ในยุคนี้ไม่ว่าเรื่องของการทำงาน หรือการใช้ชีวิตทั่ว ๆ ไป
เทคโนโลยี AI ก็เข้ามามีส่วนร่วมกับเราด้วยกันทั้งนั้น ตั้งแต่ตื่นตอนเช้าเราสามารถใช้ AI ในการช่วยเล่าข่าวน่าสนใจระหว่างอาบน้ำตอนเย็นกลับบ้านเราอยากไปหาที่เที่ยวใหม่ ๆ แต่คิดไม่ออก ก็สามารถให้ AI ช่วยแนะนำสถานที่เที่ยวพร้อมงบประมาณให้เราได้
เห็นไหมว่าจะทำอะไรเทคโนโลยี AI ก็อยู่กับเราตลอดเวลา แต่ 1-2 ปีมานี้มี AI อีกหนึ่งชนิดที่กำลังจะก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น นั่นก็คือ
ChatGPT แชตบอตอัจฉริยะ ที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลกในปัจจุบัน นอกจากจะตอบคำถามที่เราสงสัย ยังสามารถช่วยคิดสิ่งใหม่ ๆ ให้กับเราได้ เพียงแค่เราตั้งโจทย์ และป้อนคำสั่งให้กับมัน
เพื่อให้ทุกคนไม่ตกกระแสเทรนด์เทคโนโลยี AI ใหม่ ๆ วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับความอัจฉริยะของ AI ที่เรียกว่า ChatGPT ตามเรามาค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ไปด้วยกันเลย
ChatGPT คืออะไร?
AI ChatGPT หรือ OpenAI GPT คือ หนึ่งในรูปแบบของโปรแกรมแชตบอต AI ที่ถูกพัฒนามาจาก ทีม OpenAI ที่มีสมาชิกคนดังหลายคนอย่างเช่น อีลอน มัสก์ แห่ง Tesla, รีด ฮอฟฟ์แมน ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn หรือ ปีเตอร์ ธีล ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Paypal
ผลงานชิ้นแรก ๆ ของ OpenAI คือซอฟต์แวร์ “DALL·E 2” ที่เป็น AI ที่มีความสามารถในการสร้างรูปภาพตามคำบรรยายจนทำให้ศิลปินหลาย ๆ คนตกใจกับผลงาน และอีกหนึ่งความสามารถคือการสร้างทีม OpenAI Five ที่เป็นทีม AI เกมเมอร์บอทในเกม DotA2 ที่เอาชนะผู้เล่นโปรเพลย์เยอร์ในงานแข่งขัน The International 2017 งานชิงแชมป์โลกของเกมนี้
หลังจากนั้นทีม OpenAI ได้มีต่อยอดเจ้า AI ตัวนี้มาทางด้าน ‘Generative AI' คือการให้ AI ช่วยสร้างข้อความ ภาพ หรือวิดีโอ จากข้อมูลที่ได้เรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านระบบ
Machine Learning แล้วนำเสนอออกมาเป็นโปรแกรมประเภทแชทบอต ที่ให้เราสามารถสอบถามอะไรก็ได้เพียงแค่ป้อนคำสั่ง หรือตั้งโจทย์ให้กับมัน เรารอผลลัพธ์ได้ทันทีในเวลาไม่กี่วินาที ในตอนนี้ ChatGPT ได้ถูกพัฒนามาถึงเวอร์ชั่น 4.0 ที่มีความเก่ง และฉลาดที่มากกว่าสิ่งที่มนุษย์คิดได้ไปแล้ว
จุดเด่นของ ChatGPT
สามารถที่จะตอบคำถาม และช่วยคิดไอเดียต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว และง่ายมากยิ่งขึ้น โดยความน่าสนใจของ
ChatGPT คือสามารถทำงานหลายอย่างได้ในเวลารวดเร็ว และข้อมูลที่ได้ค่อนข้างแม่นยำ
ยกตัวอย่าง “ช่วยคิดไอเดียใหม่ ๆ การคิดเมนูสุขภาพที่อยากทานเพื่อลดน้ำหนักภายใน 1 เดือนให้หน่อย” หรือใช้สร้างสรรค์ผลงานเช่น “เขียนเนื้อเพลงรัก โดยให้มีเนื้อเรื่องพูดถึง Office Syndrome” หรือแม้แต่เขียนบทความเชิงวิชาการ ChatGPT ก็สามารถทำออกมาได้ทันที
ข้อมูลที่ได้จาก ChatGPT ก็มีความน่าเชื่อถือเพราะ ChatGPT จะอ้างอิงข้อมูลข้อมูลจากทั่วโลก รวมถึงงานวิจัยที่เคยได้รับการตีพิมพ์ เอามาประมวลผลคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า สิ่งที่ ChatGPT คิดแล้วตอบกลับมาหาเรา ไม่มีมั่วอย่างแน่นอน
ChatGPT สามารถทำอะไรได้บ้าง?
