ปี 2023 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นปีทองของ Art toys กล่องสุ่มจาก ‘Pop Mart’ เราเห็น Cry Baby ที่มีการขายต่อแบบหลายเท่าตัวจากราคาทุน เราเห็นคอลเลคชันออกใหม่แบบเดือนต่อเดือน เราเห็นการ Collab ของ Pop Mart กับแบรนด์ และศิลปินดังมากมาย
เราเห็นโลกโซเชียลพูดถึง ‘กล่องสุ่ม’ หรือ ‘การจุ่ม’ ที่แปลว่าสุ่ม เต็มไปหมด มีกรุ๊ปเฟซบุ๊กแฟนคลับของแต่ละคาแรคเตอร์ Art toys เพื่อทำการอวดของ และซื้อขายมากมาย ในเวลาเพียง 10 กว่าปี Pop Mart ได้กลายเป็นบริษัทของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในจีน ครอบคลุมกว่า 21 ประเทศที่มีร้านค้ามากกว่า 200 แห่ง และตู้กดกล่องสุ่มอัตโนมัติที่เรียกว่า “Roboshops” มากกว่า 1,000 เครื่อง
จุดเริ่มต้นการเปิดกล่องสุ่ม : Pop Mart ที่ป็อปไปทั่วโลก จากไอเดียกาชาปอง
น้องเพลินเพลิน จะชวนทุกคนนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปในปี 2010 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของร้านขายของเล่นที่ชื่อ “Pop Mart”
Pop Mart คือ บริษัทของเล่นกล่องสุ่มที่มีศิลปินเจ้าของของเล่น Art toys มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Cry Baby, Molly, Skullpanda, Dimoo, Hirono และ Hacipupu เป็นต้น ผู้คิดค้นไอเดียกล่องสุ่มนี้คือชายชาวจีนที่ชื่อว่า หวังหนิง (Wang Ning) ที่ตอนนี้กลายเป็นเศรษฐีพันล้านไปเรียบร้อยแล้ว
หวังหนิงเริ่มต้นไอเดียธุรกิจตัวเองตั้งแต่ปี 2009 และมาเริ่มก่อตั้ง Pop Mart แห่งแรกอย่างจริงจังในปี 2010 ที่ จงกวนชุน (Zhongguancun) ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งมักเรียกกันว่าเป็น Silicon Valley ของจีนนั่นเอง แต่ช่วงแรกก็ทำธุรกิจแบบวุ่นวายมาก มีปัญหาทั้งเรื่องการจัดการสินค้าคงคลัง การบริการลูกค้า การบริหารจัดการพนักงาน ฯลฯ
จนสุดท้ายในปี 2014 คุณหวังหนิงก็ตัดสินใจลดการผลิตสินค้าประเภทอื่น ๆ และคงไว้แค่สินค้าที่ขายดีที่สุดในเวลานั้น ซึ่งก็คือ ‘
กล่องสุ่ม’ ที่มีลักษณะเหมือนกับกาชาปองของญี่ปุ่นนั่นเอง แต่เขาพยายามที่จะทำให้ตัวสินค้ามีคุณค่ามากขึ้น ทั้งในแง่การผลิต ดีไซน์ตัวกล่อง และตัว Art toys ก่อนจะมาจบที่การร่วมมือกับศิลปินชาวฮ่องกง ที่ชื่อ เคนนี หว่อง (Kenny Wong) เจ้าของน้องผมเป็ด ตาโต ปากมุ่ยที่ชื่อ ‘Molly’ นั่นเอง
ในปี 2016 ที่ได้ร่วมงานกัน ยอดขายของ Pop Mart ก็เพิ่มสูงขึ้น โดยแตะ 22 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2017 และ 73 ล้านเหรียญสหรัฐในอีกหนึ่งปีต่อมา
น้องเพลินเพลิน แอบรู้มาว่าความฮอตปรอทแตกของ Art toys กล่องสุ่มจาก Pop Mart นั้น ช่วงโควิด-19 ระบาด ก็ไม่สามารถต้านกระแสได้เลย! เขาบอกว่าในเทศกาล Singles' Day ปี 2019 ของเล่นจาก Pop Mart มียอดขายสูงสุดในหมวดของเล่นบน AliExpress และยอดขายบน Tmall (เว็บซื้อของออนไลน์ของจีน) เพียงอย่างเดียวสร้างรายได้ 22 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงกว่าแบรนด์ของเล่นต่างประเทศ อย่าง Disney และ Lego เสียอีก!
