รู้จัก การรวมหนี้ ตัวช่วยปิดยอดบัตรเครดิตแบบมือโปร

เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ในขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับปัญหาหนี้บัตรเครดิตพอกพูน ต้องจ่ายขั้นต่ำวนไปทุกเดือน หาเงินมาเท่าไรก็ไม่พอใช้หนี้ เพราะอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูงขึ้น ยิ่งมาเจอภาวะวิกฤติโรคระบาดซ้ำเข้าไปอีก ทำให้ประสบปัญหาจ่ายหนี้บัตรเครดิตไม่ไหว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำไงดีจนยากจะแก้ไข แต่ช่วงนี้คนไทยเริ่มปรับตัวได้แล้ว ภาคธุรกิจกลับมาฟื้นตัวและเดินหน้าได้อีกครั้ง ทางธนาคารแห่งประเทศไทยรวมทั้งสถาบันการเงิน จึงมีมาตรการช่วยเหลือคนเป็นหนี้และต้องการปิดยอดบัตรเครดิตออกมามากมาย อย่างเช่น การรวมหนี้บัตรเครดิตไว้ที่ธนาคารเดียว ผ่านสินเชื่อส่วนบุคคล หรือการรวมหนี้กับสินเชื่อบ้านที่มีอยู่ ซึ่งถือเป็นโอกาสดี สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้มีภาระดอกเบี้ยลดลง บริหารจัดการหนี้ได้ดีขึ้น และมีหนทางการปิดบัตรเครดิตได้สำเร็จ แต่หากยังไม่รู้ว่าการรวมหนี้ คืออะไร และมีข้อดีอย่างไร วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝากกัน
 
การรวมหนี้ คือ การที่เรานำหนี้ดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้สินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น ที่มีอยู่หลายที่ มารวมไว้ที่เดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ สามารถเลือกผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ ตามกำลังที่เราไหว และยังช่วยลดภาระในเรื่องดอกเบี้ยลงได้ ถือเป็นวิธีปิดบัตรเครดิตหรือสินเชื่อรายย่อยที่ง่ายและเร็วขึ้น สำหรับคนที่อยากจะรวมหนี้บัตรเครดิตสามารถทำได้ 2 รูปแบบ ด้วยกัน คือ

1. การรวมหนี้บัตรเครดิตที่เรามีอยู่กับหลายธนาคาร มาเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล กับธนาคารเดียว เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลงและบริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น ด้วยการผ่อนจ่ายหนี้เพียงก้อนเดียว ระยะเวลาสินเชื่อยืดหยุ่นได้สูงสุดถึง 5 ปี มีหลายธนาคารให้บริการอยู่ กรณีไม่มีหลักประกัน ธนาคารส่วนใหญ่จะให้วงเงินได้สูงสุด 5 เท่าของรายได้
2. การรวมหนี้บัตรเครดิตเข้าไว้กับหนี้สินเชื่อบ้านที่เรามีอยู่ ให้กลายเป็นหนี้ก้อนเดียวกับธนาคารเดียว เพื่อช่วยลดภาระเรื่องดอกเบี้ยและการผ่อนค่างวดรายเดือน โดยจะได้วงเงินไม่เกินมูลค่าของหลักประกัน และคิดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหนี้บัตรเครดิตที่นำมารวมหนี้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านภายหลังช่วงส่งเสริมการขาย (Teaser Rate) บวก 2% ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนมาตรการนี้ และออกมาตรการให้สามารถรวมหนี้แบบข้ามธนาคารได้แล้ว ซึ่งตอนนี้มีธนาคารที่เข้าร่วมโครงการถึง 13 ธนาคาร (ข้อมูล ณ วันที่ 6 เม.ย. 65) ใครอยากรวมหนี้ไว้กับธนาคารไหนเพื่อปิดยอดบัตรเครดิตก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ทำตาม 3 วิธีเหล่านี้

ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย      

1. อัตราดอกเบี้ยของหนี้บัตรเครดิตลดลง เพราะเปลี่ยนเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล หรือรวมกับสินเชื่อบ้าน ช่วยให้เงินที่จ่ายหนี้ในแต่ละเดือนไปลดในส่วนของเงินต้นได้มากขึ้น และปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
2. บริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น มีหนี้ให้จ่ายเพียงก้อนเดียวและอัตราดอกเบี้ยเดียว จ่ายกับธนาคารแห่งเดียว จากเดิมที่กระจายอยู่หลายธนาคาร
3. ชำระหนี้ได้เท่าที่ไหว สามารถเจรจาได้ตามกรอบวงเงินและระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด ส่วนใหญ่ให้ระยะเวลาสินเชื่อสูงสุดถึง 5 ปี เลือกยอดผ่อนจ่ายในแต่ละเดือนเป็นยอดที่เราจ่ายไหว โดยมีเงื่อนไขว่าต้องสามารถปิดหนี้ได้ตามเวลาที่กำหนด
4. หากเจรจารวมหนี้สำเร็จก่อนเป็นหนี้เสีย จะช่วยรักษาประวัติข้อมูลเครดิตของคุณไว้ได้ เพราะการปล่อยให้เป็นหนี้เสียอาจส่งผลต่อการทำธุรกรรมในอนาคต
5. เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีในการปิดบัตรเครดิต หมดกังวลเรื่องภาระหนี้จากหลายช่องทาง และธนาคารเองก็พร้อมให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาแก่คุณอย่างเต็มที่เพื่อให้สามารถปิดหนี้บัตรเครดิตได้สำเร็จ