โปรแกรม AI ของ ChatGPT สามารถทำงานได้อย่างหลากหลาย โดยการทำงานหลักของ ChatGPT ขึ้นอยู่กับคำค้นหา หรือสิ่งที่ผู้ใช้งานพิมพ์คำถามส่งเข้าในระบบ แล้ว ChatGPT ทำอะไรได้บ้างมาดูกัน
1. เขียนโปรแกรม (Coding)
ความเก่งกาจในการโค้ดดิ้งโปรแกรมของ ChatGPT ขึ้นอยู่กับการตั้งโจทย์ให้ทำ และขึ้นอยู่กับว่าจุดประสงค์ของโค้ดชุดนั้นต้องการอะไร อย่างเฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น “อยากได้โปรแกรมบันทึกการลางานผ่านเว็บไซต์ ให้เขียนเป็นภาษา HTML” เพียงตั้งโจทย์เพียงแค่นี้ ChatGPT ก็สามารถเขียนโค้ดดิ้งออกมาได้ทันทีในเวลาไม่ถึง 1 นาที
การเลือกใช้ ChatGPT รับรองว่าประหยัดเวลาของเราได้แบบสุด ๆ เหลือเวลาไปทำงานอื่นได้อีกเยอะเลย
2. การคิดแคปชั่นโฆษณา
หากคุณคิดแคปชั่นเพื่อทำการโฆษณาไม่ออก บอกเลยว่า ChatGPT สามารถคิดแคปชั่นมาให้คุณได้เยอะมาก ๆ ซึ่งก็จะทำให้คุณสามารถเลือกใช้งานแคปชั่นเหล่านั้นได้ หรือใช้เป็นไอเดียในการคิดเพื่อต่อยอดก็ได้อีกเช่นเดียวกัน ใครอยากได้ไอเดียดี ๆ ลองใส่ คีย์เวิร์ดที่ต้องการได้เลย
แต่การให้ ChatGPT เขียนแคปชันเป็นภาษาไทยตอนนี้ อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยดี เนื่องจาก ChatGPT เพิ่งเริ่มทำการเรียนรู้กับภาษาต่าง ๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ อาจทำให้แคปชั่นที่เราต้องการเรื่องภาษาจะมีความแปลก ๆ อ่านแล้วไม่ลื่นไหล แต่กลับกันหากเลือกผลลัพธ์ที่ต้องการให้เป็นภาษาอังกฤษรับรองได้เลย แคปชั่นที่จะได้ออกมารับรองว่าคม เนื้อหาเป๊ะ เหมือนกับมี Copywriter เป็นคนคิดให้เราเลยทีเดียว
3. การเขียนบทความ
ในการเขียนบทความที่ต้องใช้ทั้งเรื่องของความคิด และการค้นหาข้อมูลที่มากมายที่ใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควรเลย เชื่อหรือไม่? แค่เพียงบอก ChatGPT นี้ไป ก็จะทำให้คุณสามารถได้บทความที่คุณต้องการหนึ่งบทความได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น เหมาะกับสายคอนเทนต์ที่ต้องการหางานเขียนบทความเป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้บทความที่เราได้จาก ChatGPT จะมีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้คำพูด โดยเฉพาะกับภาษาไทย เพราะ ChatGPT ยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ในการเริ่มเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ทั่วโลกหากใครอยากให้ ChatGPT เป็นผู้ช่วยเรื่องงานเขียนในช่วงนี้ ลองหัดใช้ภาษาอังกฤษให้คล่อง รับรองงานแต่ละชิ้นที่เขียนออกมาอ่านสนุก ไม่แพ้คนเขียนเลยล่ะ