เรียกได้ว่าตำแหน่งของ Pop Mart ในตลาดของเล่นของจีนตอนนี้ไม่มีใครเทียบได้แล้ว
เปิดกล่อง Secret: Top 3 คาแรคเตอร์ Art toys ของ Pop Mart ที่สร้างรายได้มากที่สุด
1. SkullPanda โดย Xiongmao
รายได้ : 2,595 ล้านบาท
Skullpanda คือ Art toys ผู้หญิงที่หลายคนบอกว่าน้องมีความสวย ความน่ารัก แต่ก็มีภาพลักษณ์ของความลึกลับ น่าค้นหา มีเอกลักษณ์เป็นลูกกลม ๆ ที่อยู่ตรงข้างหูทั้งสองข้าง โดยคุณ Xiongmao ศิลปินเจ้าของน้อง Skullpanda บอกว่าน้องมีความสามารถในการเดินทางท่องเวลาได้อย่างอิสระ เพื่อตามหาตัวตนของตัวเอง เช่นเดียวกับตัวของเธอเอง ที่ยังคงออกตามหาเส้นทางศิลปะของตัวเอง
ในปี 2020 SKULLPANDA ได้ร่วมงานกับ POP MART สร้างสรรค์ผลงาน Art toys ในชื่อ The Ancient Castle Series ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการอาร์ตทอยด้วยสถิติยอดขาย 60,000 กล่องภายใน 1 วินาทีหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
2. Molly โดย Kenny Wong
รายได้ : 2,028 ล้านบาท
อย่างที่น้องเพลินเพลิน ได้เล่าให้ทุกคนฟังไปในตอนแรก น้อง Molly เป็น Art toys ตัวแรกที่ Pop Mart ได้จับมือร่วมงานกับศิลปิน โดยน้อง Molly ได้กำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2006 โดยคาแรคเตอร์ Molly ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตอนที่ Kenny Wong ได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีตาสีมรกต ผมสีทอง แต่งตัวเป็นจิตรกรน้อย จนสุดท้ายก็ออกมาเป็น Molly อย่างที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ ซึ่งปัจจุบัน Molly ก็ยังได้ Collab ร่วมกับค่ายดังมากมายไม่ว่าจะเป็น Disney หรือ Warner bros.
3. Dimoo โดย Ayan Deng
รายได้ : 1,785 ล้านบาท
เด็กผู้ชายสุดน่ารักที่มาพร้อมกับผมทรงก้อนเมฆ เป็นผลงานของคุณ Ayan Deng ศิลปินสาวชาวจีน โดยน้อง Dimoo นั้นเป็น Art toys คาแรคเตอร์ที่มีความขี้อาย เป็นเด็กที่มีความกลัวกับอนาคต แต่ในโลกความฝันน้องจะมีความกล้าหาญ พร้อมออกผจญภัย ซึ่งคุณ Ayan ต้องการให้ Dimoo เป็นตัวแทนของการพาทุกคนออกผจญภัยไปพร้อมกันนั่นเอง
*อ้างอิงข้อมูลอันดับยอดขายจากรายงาน Pop Mart International Interim Report 2023
เปิดความในใจ : 3 สิ่งที่ทำให้ Pop Mart ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก
จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Pop Mart เรียกได้ว่าอยู่ในช่วงกราฟพุ่งแบบสุด ๆ ไปทั่วโลก ปัจจุบันมีการเปิดสาขา Pop Store มากมาย แม้แต่ในประเทศไทยเอง ปี 2024 คงเห็นร้าน Pop Mart ผุดขึ้นมาไม่น้อย
น้องเพลินเพลิน อยากชวนมานั่งคุยกันว่า อะไรกันนะ ที่ทำให้ Pop Mart โด่งดังไปทั่วโลก!
