โลกยุคดิจิทัลพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว กิจกรรมในชีวิตคนเราตั้งแต่เช้าจรดเย็นถูกบันทึกเป็นข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งประวัติการชำระเงินถือเป็นข้อมูลชนิดหนึ่งที่สถาบันการเงินให้ความสำคัญในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เพราะต้องดูว่าเมื่อปล่อย
สินเชื่อไปแล้วมีโอกาสได้รับเงินคืนมากน้อยแค่ไหน หากเจอลูกค้าที่มีประวัติการชำระเงินไม่ดี สถาบันการเงินก็มักปฏิเสธการให้สินเชื่อ ในทางกลับกันหากเจอลูกค้าที่มีประวัติการชำระเงินดีมาโดยตลอด สถาบันการเงินก็มักปล่อยสินเชื่อให้ เพราะถือว่าเป็นลูกค้าที่มีเครดิตการเงินดีนั่นเอง
เหตุผลที่คนเราต้องพยายามรักษาเครดิตการเงินดีไว้ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เพราะความต้องการใช้เงินไม่สอดคล้องกับจำนวนเงินที่มีในแต่ละช่วงอายุ ตอนเด็กได้ค่าขนมไปโรงเรียนแต่ไม่ค่อยได้ใช้อะไร จึงมีเงินเหลือเอาไปฝากธนาคาร พอโตมาเป็นผู้ใหญ่เข้าสู่วัยทำงาน ภาระต่างๆ ก็ทยอยเข้ามาเป็นระยะ ตั้งแต่ออกรถยนต์เพื่อใช้ไปทำงาน จัดงาน
แต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณี ซื้อบ้านใหม่ไว้เป็นเรือนหอ และกู้ยืมเงินมาลงทุน เป็นต้น
ซึ่งวัยทำงานมักจำเป็นต้องขอสินเชื่ออยู่บ่อย ๆ สำหรับค่าใช้จ่ายก้อนโต พอย่างเข้าสู่
วัยเกษียณความต้องการใช้เงินจะลดลง เพราะสิ่งที่ต้องการหลายอย่างมีแล้ว ยกเว้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ขึ้นอยู่กับว่าเจ็บป่วยเป็นโรคอะไร ต้องใช้เงินมารักษามากน้อยแค่ไหน จึงเป็นเหตุผลที่เราควรรักษาเครดิตการเงินดียิ่งชีพ เพื่อให้ฐานะการเงินเติบโตอย่างมั่งคั่งและมั่นคง
อย่างที่เกริ่นไปในยุคดิจิทัลข้อมูลข่าวสารส่งถึงกันหมดอย่างรวดเร็ว สำหรับข้อมูลประวัติการชำระเงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ รวมถึงการชำระเงินในระบบสาธารณูปโภคและการสื่อสาร จะถูกเก็บรวบรวมมาที่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือที่เรียกกันว่า “เครดิตบูโร” นั่นเอง ทำให้สถาบันการเงินสามารถเห็นประวัติการชำระเงินของผู้ขอสินเชื่อได้อย่างละเอียดโดยไม่ต้องเคยเป็นลูกค้ากันมาก่อน ดังนั้น เราจึงควรรักษาประวัติการชำระเงินที่ดีโดยเวลามีใบแจ้งหนี้ส่งมาก็ควรชำระเงินให้ทันกำหนด ผมมองว่าเครดิตบูโรเปรียบเหมือนหน้าต่างที่เผยให้เห็นความน่าเชื่อถือทางการเงิน สมมุติว่าเคยมีประวัติการใช้บัตรเครดิต สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยชำระเงินดีมาโดยตลอด การขอสินเชื่อใหม่มักไม่ค่อยมีปัญหา เพราะสั่งสมความน่าเชื่อถือทางการเงินมานาน แต่ทั้งนี้สถาบันการเงินยังใช้หลักเกณฑ์อื่นมาพิจารณาประกอบด้วย อาทิเช่น อาชีพการงานมั่นคง รายได้เข้ามาสม่ำเสมอ หนี้สินรวมต่อรายได้ และภาระผ่อนชำระรวมไม่เกินเกณฑ์ เป็นต้น
เครดิตการเงินดีเป็นใบเบิกทางเข้าสู่ระบบสินเชื่อได้ ลองมาดูกันครับว่ามีประโยชน์กับชีวิตด้านใดบ้าง
- รับสิทธิประโยชน์เต็มที่จากบัตรเครดิต
บัตรเครดิตมักเป็นวิธีการชำระเงินที่คุ้มค่ามากที่สุด เพราะยังไม่ต้องจ่ายเงินไปในทันทีรอใบแจ้งหนี้มาค่อยไปจ่าย ได้รับคะแนนสะสมจากทุกการใช้จ่าย และที่สำคัญมักมีโปรโมชั่นส่วนลดเงินคืนแรง ๆ อยู่เป็นประจำ โดยสถาบันการเงินจะออกบัตรเครดิตให้กับผู้ที่มีเครดิตการเงินดีและมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน ซึ่งปัจจุบันมีคนไทยถือบัตรเครดิตเพียงแค่ 6 ล้านคนเศษ
- วงเงินสินเชื่อได้เต็มที่ตามรายได้
ปกติการอนุมัติสินเชื่อมักมีการจำแนกลูกค้าโดยการให้คะแนนจากข้อมูลต่างๆ (Credit Score)โดยเฉพาะประวัติการชำระเงินเพื่อพิจารณาการให้วงเงินสินเชื่อ ถ้าได้รับคะแนนสูงก็หมายความว่ามีโอกาสได้รับวงเงินเต็มที่ตามรายได้ของผู้ขอกู้ หากไม่ต้องการใช้เยอะก็สามารถคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอลดวงเงินลงมาได้ตามต้องการ
- ขอสินเชื่อได้ต่อเนื่องไม่มีปัญหา
คนเรามีความต้องการสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ การซื้อของชิ้นใหญ่อย่างบ้านและรถมักจำเป็นต้องขอสินเชื่อ หากมีเครดิตดีก็ไม่มีปัญหาในการขอสินเชื่อหลายอย่างในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างเช่น แต่งงานแยกครอบครัว อยากซื้อรถยนต์ส่วนตัว ซื้อคอนโดใกล้ที่ทำงาน และซื้อบ้านใกล้บ้านพ่อแม่ ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่ต้องดูรายได้และเงินออมด้วยว่าจ่ายไหวไหม
- ขยายขนาดการลงทุนด้วยพลังทวี
การใช้เงินเก็บของตนเองก็สามารถลงทุนได้ในระดับนึง แต่ถ้ามีเครดิตการเงินดีก็สามารถหยิบยืมเงินคนอื่นมาลงทุนได้ ซึ่งคนอื่นก็มักจะเป็นสถาบันการเงินที่ไปขอสินเชื่อมาเพิ่มขนาดการลงทุนอีกหลายเท่าตัว ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนเติบโตก้าวกระโดด เปรียบเหมือนมีพลังทวี (Leverage) ขยายขนาดธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ต้องดูให้ดีลงทุนอย่างรอบคอบเพื่อลดความเสี่ยงขาดทุนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
นี่คือเหตุผลทั้งหมดของเครดิตการเงินดีมีประโยชน์ ที่อยากให้ผู้อ่านตั้งใจบริหารเครดิตด้านการเงินของตัวเองให้ดี รับรองว่าโอกาสดี ๆ จะเข้ามีเยอะเลยละครับ