4. การคิดสโลแกนสินค้า
หากคุณกำลังจะสร้างแบรนด์ หรือโฆษณาขายของสักชิ้นหนึ่ง แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้สโลแกนเป็นคำอะไรดี ก็สามารถให้ ChatGPT เสนอไอเดียในการคิดสโลแกนดี ๆ โดน ๆ ให้ได้เลย แต่เราต้องป้อนคีย์เวิร์ดสักหน่อย แล้วนำไอเดียที่ได้ไปต่อยอดได้เลย
5. การจัดทริป หรือการวางแพลนท่องเที่ยว
การจัดทริปท่องเที่ยวจะไม่ยุ่งยากอีกต่อไป เพราะ AI ChatGPT จะเป็นไกด์นำเที่ยวให้เราเองนอกจากจะสามารถจะเลือกสถานที่ท่องเที่ยวได้แล้วนั้น ก็ยังสามารถจัดทริปให้เราได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังเสนอไอเดียการทำกิจกรรมตามที่นั้น ๆ มาให้อย่างละเอียด เช่น “อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน งบสองหมื่นบาท” บอกโจทย์ไป แล้วรอเพียงไม่กี่วินาที ChatGPT จัดทริปให้เราแบบเรียบร้อยเลยทีเดียว
6. การหาสูตรอาหาร
การค้นหาอาหารเมนูไหนที่ว่ายากนั้นจะไม่ยากอีกต่อไป เพราะโปรแกรม AI ของ ChatGPT สามารถหาสูตรอาหารทุกเมนูจากทุกประเทศมาให้คุณได้ภายในเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ได้มาแค่สูตรเดียวแล้วจบเพราะมันยังมีอีกหลายสูตรมาให้ได้เลือกกันอีกด้วยว่าจะใช้สูตรแบบไหนที่เรานั้นจะถูกใจ หรือจะให้ ChatGPT ช่วยคิดค้นเมนูอาหารจากตัวอย่างสูตรอาหารที่แนะนำมาให้เราได้ด้วย หมดปัญหาไปเลยว่า วันนี้จะกินอะไร เพราะ ChatGPT ช่วยคิดให้หมดแล้ว
อาชีพอะไร? ในอนาคตที่ ChatGPT จะเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิต
1. โปรแกรมเมอร์
โปรแกรมเมอร์ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่จะลดเวลาในการเขียนโค้ดได้มากขึ้น เพราะ ChatGPT ถูกพัฒนาให้สามารถเขียนโปรแกรมที่ยาก และซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น จากเดิมใช้เวลาเขียน และทำการทดสอบโค้ดที่เขียนขึ้นมาอย่างน้อยประมาณ 5-6 ชั่วโมง แต่ ChatGPT สามารลดเวลาทั้งสองขั้นตอนลงให้เหลือในเวลาไม่กี่นาที ทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถมีเวลาไปพัฒนาฟังก์ชั่นใหม่ ๆ ได้อีกมากมาย ไม่ต้องเสียเวลากับการเขียนโค้ดเหมือนในอดีต นับว่าอาชีพโปรแกรมเมอร์จะได้รับผลประโยชน์อย่างมาก หากมี ChatGPT พัฒนาความเก่งไปมากกว่านี้
2. Content Writer
