ในบางครั้งการมององค์กรธุรกิจของคุณจากการเป็นคนนอกจะทำให้เรามองเห็นภาพใหญ่ และมองเห็นจุดอ่อนของการประกอบกิจการ ดังนั้นผู้ประกอบกิจการ หรือเจ้าของธุรกิจควรมีใจที่ “เปิดรับ” กับมุมมองใหม่ ๆ เพื่อทำให้กิจการดีขึ้น และบางมุมมองก็อาจเป็นมุมมองง่าย ๆ แต่สามารถเปลี่ยนให้กิจการเติบโต และขับเคลื่อนธุรกิจของคุณได้อย่างไม่คาดฝันก็มีนะครับ ลองมาดูกันดีกว่าครับว่า มีปัจจัยภายในองค์กรอะไรบ้างที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนธุรกิจของคุณ
ปัจจัยแรก “จัดวางคนในองค์กรให้เหมาะสม”
ปัจจัยนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่หลายคนมองข้าม และทำไปโดยไม่มีแบบแผน ทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำภายในองค์กรของคุณเอง โดยบางครั้งคุณก็รู้แต่รู้สึกยุ่งยากที่จะปรับแก้จึงปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรัง และก่อตัวเป็นปัญหาใหญ่ในภายหลัง การจัดวางคนในองค์กรให้เหมาะสม นอกจากจะวางคนให้ถูกกับงานแล้ว เราต้องมีการสื่อสารภายในองค์กรที่ทั่วถึง ทำให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมกับการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า ผมเคยพบกับผู้บริหารบางคนที่สามารถพูดคุยกับคนในองค์กรได้ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนขับรถหรือแม่บ้าน พนักงานที่รักผู้บริหารสามารถส่งผลดีต่อกิจการได้มากกว่าที่ใคร ๆ คิดไว้มากเลยนะครับ
ปัจจัยที่สอง “ต้องกำหนดตัววัดประสิทธิภาพงานที่ชัดเจน และเหมาะสม”
การกำหนดตัวชี้วัดประสิทธิภาพงานนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ และจะทำแบบผ่าน ๆ ไปไม่ได้นะครับ หลายบริษัทใช้ KPI มาจับและวัดคุณค่าของพนักงานผ่านตัวเลขเพียงไม่กี่ตัว บางครั้งมันก็ใช้ได้ดี แต่หลายครั้งอาจจะส่งผลตรงกันข้ามกันได้ การกำหนดตัวชี้วัดประสิทธิภาพงานที่ดีไม่ควรจะเหมือน ๆ กันทุกบริษัท ทุกองค์กรควรมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับผู้คนในองค์กรแต่ละแห่ง เพราะสิ่งที่ขับเคลื่อนองค์กรที่แท้จริงก็คือ “คน” หรือทรัพยากรมนุษย์นั่นเองครับ
ปัจจัยที่สาม “มองหาความยั่งยืนในระยะยาว”
บางองค์กรที่ผู้บริหารมองภาพไม่ไกลพอ หรือมีวิสัยทัศน์ไม่กว้างไกล ทำให้เกิดความผิดพลาดและสร้างความเสียหายอย่างคาดคิดไม่ถึงก็มี การมองภาพขององค์กรที่ดีเราควรมองหาความยั่งยืนในระบบบริหารจัดการทั้งภายในและภายนอก ควรมีการกำหนดเป้าหมายจากภาพระยะยาว ไม่ใช่ภาพระยะสั้น ๆ และเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้เป็นนโยบายที่เหมาะสมกับการบริหารจัดการองค์กรในแต่ละที่จะดีที่สุดครับ
ปัจจัยที่สี่ “มองหาขนาดที่เหมาะสมขององค์กร”
บางครั้งการขยายกิจการที่หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมันกลับส่งผลตรงกันข้าม สาเหตุเป็นเพราะโมเดลธุรกิจแต่ละอย่างมีการเติบโตในรูปแบบของมันเอง หากองค์กรของคุณมีกิจการ “ผูกขาด” นั่นหมายความว่า ขนาดของกิจการสามารถเติบโตได้แทบจะไม่จำกัด แต่ธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ใช่แบบนั้น ทุกกิจการมีการแข่งขัน หน้าที่ของเจ้าของกิจการ คือ ต้องหาที่ยืน หาตำแหน่งของตนเองให้เจอ และยังต้องมองหาขนาดที่เหมาะสมขององค์กรของคุณอีกด้วย เพราะหากเราทำใหญ่เกินไปอาจสะดุด และหกล้มได้ง่าย ๆ การมองหาขนาดที่เหมาะสมขององค์กร ถือเป็น “ศิลปะ” ที่จะคงความยั่งยืนให้กับธุรกิจได้ในระยะยาวนะครับ
ปัจจัยสุดท้าย “มองภาพอนาคตให้ออก”
ปัจจัยสุดท้ายถือเป็น “ปัจจัยแห่งการปรับตัว” เพราะในยุคนี้มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายแทบจะตลอดเวลา ความสนใจของลูกค้าหรือพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามการตอบสนองต่อความสะดวกสบาย และทำให้คุณภาพชีวิตของผู้คนดีขึ้น หน้าที่ของผู้นำองค์กรก็คือ การมองภาพอนาคตให้ออก มองให้ขาด และหาแนวคิดเพื่อปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่ตลอดเวลา ผู้นำองค์กรที่ไม่หยุดนิ่ง มีการปรับภาพอนาคตอยู่ตลอดจึงจะอยู่รอด และนำพากิจการให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้นั่นเองครับ