ทำไมยังโสด? ฉันเป็นคนหนึ่งที่ครองความโสดอย่างเหนียวแน่นมายาวนาน ราวกับกลัวใครมาแย่งตำแหน่งนางงามคานทองไป โสดตั้งแต่เกิด โสดสนิท โสดจนเพื่อน ๆ ที่คบกันมานาน เปลี่ยนแฟนกันไปกี่คนแล้วก็ไม่รู้ เพื่อนบางคนก็เริ่มทยอยแต่งงาน ทยอยมีลูก แต่ฉันก็ยัง...โสด !!!
ถึงอย่างนั้น ทุกวันนี้ฉันก็ใช้ชีวิตอย่างราบรื่นดีนะ ไม่ได้กระตือรือร้นที่จะไขว่คว้าหาความรักแต่อย่างใด ไม่ได้ไปเรียกร้องกับใครที่ไหนว่าทำไมยังโสด หรือเรียกได้ว่า ไม่อยากเอาตัวไปเฉียดกับความรักเลยดีกว่า เอาตรง ๆ ก็มีคนเข้ามาบ้าง แหม…ก็อายุเฉียดเลข 3 หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ ถ้าบอกว่า เกิดมาไม่เคยเจอคนที่รู้สึกถูกใจ หรือเข้ามาจีบเลยก็จะเป็นการโกหกเนอะ ข้อนี้ไม่ใช่สาเหตุที่โสดแน่นอน แต่พอฉันเจอเหตุการณ์ที่จะพาหัวใจไปเสี่ยงกับความรัก ฉันจะมีเกราะเสริมใยเหล็กพันชั้น วิ่งหนีทุกครั้งตั้งแต่ยังไม่เริ่ม รายไหนที่รุกหนักจนต้องเผชิญหน้ากันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉันถึงกับเหงื่อซึม ใจสั่น มือ-เท้าชา อยากพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์กดดันไว ๆ ไป ๆ มา ๆ ฉันเลยอยู่เป็นโสดมาตลอดจนถึงทุกวันนี้
ทุกวันนี้ฉันไม่ค่อยมีสังคมเท่าไร นอกจากเพื่อนสนิทไม่กี่คน ฉันรู้สึกสบายใจมากกว่าเวลาอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว ไม่ต้องมานั่งปวดหัวร้อนใจกับเรื่องความรัก ไม่ต้องคอยพะวงกลัวนู่นนี่ อ๋อ...ลืมบอกไปอีกอย่าง เห็นโสดแบบนี้ แต่คะแนนทฤษฎีด้านความรักเต็ม 100 นะจ๊ะ เพื่อน ๆ ต่างยกให้ฉันเป็นศิราณีประจำกาย พอมีสายเรียกเข้า ไลน์แจ้งเตือน รู้เลยทันทีว่าเพื่อนมีปัญหาความรักแน่นอน ยิ่งฟังมาก ยิ่งเห็นมาก ฉันยิ่งกลัวความรัก ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดว่า ความโสดของฉันเป็นเรื่องประหลาดอะไรนะ ใคร ๆ ก็โสดได้ มีคนโสดมากมาย แต่วันหนึ่งฉันก็ได้รู้ว่าบนโลกนี้มีโรคชื่อว่า Philophobia หรือ โรคกลัวความรัก กลัวผิดหวัง เลยพาลไปถึงกลัวการมีแฟน อยู่ด้วย ซึ่งฟัง ๆ ดูแล้วก็อาจจะเป็นเหตุผลที่คนโสดอย่างฉันมีเยอะขนาดนี้ก็ได้
Philophobia หรือโรคกลัวการตกหลุมรัก เป็นโรคชนิดหนึ่งในทางจิตเวช มาจากภาษากรีกสองคำรวมกัน คือ Philo แปลว่า ความรัก ความชอบ มารวมกับคำว่า Phobia แปลว่า ความกลัว
สาเหตุของโรคกลัวความรัก
นักจิตวิทยาสันนิษฐานว่า ปัจจัยที่เป็นต้นเหตุของโรคกลัวความรัก (Philophobia) และเป็นสาเหตุที่คนยังโสด อาจมาจากเรื่องใกล้ตัว ที่ส่งผลให้ผู้ป่วยพยายามจะหนีความรู้สึกรัก หรือไม่อยากเข้าใกล้ความรู้สึกพิเศษกับใครอย่างจริงจังเลยสักคน และแม้จะเกิดความรู้สึกพิเศษกับใครขึ้นมาบ้าง ทว่าสุดท้ายแล้วก็มักจะไม่กล้าเปิดใจให้กับความรัก
การสะสมของประสบการณ์
พอมานั่งคิดดูอย่างจริงจังแล้ว ฉันคงไม่ได้สวย โสด สตรอง แบบที่ปลุกใจตัวเองมาตลอดหรอก หากแต่สาเหตุที่ทำไมยังโสด นั่นก็เพราะเป็นโรคกลัวความรักหรือ Philophobia ต่างหาก ซึ่งทุกอย่างคงสะสมมาจากประสบการณ์ที่ฉันพบเจอมาทั้งจากทางตรงและทางอ้อม ตั้งแต่เห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน ฉันก็ไม่อยากมีอนาคตแบบนั้น ต่อมา คนที่ฉันไว้ใจมาก ๆ ต่อหน้าทำดีกับฉัน แต่ลับหลังกลับเอาฉันไปนินทาว่าร้ายให้คนอื่นเกลียดโดยที่ฉันไม่รู้ตัว