก็มีทั้งแบบถูกและผิดกฎหมาย การมีแอปกู้เงินออนไลน์อาจเป็นโอกาสให้มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหลอกล่อเหยื่อด้วยโฆษณาชวนเชื่อ พร้อมคิดดอกเบี้ยเงินกู้น้อยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเอาไว้เพื่อจูงใจ

ในวันนี้เราจะมาแนะนำทุกคนเกี่ยวกับการกู้เงินออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมาย ปลอดภัยได้เงินแน่นอน เงินกู้ออนไลน์ (Digital Lending) หมายถึง การปล่อยสินเชื่อเงินกู้ให้แก่ธุรกิจ และบุคคลรายย่อยผ่านช่องทางออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งกระบวนการสมัคร การส่งเอกสาร และการรับแจ้งผลการอนุมัติ จะดำเนินไปอย่างสะดวกรวดเร็ว โดยที่เราไม่ต้องไปดำเนินการเองที่ธนาคารหรือสถาบันการเงิน พูดให้เข้าใจง่าย คือ สมัคร และส่งเอกสารออนไลน์ หลังจากนั้นรู้ผลทางออนไลน์เช่นเดียวกัน

และทีนี้เรามาทำความเข้าใจกันต่อว่าการกู้ออนไลน์หรือ Digital lending ในปัจจุบัน หลัก ๆ แล้วถูกแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภท ดังนี้ (ที่มา: krungsri.com)
 

1. แบบ Online Lender

คือ การปล่อยกู้ผ่านช่องทาง Digital ทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การตรวจสอบประวัติผู้กู้ โดยใช้ Data ที่มีในระบบ เช่น ประวัติในเครดิตบูโร เป็นลูกหนี้ชั้นดีหรือไม่ โดยดูจาก Credit Score รวมทั้งประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร จ่ายคืนตรงเวลา หรือผิดนัดบ่อยหรือไม่ โดยจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาประกอบการตัดสินใจ แล้วให้เจ้าหน้าที่ หรือระบบ AI เป็นผู้ตัดสินว่า หากเราขอสินเชื่อควรได้รับการอนุมัติหรือไม่
 

2. แบบ P2P Lending Platform

เป็นการกู้ยืมระหว่างบุคคลต่อบุคคล เป็นการให้สินเชื่อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยระบบจะจับคู่ผู้ขอสินเชื่อ และนักลงทุนซึ่งเป็นบุคคลทั่วไป โดยไม่ต้องผ่านคนกลางอย่างธนาคาร แต่ใช้แพลตฟอร์มเป็นตัวเชื่อมให้ทั้งสองฝ่ายได้เจอกัน
 

3. แบบ E-Commerce and Social Platform

คือ การที่ Platform E-Commerce หรือ Social Media มีบริการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้เอง ซึ่งจะใช้ Data ที่เก็บไว้อยู่แล้วเป็นคนประเมินเรื่องของวงเงินที่ปล่อยได้ และดอกเบี้ยของการปล่อยสินเชื่อแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่สินเชื่อแบบนี้มักจะปล่อยให้เป็นรูปแบบของเครดิต เพื่อหวังให้นำมาใช้หมุนเวียนเกิดการซื้อขายใน Platform
 

4. แบบ Marketplace Platform

มีความคล้ายระบบ P2P Platform แต่จะต่างกันตรงที่ Marketplace Platform จะเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างผู้ขอสินเชื่อ และเจ้าของเงินทุน เมื่อเรายื่นความต้องการสินเชื่อเข้าไปในระบบ ทางแพลตฟอร์มเองก็จะเป็นผู้ดำเนินเอกสารให้เราทุกขั้นตอน โดยเราเพียงแค่รอทำข้อสัญญาในตอนท้ายเท่านั้นเอง
 

5. แบบ Supply Chain Lender

คือ สินเชื่อใช้หมุนเวียนในธุรกิจ ที่ทางสถาบันการเงิน หรือธนาคารจะเข้ามาเป็นตัวกลางระหว่างเรา และซัพพลายเออร์ขนาดใหญ่ โดยที่เราจะต้องส่ง Invoice ในธุรกิจมาแลกเปลี่ยนกับเงินทุนจากเจ้าของเงินทุนนั้น ในอัตราที่อาจต่ำกว่าท้องตลาด แต่แลกกับเงินสินเชื่อเป็นก้อน เพื่อใช้ในการหมุนเวียนธุรกิจ โดยส่วนใหญ่แล้วสินเชื่อรูปแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะบางธุรกิจขาดกระแสเงินสดไม่ได้
 

6. แบบ Mobile Money Lender

คือ รูปแบบที่ธนาคารจับมือร่วมกับเครือข่ายมือถือเพื่อปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้า ด้วยเครือข่ายมือถือแต่ละเจ้าต่างก็มีฐานลูกค้าจำนวนมากอยู่แล้ว อีกทั้งในบางประเทศนั้นมีเครือข่ายมือถือเพียง 1-2 เจ้าเท่านั้น ซึ่งหากธนาคารร่วมมือกับเครือข่ายมือถือก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้กับคนทั่วไปเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ว่าใครยุคนี้ก็มีสมาร์ทโฟนด้วยกันทั้งนั้น
 

7. แบบ Tech-Enabled Lender

คือ รูปแบบการขอสินเชื่อที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี เช่น การไปขอสินเชื่อที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ แต่ต่างกันตรงที่รูปแบบนี้จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การปล่อยสินเชื่อได้ง่ายขึ้น อย่างเช่น การนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์เอกสาร และทำการประเมินวงเงินของผู้ขอสินเชื่อ ทำให้ผู้ยื่นขอสินเชื่อได้รับการอนุมัติเงินทุนได้ไวมากขึ้นกว่าการขอสินเชื่อแบบเดิม
  ทีนี้เรามาดูกันว่าจุดสังเกตของแอปกู้เงินที่น่าเชื่อถือ กับ แอปเถื่อนมีอะไรบ้าง?
 

