ส่องเทรนด์ BUY NOW PAY LATER ช่วยธุรกิจ SME โตขึ้นได้อีก

ปี 2566 ในยุคที่การตลาดก้าวหน้าไปพร้อมกับเทคโนโลยี โมเดลการตลาดใหม่ ๆ จึงถูกนำมาปรับใช้เพื่อรองรับกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลายคนคงคุ้นตากับคำว่า “Buy Now Pay Later” หรือ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” ที่ปกติต้องจ่ายเงินก่อนถึงได้รับสินค้าถึงมา แต่ปัจจุบันก็เริ่มมีระบบชำระเงินปลายทาง ซึ่งระบบการจ่ายเงินแบบนี้หลาย ๆ คนคงคุ้นเคยจาก Lazada หรือ Shopee กันมาบ้างแล้ว แล้วจะเป็นอย่างไรหากเราหยิบโมเดลการตลาด “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” มาใช้กับธุรกิจ SME หรือธุรกิจรายย่อยล่ะ? รูปแบบ Buy Now Pay Later หรือซื้อก่อนจ่ายทีหลัง เรียกสั้น ๆ ว่า BNPL คือ รูปแบบการชำระเงินที่ลูกค้าจะได้สินค้าไปใช้ก่อน แล้วค่อยชำระค่าสินค้า หรือบริการนั้น ๆ ทีหลัง บางกรณีอาจใช้วิธีการแบ่งชำระเป็นงวด ๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำสินค้าไปใช้ล่วงหน้า แล้วค่อยกลับมาจ่าย

ซึ่งรูปแบบการชำระเงินเป็นเงินก้อนทีเดียวก็จะไม่เสียดอกเบี้ยเพิ่ม หรืออาจมีดอกเบี้ยเล็กน้อยตามที่ตกลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ร้านค้า หรือผู้ให้บริการเป็นผู้กำหนด เหมือนการผ่อนสินค้านั่นเอง

ตัวอย่าง เราซื้อหูฟังมาในราคา 2,500 บาท โดยเลือกรูปแบบการชำระเงินแบบ Buy Now Pay Later ในแพลตฟอร์ม E-commerce ซึ่งตามเงื่อนไขของแต่ละแพลตฟอร์มก็จะแตกต่างกันไป อาจกำหนดให้ชำระภายในเดือนนั้น ๆ โดยมีดอกเบี้ย 0% และหากผ่อนชำระในเดือนถัดไป อาจมีดอกเบี้ยเพิ่ม 3% แล้วแต่กำหนด

การชำระสินค้าแบบนี้ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ยังไม่มีกำลังจ่ายสินค้าในราคาเต็ม และต้องการระยะเวลาเพิ่มเพื่อหาเงินมาชำระส่วนที่เหลือแต่ก็ไม่อยากรอ เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ ก็อาจพลาดโอกาสที่จะได้สินค้าชิ้นนั้นไปให้คนอื่นแทน ซึ่งในแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีรูปแบบ และเงื่อนไขที่ระบุไว้ชัดเจนเพื่อเป็นข้อตกลงในการชำระเงิน อาจใช้บัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เป็นตัวกลางในการยืนยันตัวตน ที่เงื่อนไขเป็นอย่างนี้นั่นก็เพราะถ้าหากไม่ชำระให้ครบตามที่กำหนด เจ้าของร้านค้าก็สามารถตามตัวผู้ซื้อได้ สำหรับโมเดลการชำระเงิน Buy Now Pay Later มีข้อแตกต่างกับบัตรเครดิตกันตรงที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงเครดิตได้ง่าย เพราะบัตรเครดิตอาจต้องมีอายุที่กำหนด และมีเงินฝากที่มากประมาณหนึ่ง แต่การจ่ายเงินแบบ Buy Now Pay Later สามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่อยู่ในเงื่อนไขของการทำบัตรเครดิต เช่น นักเรียน หรือกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยสามารถใช้จ่ายได้เหมือนกับบัตรเครดิต แต่บัตรเครดิตก็มีข้อได้เปรียบตรงที่ว่า สามารถใช้ได้ทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร หรือออนไลน์ชอปปิง แต่โมเดล Buy Now Pay Later สามารถใช้ได้แค่บางแพลตฟอร์มออนไลน์ ถึงจะใช้จ่ายได้นั่นเอง
  โมเดลการชำระเงิน Buy Now Pay Later เริ่มเข้ามาใช้ตั้งแต่ช่วงปี 2563 ก็คือช่วงที่โควิด-19 กำลังเริ่มระบาด เนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจชะงักตัวทั่วโลก ทำให้การใช้จ่ายของผู้คนหยุดชะงักไปด้วย รูปแบบการชำระเงิน Buy Now Pay Later จึงเข้ามาเป็นพระเอกตัวสำคัญที่ทำให้ธุรกิจตลาด E-commerce กลับมาวิ่งได้อีกครั้ง

