เมื่อเอ่ยถึงแบรนด์ทางด้านความงามของไทยที่ประสบความสำเร็จ เราคงคุ้นชื่อกับ Mistine (มิสทีน) Srichand (ศรีจันทร์) KMA (เคเอ็มเอ) หรือว่า Beauty Buffet (บิวตี้บุฟเฟ่ต์) แต่อีกหนึ่งแบรนด์ที่อยู่ในใจใครหลาย ๆ คนมายาวนานเช่นกัน นั่นก็คือ Cute Press (คิวท์เพรส)
จากแบรนด์เครื่องสำอางไทยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 40 ปี อย่าง Cute Press (คิวท์เพรส) ที่เป็นหนึ่งในผู้นำด้านความงามและสุขภาพที่ดี ภายใต้แนวคิดที่อยากให้ผู้หญิงทุกคนสวยได้ทุกวัน โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมที่มีชื่อเสียงในการผลิต เน้นคุณภาพที่เหนือกว่าในราคาสบายกระเป๋า ที่ผู้หญิงทุกคนสามารถซื้อได้
คิวท์เพรสผ่านการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์และในแง่การตลาด โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มีการพลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ใหม่ สดใสไฉไลกว่าเก่า ทำการเจาะกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2559 ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง “แป้งพัฟรุ่น Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF30 PA+++” ได้ทำยอดขาย 1 ตลับ ทุก ๆ 14 วินาที ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ Cute Press หลังจากมีการปรับกลยุทธ์ใหม่
อะไรคือกลยุทธ์ทางการตลาด ตลอดจนเทคนิคการบริหารงานอย่างไรที่ Cute Press นำมาใช้เพื่อ
บริหารธุรกิจความงามจนประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้ซึ่งเราสามารถนำมาปรับใช้กับการบริหารธุรกิจได้ ไปดูกันครับ
กลยุทธ์ขยายสาขา Cute Press Shop
ปัจจุบันโลกเราขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัล จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจและการตลาดต้องปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของโลกทุกวันนี้ ซึ่งอีคอมเมิร์ซหรือการซื้อขายออนไลน์ดูจะเป็นเรื่องปกติในการทำการตลาดทุกวันนี้ แต่ถึงกระแสออนไลน์จะมาแรงแค่ไหน Cute Press ก็ยังเลือกสวนกระแส ด้วยการขยายสาขา Cute Press Shop หัวใจหลักของ Cute Press ในการนำเสนอสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยตรง ผ่านพนักงานขายภายในร้าน ซึ่งมีการขยายสาขาเพิ่ม 18 แห่ง รวมเป็น 299 แห่ง (ข้อมูลจากปี 2561) สร้าง Brand Loyalty และสร้างภาพลักษณ์ให้กับ Cute Press เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญในการขยายสาขาเพิ่ม แต่สาขาเดิมที่สร้างรายได้ติดอันดับท็อปก็ได้รับการรีโนเวทใหม่เพื่อให้มีความทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น จากที่เคยโฟกัสที่ผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป ก็มีการขยายไปยังสาวรุ่นใหม่ วัยเรียน และวัยทำงาน
เลือกพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์เป็นที่จดจำ
ในยุคที่ Influencer มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก กลยุทธ์การตลาดที่เรียกว่า Influencer Marketing หรือ Key Opinion Leader (KOL) อาศัยอิทธิพลทางความคิด จึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ Cute Press ใช้กลยุทธ์ KOL สร้างแคมเปญดิจิทัลมารุกทำการตลาดทั้ง Above the line และ Below the line ภายใต้คอนเซ็ปต์ Goodbye Dry Lips มีการนำเต้ย จรินทร์พร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยเจาะกลุ่มออนไลน์เป็นหลัก เปิดตัวผ่านวิดีโอทาง YouTube และประสบ
ความสำเร็จเป็นอย่างดี สร้างยอดขายเติบโตขึ้น 27%
และปีที่ผ่านมา Cute Press มีการทำ VDO Story โดยใช้มิว นิษฐา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ภายใต้ไอเดีย The Day Before Mew เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงดูดีได้ไม่ว่าสถานการณ์ไหน ดั่งแป้ง Evory Stellar และพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด เจ้านาย จิณเจษฎ์ วรรธนสิน มารับหน้าที่สร้างกระแสรับหน้าร้อนด้วย คอนเซ็ปต์หนังสั้น "Sun Shy Day นายน่ารัก...เราหน้าร้อน" ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มยอดขายได้ไม่ยากเช่นกัน ถือเป็นการปรับกลยุทธ์ถูกที่ถูกเวลาเข้ากับกระแสมาแรงของ KOL เลยทีเดียว
ปรับกลยุทธ์รุกออนไลน์ บุกตลาดจีน
การจะไปให้ถึงยอดขายระดับพันล้าน การทำตลาดภายในประเทศอย่างเดียวคงไปไม่ถึงฝั่งฝัน หลาย ๆ ธุรกิจจึงหาช่องทางเลือกขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เช่นเดียวกับ Cute Press ที่มองหาช่องทางการขยายตลาด โดยเริ่มต้นลงทุนในตลาดจีนผ่านการทำการตลาดออนไลน์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
ตลาดที่ Cute Press ให้ความสนใจและมุ่งหน้าไป คือ ประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ โดยเลือกจับมือกับ Konvy.com เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซด้านความงามชื่อดัง Cute Press วางกลยุทธ์ด้านการตลาดด้วยการประชาสัมพันธ์สินค้าที่ประเทศจีน เพื่อหวังว่านักท่องเที่ยวจากจีนที่มาเที่ยวประเทศไทยจะให้ความสนใจและซื้อสินค้ากลับไป เป็นการขยายฐานลูกค้าจากคนไทยไปยังชาวจีน และยังจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้อีกด้วย
ความสำเร็จในวันนี้ของ Cute Press มาจากการไม่หยุดยั้งพัฒนา และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงทาง
การตลาด ตลอดจนการงัดกลยุทธ์ทางการตลาดต่าง ๆ มาใช้ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าทางเดินของ Cute Press ในธุรกิจความงามยังคงมุ่งไปข้างหน้าได้อีกยาวไกลแน่นอน
สำหรับ SME ด้านธุรกิจความงามแล้วนั้น การนำกลยุทธ์ของ Cute Press มาปรับใช้กับธุรกิจไม่ใช่เรื่องยากเลย แม้คุณจะไม่ได้มีเงินลงทุนเป็นจำนวนมากในการทำตลาดต่างประเทศหรือการจ้าง Influencer ชื่อดังมาแนะนำสินค้าของคุณ แต่ก้าวแรกที่ทำได้คือการนำสินค้าของคุณเข้าสู่ตลาดออนไลน์ ที่มีให้เลือกหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Pinkoi เป็นต้น เมื่อแบรนด์คุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น คุณสามารถเลือกใช้ Micro Influencer เริ่มต้นในการแนะนำ และบอกต่อจนแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น จากนั้นจึงขยับไปสู่ Macro Influencer และไปสู่การส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศในลำดับต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thinkwithgoogle.com,
www.brandbuffet.in.th,
www.brandbuffet.in.th,
tonkit360.com,
taokaemai.com/