นั่นทำให้ฉันไม่ไว้ใจใครอีกเลย หรือแม้แต่เรื่องเล่าจากเพื่อนที่มาปรึกษา ก็เป็นสาเหตุที่โสดและขยาดความรักได้เหมือนกัน ฉันเลยเลือกที่จะปิดกั้นตัวเอง ทั้งที่ลึก ๆ แล้วก็อยากมีใครสักคนที่ยอมรับในตัวตนของฉัน หัวเราะและร้องไห้ไปด้วยกัน คอยดูแลเป็นที่พักพิงยามอ่อนล้า และไม่ต้องมานั่งตอบคำถามใครต่อใครว่าทำไมยังโสด แต่เพราะฉันกลัว กลัวความรัก กลัวผิดหวัง กลัวอนาคตจะเจอเรื่องร้าย ๆ กลัวว่าถ้าฉันผูกพันกับใครสักคนแล้วจะยึดติด ถ้าวันหนึ่งต้องเลิกรากันฉันคงรับไม่ไหว พอมีใครเข้ามาหรือฉันเกิดความรู้สึกพิเศษกับใคร ฉันจะกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่กล้าเสี่ยง คิดวิตกกังวลไปล่วงหน้าสารพัด สุดท้ายก็ไม่กล้ามีแฟน และพาตัวเองออกมา และคิดว่าโสดน่ะดีแล้ว
Philophobia: โรคกลัวความรัก
จริง ๆ Philophobia หรือโรคกลัวความรัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่หลายคนโสด ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อผู้คนรอบข้าง แต่ถ้ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ อาจไม่ใช่การกลัวความรัก หรือไม่กล้ามีแฟน เพียงเท่านั้น แต่จะกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่กล้าเผชิญหน้ากับผู้คน หลีกหนีจากสังคม อยู่ในโลกแคบ ๆ ที่มีแค่ตัวเอง ไร้สีสัน สุดท้ายอาจจะเครียดและกดดันจนซึมเศร้าและส่งผลต่อสุขภาพ
การรับมือกับโรคกลัวความรัก
ผู้ป่วยโรคกลัวความรักควรยอมรับให้ได้ว่าตัวเองมีอาการกลัวความรัก ไม่ได้เข้มแข็งอะไร แล้วก็ปรับวิธีคิดและวิธีมองโลกซะใหม่ รู้จักยืดหยุ่นบ้าง รู้จักจัดการกับความผิดหวัง ระบายปัญหากับใครสักคน อย่าคิดแง่ร้ายตีตนไปก่อนไข้ อย่าคิดว่ามีความรักแล้วจะมีแต่เรื่องแย่ ๆ ร้าย ๆ เหมือนที่ได้ฟังมาเสมอไป ลองเปิดใจ และก้าวเข้าหาความสุขทีละนิด ๆ
การปรึกษาจิตแพทย์
แต่ถ้าใครรู้ตัวว่ามีอาการกลัวความรักและจัดการกับสาเหตุที่ว่าทำไมยังโสดนี้ไม่ได้ ควรไปปรึกษากับจิตแพทย์ อย่ากลัวหรือคิดว่าคนอื่นจะมองเราผิดปกติ ให้คิดซะว่าการไปพบจิตแพทย์คือ การไปพูดคุย แบ่งปันปมลึก ๆ ในใจว่าทำไมถึงยังโสดให้ใครสักคนฟัง
แนวทางวิธีการรักษาโรคกลัวความรัก
1. การเผชิญหน้า (Exposure Therapy)
การเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวเป็นวิธีการที่ได้ผล คือ กลัวอะไรก็ต้องเผชิญหน้า เช่น หากกลัวความรัก ก็ต้องพยายามเผชิญหน้ากับมัน เมื่อรู้เหตุผลที่ทำให้เรากลัวความรักก็ต้องรู้จักปรับตัวและจะรับมือกับความรู้สึกนั้นได้
2. การบำบัดเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy)
การเปลี่ยนความคิดสามารถส่งผลให้พฤติกรรมและอารมณ์เปลี่ยนไปด้วย การบำบัดนี้ช่วยให้ผู้ป่วยมองโลกในแง่ดีขึ้นและเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับความคิดใหม่
3. รักษาด้วยยา
เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีความเครียดสูงหรือมีความรู้สึกกังวลทุกครั้งเมื่อเจอกับความกลัว วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมอารมณ์และการแสดงออกของตัวเองได้ดีขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก :
สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ
นพ.จตุภัทร คุณสงค์ Specialty: จิตเวชศาสตร์ HUG MAGAZINE