ข้อสังเกตแรก: แอปถูกกฎหมายมีชื่ออยู่ใน BOT License Check

แอปกู้เงินถูกกฎหมาย ต้องได้รับใบอนุญาต และมีใบขึ้นทะเบียนให้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยที่เราสามารถค้นหาชื่อของแอปที่เราจะขอกู้ได้ที่ BOT License Check จะได้ไม่โดนหลอกถ้ามิจฉาชีพพยายามอ้างชื่อผู้ใช้บริการ สิ่งที่ต้องทำคือ เข้าไปตรวจสอบที่นี่ app.bot.or.th/BotLicenseCheck หากไม่มีชื่อที่ค้นหาในระบบก็อย่าเสี่ยงที่จะเข้าไปใช้บริการ มีโอกาสสูงที่จะโดนหลอก แม้ว่าเราต้องการกู้เงินด่วนก็ตาม ควรมีสติเช็กให้ชัวร์ก่อน
 

ข้อสังเกตที่สอง: แอปเงินกู้ถูกกฎหมาย จะเปิดเผยข้อมูลดอกเบี้ย ค่าดำเนินการ เบี้ยปรับอย่างชัดเจน

ตามกำหนดของธปท.ผู้ให้บริการต้องแสดงเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ให้ชัดเจน ได้แก่

• อัตราดอกเบี้ยต้องแสดงเปิดเผยชัดเจนตามแต่ละประเภทของสินเชื่อโดยต้องไม่เกินกว่าที่กฎหมายระบุไว้
• ต้องระบุค่าบริการ เบี้ยปรับอย่างละเอียดครบถ้วน
• แจ้งรายละเอียด และเงื่อนไขของผลิตภัณฑ์ เช่น จำนวนวงเงิน ระยะเวลาในการผ่อนชำระคืน

 

ข้อสังเกตที่สาม: แอปกู้เงินถูกกฎหมาย จะไม่เรียกเก็บค่าดำเนินการก่อนทำสัญญา

บางครั้งมิจฉาชีพอาจแอบอ้างชื่อเป็นชื่อผู้ให้บริการที่เป็นที่รู้จัก ซึ่งมาได้หลากหลายช่องทาง เช่น ส่งมาทาง SMS แก๊งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพ หรือแม้กระทั่งใน LINE Account ปลอม ๆ ให้กดลิงก์เข้าไปเพื่อดาวน์โหลดแอปให้กรอกข้อมูล ส่งเอกสาร หลังจากนั้นอาจมีการทักไลน์กลับมาว่าปล่อยวงเงินกู้ให้แล้ว แต่ต้องมีค่าธรรมเนียมหมื่นละ 500 บาท 1000 บาท หรือมากกว่านั้นตามแต่กรณี หรือแม้แต่ถ้าอยากได้เงินกู้เร็วขึ้นจะมีค่าธรรมเนียมเป็นค่าลัดคิว เป็นต้น

โดยจะหลอกให้เราโอนค่าธรรมเนียมเข้าไปยังบัญชีปลายทางก่อน หลังจากนั้นเมื่อถึงเวลาจริงกลับไม่มีเงินกู้โอนเข้าบัญชีเราเลย ซึ่งเหล่าพวกมิจฉาชีพจะหายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้เพราะฉะนั้นท่องให้ขึ้นใจเลยว่าหากเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน
 
หากใครหมุนเงินไม่ทันอยากมีตัวช่วย กู้เงินด่วนออนไลน์ที่ถูกกฎหมาย และไว้ใจได้ เราแนะนำ Krungsri iFIN ที่พร้อมให้บริการ เพียงแค่ สมัครกู้เงินผ่านแอปพลิเคชัน KMA krungsri app อัปโหลดเอกสารที่จำเป็นผ่านสมาร์ทโฟน ช่วยให้เข้าถึงการกู้ยืมสินเชื่อได้สะดวก และรวดเร็ว ดั่งสโลแกน สมัครง่าย รู้ผลไว ได้เงินเร็ว

ซึ่งหากได้รับการพิจารณาผ่านนั้น จะได้รับสินเชื่อเป็นเงินก้อนโอนเข้าบัญชี (Installment Loan) โดยมีกำหนดชำระคืนแน่นอน และที่สำคัญมาก ๆ คือปลอดภัยเพราะกู้ผ่านธนาคารกรุงศรี หากใครสนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย

สุดท้ายนี้อยากแนะนำให้กับผู้ที่ต้องการกู้เงินด่วนผ่านแอป ควรเช็กให้ชัวร์ก่อนว่าเป็นแอปเงินกู้ที่ถูกกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหลอกล่อด้วยวิธีต่าง ๆ มากมาย ทางที่ดีกู้เงินผ่านสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ สบายใจกว่า เพราะปลอดภัย มั่นใจ ได้เงินแน่นอน