คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เราอยู่ตัวคนเดียวบนโลกนี้ไม่ได้ อริสโตเติล (Aristotle) นักปราชญ์ชาวกรีก กล่าวว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม (Social Animal) ตามธรรมชาติมนุษย์แล้วจะต้องมีการติดต่อสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่อย่างอิสระตามลำพังได้ ลองนึกตามดูนะว่า ตั้งแต่เกิด เราก็มีพ่อ แม่ พี่ น้อง และเครือญาติซึ่งคนเหล่านี้ก็คือ จุดเริ่มต้นของเครือข่ายของเรา เมื่อเราเติบโตขึ้น เราก็ติดต่อสื่อสารกับผู้คนเพิ่มขึ้น ในที่สุดคนเหล่านั้นก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ซึ่งในอนาคตไม่แน่ว่า เราและเขาอาจจะมีโอกาสได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
การที่เรามีการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ หรือที่เรียกว่า เน็ตเวิร์คกิ้ง (Networking) ถือเป็นหัวใจที่นำไปสู่ความสำเร็จ ยิ่งในโลกยุคปัจจุบัน การรู้จักเข้าหาผู้คนที่หลากหลายทั้งในแวดวงอาชีพเดียวกันหรือคนในแวดวงอื่น ๆ จะเป็นกุญแจนำทางให้เราไปถึงฝั่งฝันได้ราบรื่นขึ้น ซึ่งการสร้างเน็ตเวิร์คกิ้งไม่ใช่แค่มีเพื่อนในเฟซบุ๊กเยอะ แต่เราต้องสร้างเครือข่ายให้เป็นและรู้จักใช้ให้ถูกวิธีด้วยนะ วันนี้ เรามีเคล็ดลับการสร้างเน็ตเวิร์คกิ้งอย่างไรให้ประสบความสำเร็จมาฝาก ไปดูกันเลย
ใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์
เริ่มง่าย ๆ ด้วยการสร้างช่องทางการสื่อสารใน
Facebook,
LinkedIn,
Instagram,
Pinterest เป็นต้น เพื่อบอกเล่าในสิ่งที่เราสนใจ นำเสนอตัวอย่างผลงาน และพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ดิจิทัลโซเชียลมีเดียเป็นชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่และไร้พรมแดนที่ทรงพลังมากซึ่งจะทำให้เครือข่ายเน็ตเวิร์คกิ้งของเราเข้มแข็งและขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่แนะนำว่าควรแยกช่องทางส่วนตัวมาก ๆ กับช่องทางในการสร้างเน็ตเวิร์คกิ้งออกจากกัน
ออกไปข้างนอก
ปัจจุบันมีช่องทางการสร้างเน็ตเวิร์คกิ้งมากมาย เช่น งานอีเวนท์ งานสัมมนา งาน Startup เป็นต้น ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมผู้คนในแวดวงที่คุณสนใจมาไว้ในที่เดียวกัน การที่เราไปงานเหล่านี้นอกจากจะได้ความรู้ใหม่ ๆ ยังเป็นการพบปะและแนะนำตัวให้คนอื่นรู้จัก โดยเฉพาะยุคที่กระแส Startup พุ่งแรงในหมู่คนรุ่นใหม่ การไปงานเกี่ยวกับ Startup อาจจะทำให้ได้เจอกับนักลงทุนและคนที่สนใจในธุรกิจเดียวกัน และอนาคตอาจจะกลายเป็นพาร์ทเนอร์ของเราได้
เริ่มต้นทำความรู้จัก
เรามักทำตัวไม่ถูกเวลาต้องออกไปงานที่มีคนมากหน้าหลายตา ยิ่งถ้าเราไปคนเดียวยิ่งรู้สึกประหม่าเพราะไม่รู้จักใครใช่ไหม ดังนั้น เราควรรวบรวมความกล้าหาจังหวะเข้าไปเริ่มต้นทักทายด้วยการไหว้หรือจับมือ สบตาคู่สนทนาและยิ้มให้ด้วยท่าทางเป็นมิตร ให้นามบัตร จากนั้นก็เริ่มบทสนทนาเรื่องทั่ว ๆ ไป สร้างบรรยากาศให้คู่สนทนาประทับใจและนำไปสู่การสานสัมพันธ์ต่อไป
จำชื่อให้แม่น
เชื่อไหมคะว่า ชื่อเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่หลายคนอาจพลาดได้ การที่เราจำชื่อได้จะเพิ่มความประทับใจให้คู่สนทนาเห็นว่าเรามีความใส่ใจ และทำให้รู้สึกคุยกันง่ายขึ้น ดังนั้น หลังจากที่เราได้มีการแนะนำตัวพูดคุยกันแล้ว เราควรจำชื่อคู่สนทนาให้แม่นเลยนะ ถ้าไม่แน่ใจสามารถถามชื่ออีกครั้งได้ แต่อย่าถามซ้ำ ๆ บ่อย ๆ นะคะเพราะจะเป็นการเสียมารยาททำให้คู่สนทนาส่ายหน้าได้