ด้วยตัวเลือกจ่ายภายใน 30 วัน หรือแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ค่อนข้างเป็นที่นิยมในกลุ่มสายช้อปปิ้งโดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่อายุตั้งแต่ 20 – 40 ปี หรือกลุ่ม Millennial ที่เป็นวัยทำงานเสียส่วนใหญ่มักจะชอบรูปแบบการชำระเงิน Buy Now Pay Later มากกว่า 40% ยิ่งยืดหยุ่นในการจ่ายก็ยิ่งทำให้กำลังซื้อมีเพิ่มมากขึ้น

บริการชำระเงิน Buy Now Pay Later กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักชอป สินค้าส่วนใหญ่ที่นิยมจ่ายเงินด้วย Buy Now Pay Later ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงสินค้าเพื่อความบันเทิงดิจิทัล เช่น ภาพยนต์ เกม เพลง รวมถึงสินค้าและบริการ เช่น ค่าที่พัก โรงแรม ตั๋วเครื่องบิน คลินิกดูแลสุขภาพ เป็นต้น

จากการเติบโตของ Buy Now Pay Later แบบออนไลน์ทั่วโลกในปี 2565 มีมูลค่าประมาณ 7.3 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 2.14 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งศูนย์วิจัยการตลาดยังคาดว่ารูปแบบการชำระเงิน Buy Now Pay Later จะโตขึ้นได้อีกถึงปี 2569 ประมาณร้อยละ 40 – 45 ต่อปี เนื่องด้วยเทคโนโลยี และแพลตฟอร์มธุรกิจออนไลน์ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการตอบสนองสายช้อปทั้งหลาย
  สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME รายย่อยเองก็สามารถเอามาปรับใช้เข้ากับแพลตฟอร์มการซื้อขายบนโลกออนไลน์ได้ ด้วยการเข้าร่วมร้านค้ากับทางแพลตฟอร์ม E-commerce ต่าง ๆ เช่น Lazada, Shopee หรือร้านค้าขนาดเล็กที่มีหน้าร้านออนไลน์เป็นของตนเองบน Instagram, Twitter หรือ Facebook ที่ไม่ได้เข้าร่วมกับแพลตฟอร์ม E-commerce เจ้าใหญ่ อาจสร้างเงื่อนไขเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการชำระเงินในรูปแบบของ Buy Now Pay Later ได้เช่นกัน

ยกตัวอย่าง เช่น ร้านขายสินค้าโมเดลฟิกเกอร์ ซึ่งถูกจัดเป็นสินค้าประเภทของฟุ่มเฟือยเนื่องจากไม่ได้มีความจำเป็นในการใช้ชีวิต เพียงแต่อาจเป็นความชื่นชอบส่วนบุคคลที่เป็นสายสะสม และด้วยราคาที่ค่อนข้างแรง หากเป็นฟิกเกอร์ตัวที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่า 25 เซนติเมตรขึ้นไปก็อาจแตะราคาถึงหลักหมื่น ทางร้านก็สามารถหยิบ Buy Now Pay Later นี้มาใช้กับการเลือกชำระเงิน เพื่อเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าได้เช่นกัน ด้วยการกำหนดระยะเวลาการผ่อนชำระภายใน 30 วัน และการใช้ข้อมูลของลูกค้าเพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งลูกค้าเองก็สามารถเลือกผ่อนชำระด้วยบัตรเครดิตได้เช่นกัน