ด้านสายงานเขียน หรือการเขียนบทความต้องชอบ ChatGPT เป็นแน่ เพราะในการเขียนบทความ 1 บท นั้น โปรแกรม AI ของ ChatGPT สามารถเขียนได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น (ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ) โดยเราเพียงแค่ตั้งโจทย์สิ่งที่อยากได้ให้โปรแกรม AI ของ ChatGPT ค้นหาข้อมูล และทำการเขียนสรุปออกมา รับรองได้ว่าเนื้อหาของบทความที่ได้ มีความใกล้เคียงกับสิ่งที่มืออาชีพทำเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องระวังเรื่องการคัดลอกเนื้อหาด้วย เราสามารถนำมาบทความที่ ChatGPT เสนอมาให้ ใช้เป็นไอเดีย หรือ Guideline เพื่อนำไปต่อยอดได้ หากนักเขียนคนไหนที่ไอเดียกำลังหมด ลองให้ ChatGPT ช่วยร่างเนื้อหาให้เราก่อนก็ได้รับรองประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย
3. Customer Service
ใน
สายงาน Customer Service หรือสายงานบริการ ChatGPT ก็สามารถช่วยตอบคำถาม และบริการลูกค้าในจำนวนเท่า ๆ กันได้ในไม่กี่วินาที เจ้า AI ตัวนี้สามารถช่วยลดเวลาในการถาม-ตอบไปได้เยอะมาก ๆ แถมทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดพัก ไม่มีเหน็ดเหนื่อย ไม่แปลกเลยที่หลายบริษัทจะนำ ChatGPT เข้ามาช่วยอาชีพเหล่านี้ในการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากเจอกับคำถามจากลูกค้าที่เข้ามาในช่วงเวลาหลังเลิกงาน และคนไม่สามารถตอบได้ในทันที ใช้ ChatGPT ปิดเคสได้เลย ลูกค้าได้คำตอบ ส่วนคนทำงานก็ไม่เสีย Balance ในชีวิตได้พักผ่อนสมใจในช่วงเวลาพักผ่อน
แต่ถึงแม้ว่า ChatGPT จะมีความสามารถที่หลากหลายจนหลาย ๆ คน เริ่มคิดว่าเจ้าระบบ AI ตัวนี้จะเป็นภัยคุกคามในการทำงานของมนุษย์ในปัจจุบันหรือไม่?
แต่ความเป็นจริงมันก็ยังมีสิ่งที่ ChatGPT ยังไม่สามารถที่จะทำได้อยู่ เนื่องจากข้อมูลที่ใช้ในการฝึกโปรแกรม AI ของ ChatGPT ตัวนี้ จะจำกัดอยู่ที่ปี 2021 เท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อจำกัดข้อมูลที่ให้ AI เข้าถึงไม่ให้เป็นภัยคุกคามเรามากนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในอนาคตก็เชื่อว่าทาง OpenAI ที่เห็นถึงความสำเร็จในอนาคตของโปรแกรม AI ตัวนี้อยู่แล้วนั้น ก็คงจะไม่หยุดที่จะพัฒนาเรื่องของประสิทธิภาพ และความสามารถของมันอย่างแน่นอน มนุษย์อย่างจึงควรเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตของ
เทคโนโลยี AI ที่กำลังจะก้าวเข้ามาในวงการทำงานไปพร้อม ๆ กันนั่นเอง เรียนรู้ที่จะใช้ AI ให้เป็นตัวช่วยให้เราทำงานได้แบบสะดวกสบาย แล้วได้ไปใช้ชีวิตทำกิจกรรมส่วนตัวที่เราชอบ แล้วปล่อยให้ AI ChatGPT เป็นคนทำงานแทนให้เราเอง