อย่าฮาร์ดเซล
จำให้มั่นนะคะว่า การเจอกันครั้งแรกเป็นเพียงการเริ่มต้นในการสร้างเน็ตเวิร์คกิ้ง ดังนั้น เราควรจะแนะนำตัว และพูดคุยด้วยเรื่องสบาย ๆ ทั่ว ๆ ไป มีอารมณ์ขันบ้างให้บรรยากาศผ่อนคลาย จากนั้นก็อาจคุยกันเรื่องความสนใจของเราในธุรกิจนั้น ๆ แสดงความจริงใจ และ Passion ให้คู่สนทนารับรู้ ที่สำคัญไม่ควรโอ้อวดตัวเอง หรือแสดงว่าตัวเองเหนือกว่าคู่สนทนา อย่าพูดแทรกกลางวงสนทนา ต้องหัดเป็นผู้ฟังที่ดีและโต้ตอบให้ถูกจังหวะ และที่สำคัญอย่าเจาะจงถามถึงเรื่องส่วนตัวหรือข้อมูลเชิงลึกด้านธุรกิจของคู่สนทนา หรือขอให้แนะนำงานให้ จะทำให้คู่สนทนาเกิดความอึดอัดใจได้
อย่าปฏิเสธที่จะรู้จัก
บางครั้งเราไปพบหรือได้รับการแนะนำให้รู้จักเพื่อนของเพื่อนที่อยู่นอกเหนือแวดวงที่เราสนใจหรือไม่เกี่ยวกับธุรกิจของเรา มักจะทำให้เราไม่กระตือรือร้นในการเข้าไปทำความรู้จัก รู้ไหมว่า อาจจะเป็นการตัดโอกาสตัวเองได้ เพราะใครจะรู้ว่า คนที่อยู่ในแวดวงที่ต่างจากเราอาจจะให้คำแนะนำหรือมีมุมมองแตกต่างที่น่าสนใจ และในอนาคตเราอาจจะต้องพึ่งพาพวกเขา
ช่วยเหลือคนอื่นบ้าง
การสร้างเน็ตเวิร์คกิ้งเป็นการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์จากคนที่ไม่รู้จักกลายมาเป็นเพื่อน เป็นหุ้นส่วนหรือคนให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ดังนั้น เมื่อเราได้รับแล้วเราก็ควรที่จะให้อย่างจริงใจ ถ้ามีโอกาสก็ควรเสนอตัวช่วยเหลือและแนะนำเพื่อนหรือคนอื่น ๆ ให้รู้จักกันเพื่อขยายเครือข่ายความสัมพันธ์ เพราะเพื่อนก็จะแนะนำเราให้รู้จักคนอื่นต่อ ๆ ไปด้วย เป็นการเพิ่มโอกาสในการรู้จักคนเพิ่มขึ้นในหลากหลายแวดวง
สานสัมพันธ์ให้ยั่งยืน
หลังจากที่เราเริ่มต้นทำความรู้จักบุคคลต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่ควรทำ คือ การหาทางรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราอาจจะแลกนามบัตร อีเมล เบอร์โทรศัพท์ แล้วก็ห่างหายกันไปจนกว่าจะเจอกันอีกครั้ง แต่ปัจจุบันเราสามารถสานสัมพันธ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการติดตาม
Facebook,
Twitter,
Instagram,
LinkedIn หรืออื่น ๆ ซึ่งช่องทางโซเชียลมีเดียนอกจากจะทำให้เรารู้สึกว่าได้ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ยังเป็นการอัปเดต และแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกันอีกด้วย
ไม่ยากเลยใช่ไหม การสร้างเน็ตเวิร์คกิ้งทุกคนสามารถทำได้ไม่จำกัดเพศ อายุ และไม่ต้องลงทุนสักบาทเดียว ขอแค่เปิดใจให้กว้างในการทำความรู้จักและสานสัมพันธ์กับผู้อื่น การที่เรามีเน็ตเวิร์คกิ้งที่ดีเป็นกลยุทธ์ช่วยเราอย่างมากในโลกของธุรกิจปัจจุบัน เน็ตเวิร์คกิ้งจะทำให้เรามีโอกาสเพิ่มขึ้น ได้รับความช่วยเหลือและคำแนะนำที่ดีจากผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า และถึงแม้เราจะยังไม่ได้เริ่มธุรกิจแต่ในอนาคตเน็ตเวิร์คกิ้งเหล่านี้ก็จะมีประโยช์แก่เรามาก นอกจากนี้เราได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากคนเหล่านี้เพื่อนำไปพัฒนาตัวเองอีกด้วย เอาล่ะ ตอนนี้ได้เวลาออกไปสร้างเน็ตเวิร์คกิ้งกันแล้ว ลุย!