1. “สุ่มแล้ว สุ่มอยู่ สุ่มต่อ” เพราะเราทุกคนชอบที่จะเสี่ยงโชค
คนชื่นชอบอะไรที่มีความลึกลับน่าค้นหา คนส่วนใหญ่มีจิตใต้สำนึกของนักพนันอยู่ลึก ๆ การที่ Pop Mart มีเอกลักษณ์ของการเป็นกล่องสุ่ม ทำให้ Art toys ของเขาดูมีคุณค่ามากขึ้นในมุมของผู้ซื้อ เมื่อซื้อ 1 กล่องสุ่มแล้วไม่ได้ ก็อยากจะสุ่มต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันเมื่อสุ่มได้แล้วก็ยิ่งอยากจะสุ่มต่อ เพราะหวังว่าครั้งต่อไปโชคก็อาจจะเข้าข้างให้เราได้ตัวที่อยากได้อีกนั่นเอง
จนเรียกได้ว่าตอนนี้กลายเป็นวัฒนธรรมการจุ่มหรือการสุ่มไปทั่วโลกแล้วนั่นเอง
2. “มีความพิเศษใส่ใจ ที่ไม่ใช่ใครจะได้ไปง่าย ๆ” กับรุ่น SECRET ที่มีในทุก Collection
อีกหนึ่งกิมมิคที่กระตุ้นความอยากซื้อของนักสะสม และนักลงทุนทั้งหลายคือตัว Secret ที่จะอยู่ในแต่ละซีรีย์ของ Art toy กล่องสุ่มใน Pop Mart ซึ่งตัวพิเศษนี้จะไม่ได้มีอยู่ในทุกกล่อง แต่จะเป็นของ Rare Item ที่หาได้ยาก ซึ่งแต่ละคาแรคเตอร์ก็จะมีความพิเศษแตกต่างกันออกไป
ซึ่งในมุมของนักลงทุน ผู้ค้าขายเองก็มักจะมีการนำตัว Secret ที่ว่านี้มาเก็งกำไรในระดับหนึ่ง จากระดับความหายากของตัว Art toys นั่นเอง
3. “มาบ่อย มาไม่น้อย มาทีเยอะมาก” โปรดักต์ใหม่ออกทุกซีซัน Collab กับแบรนด์มากมาย
ปัจจุบันนี้ Pop Mart ก็ยังคงเฟ้นหาศิลปินหน้าใหม่เพื่อมาร่วมงานกันอยู่เสมอ ในขณะเดียวกันศิลปินเดิมที่ยังคงร่วมงานกัน ก็มีออกซีรีส์ Art toys กล่องสุ่ม ใหม่ไม่มีพัก อีกทั้งยังได้ Collab กับแบรนด์ดังมากมาย อาทิ Disney, Powerpuff girl, Warner Bros, Sanrio, KFC และอีกมากมาย
ซึ่งความหลากหลายของโปรดักต์นี้ก็ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักสะสม จนกลายเป็น #ของมันต้องมี ที่ไม่ว่าจะออกมากี่ซีรีส์นักสะสม นักลงทุนก็พร้อมควักเงินในกระเป๋ากันทั้งสิ้น
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของอาณาจักรของเล่นที่มีชื่อว่า Pop Mart…สำหรับ น้องเพลินเพลิน บอกเลยว่า Art toys นี้เป็นอีกหนึ่งโปรดักต์ที่น่าสนใจ เป็น
ของสะสมที่น่าลงทุนไม่ต่างจากสมัยของแบร์บริค หรือเลโก้เลย ตรงที่ยิ่งเก็บไว้นานมูลค่าก็จะยิ่งสูงขึ้น สามารถทำกำไรหรือขายต่อได้ในอนาคตนั่นเอง