มาถึงตรงนี้สำหรับใครที่อยากรวมหนี้บัตรเครดิตที่มีอยู่หลายใบ ให้เป็นหนี้ก้อนเดียวกับธนาคารเดียว คงมองเห็นทางเลือกใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และรู้แล้วว่าการรวมหนี้ สามารถทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเลือกรวมหนี้แบบไหน กับธนาคารใด เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการในการปิดยอดหนี้บัตรเครดิตมากที่สุด มาดูกันว่าถ้าอยากเปิดโอกาสให้ตัวเองมีคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนการพิจารณารวมหนี้

1. ลิสต์รายการหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดที่เรามีอยู่ สรุปยอดว่ามีบัตรเครดิตทั้งหมดกี่ใบ แต่ละใบมียอดหนี้เท่าไหร่ เพื่อประเมินเบื้องต้นว่าเราจะต้องขอสินเชื่อจำนวนเท่าไห่ร เช่น มีหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด 3 ใบ ยอดหนี้ 30,000 40,000 และ 50,000 ตามลำดับ เท่ากับว่าเราต้องได้สินเชื่ออย่างน้อย 120,000 เพื่อให้ครอบคลุมหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด
2. ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือน โดยคำนวณจากรายได้สุทธิในแต่ละเดือน หักลบกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต หรือค่าใช้จ่ายประจำต่าง ๆ แล้วลองดูว่าเหลือเท่าไร เงินส่วนนี้จะเป็นเงินที่เราสามารถนำไปผ่อนจ่ายค่างวดได้แบบไม่มีปัญหา ถ้ายิ่งเหลือเยอะ ก็ยิ่งปิดยอดหนี้บัตรเครดิตได้เร็ว เช่น มีรายได้สุทธิ 30,000 บาทต่อเดือน มีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 20,000 บาทต่อเดือน เราก็จะเหลือเงิน 10,000 บาท ไว้ผ่อนชำระกับธนาคาร ยิ่งเราผ่อนจ่ายต่อเดือนได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งปิดหนี้บัตรเครดิตได้เร็วขึ้นเท่านั้น เพราะถึงแม้ธนาคารจะให้ระยะเวลากู้ยืมสูงสุด 5 ปี แต่การผ่อนชำระครบก่อนถึงกำหนด ก็หมายความว่าเราจะเสียดอกเบี้ยน้อยลงตามไปด้วย
3. 3. หาข้อมูลธนาคารที่ให้บริการรวมหนี้ ดูว่าธนาคารไหนคิดดอกเบี้ยต่ำที่สุด และมีเงื่อนไขตรงกับที่ต้องการบ้าง กรณีที่มีหนี้บ้านอยู่แล้ว แนะนำให้ใช้วิธีรวมหนี้บ้านเข้ากับหนี้บัตรเครดิต เพราะจะได้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ถ้าเราไม่มีหนี้สินเชื่อบ้าน ก็ให้รวมหนี้บัตรเครดิตเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลแทน อย่างสินเชื่อส่วนบุคคลกรุงศรี ที่ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 2 ล้านบาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ ดอกเบี้ยต่ำสุด 10.99% สำหรับ 12 เดือนแรก แบบลดต้นลดดอก และยังสามารถเลือกผ่อนได้สบาย 12-60 เดือน แบบนี้ก็ช่วยลดภาระดอกเบี้ยลง และบริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น เมื่อพิจารณาครบถ้วนแล้ว ก็สามารถติดต่อเพื่อดำเนินการรวมหนี้กับธนาคารที่เลือกได้เลย

หากใครยังสงสัยและสนใจในการมองหาทางออกอื่น ๆ สำหรับปิดยอดบัตรเครดิตหรือรวมหนี้ Krungsri The COACH ตอน ติดโควิด VS ติดหนี้บัตรเครดิต รอให้คำตอบคุณอยู่ คลิกชมได้เลย


การรวมหนี้บัตรเครดิต ถือเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาติดหนี้บัตรเครดิตหลายใบแล้วไม่สามารถจ่ายเต็มจำนวนได้ ต้องจ่ายแบบขั้นต่ำอยู่ทุกเดือน ทำให้ต้องรับภาระดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง ซึ่งการรวมหนี้ จะช่วยให้สามารถปิดหนี้บัตรเครดิตได้ง่ายขึ้น เหมาะกับคนที่มีความตั้งใจจะปิดยอดหนี้บัตรเครดิตเพื่อเริ่มต้นชีวิตทางการเงินใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญจะต้องมีรายได้ก่อน ถึงจะไปติดต่อรวมหนี้กับธนาคารได้ มิฉะนั้นหนี้ก้อนใหม่นี้อาจจะกลายเป็นภาระมากกว่าที่จะเป็นตัวช่วยให้เราผ่านพ้นปัญหาไปได้ และถ้าเราไม่อยากกลับมาเป็นหนี้ดอกเบี้ยสูงอีก ก็ควรเริ่มวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวนั่นเอง