มาเริ่มกันด้วยธุรกิจ "Startup" กันก่อนเลย Start up คืออะไร ในคำจำกัดความของ Startup business มักจะใช้คำว่า "เริ่มต้น" หรือ "สตาร์ท" ซึ่งหมายถึงการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ที่มีการนวัตกรรมและความคิดใหม่ๆ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งที่ทำให้ Startup business เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นคือการที่มีความคิดสร้างสรรค์และความก้าวหน้าที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับคนที่คิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจ แต่ยังไม่เข้าใจและเห็นภาพยังไม่ชัดมากพอ หลายคนสับสนว่า Startup และ SME สองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร เรามาดูกันดีกว่าครับว่าสองธุรกิจนี้ แท้จริงแล้วมีอะไรที่ต่างกันและมีอะไรที่เหมือนกันบ้าง มาติดตามกันเลยครับ
ไขข้อสงสัย SME กับ Start Up ต่างกันอย่างไร?
1. วัดกันที่ขนาดเริ่มต้น
หากเราวัดความแตกต่างที่ “ขนาดของกิจการ” ของทั้งสองธุรกิจนี้ เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจ สำหรับธุรกิจแบบ Start Up มักจะมีขนาดกิจการที่เล็กมาก ๆ และสินทรัพย์ส่วนใหญ่ ในตอนต้นจะมีน้ำหนักไปทาง “ไอเดียใหม่ ๆ” หรือสินทรัพย์ทางปัญญา ในขณะที่ธุรกิจแบบ
SME จะมีขนาดกิจการที่ใหญ่กว่าและสินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่สามารถจับต้องได้นั่นเองครับ
2. วัดกันที่แนวคิดเริ่มต้นการทำธุรกิจ
สำหรับ
ธุรกิจแบบ Start Up มักจะเริ่มต้นธุรกิจด้วยแนวคิดที่อยากจะแก้ไขปัญหาอะไรซักอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาการเรียกรถแท็กซี่ ที่เรียกใช้บริการค่อนข้างยุ่งยากและมีปัญหามากมายกับกลุ่มลูกค้าผู้ใช้บริการแท็กซี่ ก็ทำให้เกิด Application บนมือถือที่เกี่ยวกับการเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ผ่านมือถือและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและขยายไปยังหลายประเทศ ในขณะที่ธุรกิจแบบ SME อาจเริ่มต้นทำธุรกิจจากสินค้าที่มีในท้องตลาดอยู่แล้วแต่อาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ทำให้มีผู้ผลิตเข้ามาผลิตสินค้าหรือบริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่ยังไม่เพียงพอในตลาด
3. วัดกันที่เทคโนโลยี
หากเราวัดความแตกต่างกันที่เทคโนโลยี สำหรับธุรกิจ Start Up ส่วนใหญ่มักจะใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการขับเคลื่อนธุรกิจ หากเป็น Start Up ที่เกี่ยวกับการทำ Application บนมือถือเพื่อตอบสนองความต้องการบางอย่างของลูกค้าก็ต้องใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหรือแม้แต่งานที่เป็น “นวัตกรรม” ใหม่ ๆ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นต้น ในขณะที่ธุรกิจ SME จะใช้เทคโนโลยีที่ตอบสนองกับกระบวนการผลิตเดิม แต่ปรับปรุงให้ดีขึ้น อาจไม่ใช่ไอเดียที่ใหม่มาก แต่ช่วยให้การผลิตหรือกระบวนการบริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น เป็นต้น
อย่างไรก็ตามทั้งธุรกิจ Start Up และธุรกิจ SME ก็มีความเหมือนกันตรงที่เป็นการทำธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า และต้องคอยปรับตัวตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคเหมือน ๆ กัน กระแสการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบไหนหากไม่รู้จัก “ปรับตัว” ก็มีโอกาสที่จะล้มหายจากไปได้เหมือนกันนะครับ