1. เพิ่มโอกาสขาย เราจะเห็นได้ว่ารูปแบบการชำระเงิน Buy Now Pay Later เริ่มขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มมีอิทธิพลกับผู้ซื้อในเชิงการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า หรือบริการนั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการขายโดยเฉพาะกับลูกค้าที่เพิ่งซื้อ หรือใช้บริการเป็นครั้งแรก ให้รู้สึกว่าไม่ต้องแบกรับภาระที่ต้องจ่ายเงินก้อนทีเดียว
2. ลูกค้าหลากหลาย สำหรับร้านค้าที่ต้องการขยายฐานลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น การใช้รูปแบบการชำระเงิน Buy Now Pay Later ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถเอามาจีบลูกค้าใหม่ ๆ ได้เหมือนกัน จากคนที่ไม่เคยคิดจะซื้อสินค้าของเรา ก็อาจเปลี่ยนใจเพราะมีบริการ Buy Now Pay Later สำหรับสินค้าที่มีราคาสูงนั่นเอง
3. ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำเรื่อย ๆ ลูกค้าที่กลับมาใช้รูปแบบการชำระเงิน Buy Now Pay Later มักมีโอกาสกลับมาซื้อซ้ำเพราะความเคยชินจากการเลือกใช้บริการร้านใดร้านหนึ่ง ทำให้รูปแบบของ Buy Now Pay Later เพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากลับมาอัตราถึง 20% ด้วยสไตล์การช้อปที่สามารถแบ่งชำระได้มากกว่า 1 เดือน ก็ยิ่งตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นเพราะมีเวลาเก็บเงินเพิ่ม

1. ต้องสังเกตพฤติกรรมของลูกค้า

ว่าฐานลูกค้าของเราเป็นกลุ่มไหน มีรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างไร เป็นวัยทำงาน เป็นนักเรียนนักศึกษา หรืออาชีพฟรีแลนซ์ เพราะข้อมูลของลูกค้าเองก็จะช่วยบ่งบอกความสามารถ และความรับผิดชอบในการผ่อนชำระคืนได้ด้วยเช่นกัน
 

2. การตั้งเงื่อนไข โปรโมชั่น หรือสิทธิพิเศษ

จากการเป็นลูกค้าที่ใช้ Buy Now Pay Later มีอะไรบ้าง? เพราะการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนเพื่อให้ธุรกิจไม่ขาดสภาพคล่อง และลูกค้าสามารถจ่ายเงินค่าสินค้าได้ทันเวลา

สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่อยากได้สินเชื่อมาต่อยอดกับโมเดล Buy Now Pay Later ทางธนาคารกรุงศรีก็มีสินเชื่อธุรกิจ Quick Loan สินเชื่อธุรกิจ SME ตอบทุกโจทย์ของธุรกิจ มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความต้องการ วงเงินสูง 2 แสน - 15 ล้านบาท ผ่อนสบาย ๆ สูงสุดถึง 12 ปี ใช้หลักประกันสินเชื่อได้หลายรูปแบบ ศึกษารายละเอียด และเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ตรงนี้เลย หรือจะโทรปรึกษากับเจ้าหน้าที่ก่อนก็ได้เช่นกัน โทร. 0-2296-6262 หรือสายด่วนโทร. 1572

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก

• krungsri.com/th/research
• krungsri.com/th/wealth
• smethailandclub.com
• techsauce.co
• kwilife.com