“ราคาพาร์” คืออะไร? นิยามที่นักลงทุนมือใหม่ควรรู้
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

“ราคาพาร์” คืออะไร? นิยามที่นักลงทุนมือใหม่ควรรู้

icon-access-time Posted On 09 ธันวาคม 2565
by Krungsri The COACH
สำหรับคนที่อยู่ในแวดวงการเล่นหุ้น ก็อาจจะผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้วกับคำว่า “ราคาพาร์” และ “หุ้นแตกพาร์” แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ยินหรือเพียงแค่เคยได้ยินแต่ยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริง

วันนี้เรารวบรวมเนื้อหาน่าสนใจมาไว้ในบทความนี้แล้ว รับรองได้เลยว่าจะไขข้อสงสัยในทุกประเด็นที่ทุกคนอยากรู้ “พาร์หุ้นคืออะไร, หุ้นแตกพาร์คืออะไร และอะไรคือราคาพาร์” ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูพร้อม ๆ กันเลย

ราคาพาร์ คืออะไร

ราคาพาร์ หมายถึง ราคาที่เอาไว้บอกทุนเริ่มต้นของบริษัทเมื่อตอนจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ หรือให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ "ราคาต้นทุนเริ่มต้นของบริษัท"

เพื่อบอกจำนวนของหุ้นของบริษัทนั้น ๆ ที่มีการซื้อขายกันในตลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้มีผลหรือส่วนเกี่ยวข้องกับราคาของหุ้นที่ซื้อขายในตลาด ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกได้ว่าหุ้นถูกหรือแพง ไม่สามารถบอกว่าหุ้นดีหรือไม่ดี
 
ราคาพาร์ คืออะไร? มีความหมายว่าอย่างไร

จากตารางที่แสดงไปข้างต้น ราคาพาร์จะคำนวณโดย มูลค่าทุนจดทะเบียนและนำมาหารด้วยจำนวนหุ้นที่บริษัทออกขึ้นมา ตัวอย่างเช่น บริษัท YYY จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ด้วยทุนจดทะเบียน 20,000,000 บาท จากนั้นบริษัทแบ่งหุ้นออกเป็น 2,000,000 หุ้น ดังนั้นราคาพาร์ ของบริษัท YYY ก็จะเท่ากับ 20,000,000/2,000,000 = 10 บาทต่อหุ้น

พอจะเห็นภาพกันชัดขึ้นกันบ้างแล้วใช่ไหม ต่อไปเราจะพาไปดูว่าราคาพาร์มีประโยชน์อะไรและอย่างไรบ้าง

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าไม่อยากพลาดหรืออยากฟังเพลิน ๆ แบบรวดเดียวจบ ขอแนะนำ “พาร์หุ้นคืออะไร ทำไมต้องรู้? Krungsri The COACH Ep.42” ไปฟังกันต่อได้เลย

มาต่อกันที่ ราคาพาร์มีประโยชน์อย่างไร และเอาไปทำอะไรบ้าง?

  • ราคาพาร์ มีไว้เพื่อบอกว่าทุนจดทะเบียนเริ่มต้นของบริษัทนั้น ๆ ที่เริ่มจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์มีมูลค่าเป็นกี่บาทต่อหุ้น
  • ดูสภาพคล่องของหุ้นบริษัท ว่ามีหุ้นที่ซื้อมาขายในตลาดทั้งหมดกี่ตัว ตัวอย่างเช่น ถ้าหากรู้ว่าราคาพาร์ และทุนจดทะเบียนของบริษัทที่สนใจ เราก็จะสามารถรู้ได้ว่าบริษัทที่เรากำลังสนใจอยู่นั้นมีหุ้นที่ซื้อขายในตลาดมากน้อยเพียงใด โดยที่เราจะสามารถรู้ได้ว่าถ้าจำนวนหุ้นในตลาดมากก็หมายความว่าเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง การซื้อขายจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่าย นั่นเอง

ราคาพาร์สูง กับ ราคาพาร์ต่ำ แบบไหนดีกว่ากัน?

ในจุดนี้จะไม่สามารถบอกได้ว่าแบบไหนดีไปกว่ากัน เนื่องจากราคาพาร์ไม่ได้บอกอะไรเลยนอกเหนือไปจากทุนของเจ้าของเมื่อเริ่มต้นกิจการ และจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายในตลาดนั้น ซึ่งจะไม่ได้บอกในส่วนของคุณภาพของหุ้นหรือบริษัทเลย

“หุ้นแตกพาร์” คืออะไร? และมีข้อดีอย่างไรบ้าง?

หุ้นแตกพาร์ คือ การทำให้ราคาพาร์หุ้นตัวนั้น ๆ ลดลง โดยที่จะส่งผลให้จำนวนของหุ้นเพิ่มขึ้นนั่นเอง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อนำราคาพาร์กับจำนวนหุ้นมาคำนวณแล้วก็จะได้มูลค่าเท่าเดิมก่อนแตกพาร์
 
หุ้นแตกพาร์ คืออะไร? มีความหมายว่าอย่างไร

เมื่อหุ้นแตกพาร์ จะเกิดอะไรขึ้น?

1. จำนวนหุ้นมากขึ้น เพิ่มสภาพคล่องการลงทุน

จุดประสงค์หลัก ๆ ของการแตกพาร์ คือ เพิ่มสภาพคล่องของหุ้นในตลาด ดังนั้น เมื่อราคาพาร์ลดลง จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้หุ้นตัวนั้น ๆ ซื้อขายง่ายขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเจ้าของบริษัทจะถือว่าเป็นการขยายฐานผู้ถือหุ้นรายย่อยทำให้ Free Float สูงขึ้นนั่นเอง มากไปกว่านั้นอาจมีการเก็งกำไรจากนักลงทุนรายย่อยมากขึ้นอีกด้วย
 

2. ราคาหุ้นลดลง มีโอกาสให้ซื้อขายง่ายขึ้น

ถ้าราคาหุ้นสูงเกินไป ก็เป็นอันยากที่นักลงทุนรายย่อยจะจับต้องได้ เนื่องจากในการที่จะซื้อแต่ละทีต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง แต่เมื่อมีการแตกพาร์และจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นก็จะลดลงตามสัดส่วนเช่นกัน ดังนั้น จึงเป็นโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยซื้อหุ้นได้ง่ายขึ้น โดยที่ใช้เงินลงทุนที่น้อยลงกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น หุ้นมีราคาพาร์ 20 บาท และราคา 100 บาทต่อหุ้น หมายความว่าซื้อหุ้นขั้นตํ่า 1 Board Lot (100 หุ้น) ต้องใช้เงิน 10,000 บาท (100 หุ้น x 100 บาทต่อหุ้น)

แต่เมื่อใดที่มีการแตกพาร์เป็น 1 บาท ราคาลดลงเหลือ 10 บาทต่อหุ้น แบบนี้มีเงินเพียง 1,000 บาท (100 หุ้น x 10 บาทต่อหุ้น) ก็เริ่มลงทุนได้แล้วนั่นเอง
 

3. มูลค่าหลักทรัพย์ (Market Cap.) เท่าเดิม

แตกพาร์ไม่ได้มีผลต่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ใด ๆ เลย อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นที่ว่า การหั่นพายเป็นชิ้นเล็กลงเพื่อให้ได้จำนวนชิ้นมากขึ้น ไม่ว่าเราจะหั่นพานชิ้นเล็กเท่าไหนก็ตามแต่ ขนาดของพายก็ยังคงเดิมอยู่ดี

เข้าใจกันไม่ยากเลยใช่ไหม ทีนี้เมื่อรู้แล้วเมื่อหุ้นแตกพาร์แล้วนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ต่อไปจะเป็นในส่วนของ How to เมื่อหุ้นแตกพาร์
 
ต้องลงทุนอย่างไรเมื่อหุ้นแตกพาร์

ต้องลงทุนอย่างไร เมื่อหุ้นแตกพาร์?

สรุปพอสังเขปอีกครั้งว่าการแตกพาร์ หรือแตกหุ้น เป็นการเพิ่มสภาพคล่องของการซื้อขาย ดังนั้น จึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวอะไรกับพื้นฐานธุรกิจและงบการเงินของบริษัทเลย ซึ่งถ้าหากยังมั่นใจในพื้นฐานของหุ้นที่ถือ ก็สามารถลงทุนตามกลยุทธ์เดิมที่วางไว้ก็ย่อมได้

นอกเหนือไปจากนี้ การแตกพาร์ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของหุ้นที่ถือ (Dilution Effect) และไม่ได้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นเลย แต่เพียงแค่จำนวนหุ้นในพอร์ตจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนในการแตกพาร์เท่านั้นเอง โดยที่มูลค่ารวมยังเท่าเดิม ดังนั้น จึงไม่ควรเลยที่จะใช้การแตกพาร์มาเป็นเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์พื้นฐานธุรกิจนั้นๆ
 

จุดที่ควรระวังและเฝ้าสังเกตหลังหุ้นแตกพาร์

วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินที่มีความเกี่ยวข้องกับ “จำนวนหุ้น” ตัวอย่างเช่น กำไรต่อหุ้น (Earning per share) และเงินปันผลต่อหุ้น (Dividend per share) รวมไปถึงที่เกี่ยวข้องกับ “ราคาหุ้น” เช่น P/E และ P/BV เนื่องจากอัตราส่วนทางการเงินเหล่านี้จะมีสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการแตกพาร์

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าหากเปรียบเทียบระหว่างงวด จึงควรปรับการคำนวณให้เป็นราคาพาร์เดียวกันก่อน เพื่อที่การวิเคราะห์ข้อมูลจะได้เป็นไปอย่างถูกต้องที่สุด

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อาจจะมีผลในเชิงจิตวิทยาอยู่บ้างเล็กน้อย เนื่องจากในวันที่มีการแตกพาร์วันแรกนั้น ราคาหุ้นจะปรับตัวลงทันทีตามสัดส่วนของจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น “หากนักลงทุนที่ไม่ได้อัปเดตข่าวสารทุกวัน อาจจะเกิดความเข้าใจผิดขึ้นได้ว่าหุ้นตัวที่ถืออยู่ลงจากปัจจัยทางธุรกิจ” ดังนั้น จึงนำไปสู่ความผันผวนของราคาหุ้นแบบระยะสั้น แต่ในท้ายที่สุดแล้วนั้นในระยะยาว ราคาหุ้นจะปรับตัวมาอยู่ในมูลค่าที่เหมาะด้วยตัวของหุ้นเองอยู่ดี เพราะฉะนั้นจึงควรอัปเดตข่าวสารอยู่เรื่อย ๆ และที่ขาดไม่ได้เลยคือการให้ความสำคัญแก่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานให้เป็นอย่างดี
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา