มือใหม่มาก อยากทราบวิธีเล่นหุ้น

นี่คือคำถามยอดฮิต ที่ได้รับมาในแฟนเพจตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องยอมรับว่า เป็นช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นไทย มีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเป็นจำนวนมากในระดับหลายแสนบัญชีใหม่ แบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ผมคิดว่าที่มือใหม่เริ่มหัดเล่นหุ้นมาจาก 3 เหตุผลสำคัญ คือ

หนึ่ง..ปี 63 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งความผันผวน ตลาดหุ้นไทยเปิดปีเดือนมกราคมที่ 1584 จุด แล้วก็ตกต่ำอย่างรวดเร็วเหลือเพียง 970 ในเดือนมีนาคม จากการระบาดของโรคโควิด 19 จากนั้นก็ผันผวนขึ้นลง กระทั่งฟื้นขึ้นมาที่ประมาณ 1520 จุดในช่วงต้นปี 2564 ทำให้เกิดโอกาสทองของการลงทุนเล่นหุ้นมือใหม่เพิ่มขึ้นมากมายในระหว่างปี

สอง..ช่วงเวลาทำงานที่บ้าน (WFH) จากมาตรการล็อคดาวน์ ทำให้คนทำงานหนุ่มสาวจำนวนมากพอมีเวลาในการตามดูหุ้น และเริ่มสนใจอยากจะเปิดพอร์ตหัดลงทุนในหุ้นบ้าง

และ สาม..วงการลงทุนมีเหตุการณ์หุ้น IPO ระดับประวัติศาสตร์ ในเดือนช่วงปลายเดือนมกราคม 2564 จาก บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ หุ้น OR ที่เปิดโอกาสให้ “ทุกคน” สามารถจองหุ้นไอพีโอได้ ซึ่งก็มีนักลงทุนหน้าใหม่หรือแม้แต่คนไม่มีพอร์ตหุ้น ก็เข้าไปจองหุ้นกันอย่างมากมายหลายแสนราย

ซึ่งเมื่อเปิดพอร์ตหุ้นแล้วก็ขอไปต่อ อยาก“เล่นหุ้น” ให้ดุดัน เติมเงินสดเข้าพอร์ตให้จริงจัง หวังได้กำไรง่าย ๆ และเร็ว ๆ แบบที่เคยทำได้ในปี 2563 ช่วงตลาดตกต่ำผันผวน หรือกำไรหุ้นไอพีโอ 60% กันอีกครั้ง

แต่ความจริงแล้ว... โลกของตลาดหุ้นสำหรับมือใหม่หัดลงทุน ง่ายอย่างนั้นไหม?

ก่อนอื่นเลยในเชิง Mindset (ชุดความคิด) ที่ถูกต้อง ขอเสนอว่าเราอย่าเรียก “เล่นหุ้น” ดีกว่าครับ เพราะดูคล้ายกับว่า ไม่ได้เอาจริงเอาจัง ดูเหมือนมาเล่น ๆ แบบนี้อันตรายมาก เพราะอย่าลืมว่า เรากำลังใช้เงินสด เงินจริงที่หามาอย่างยากลำบาก เข้าไปแลกกับหุ้น และหลักการพื้นฐานหนึ่งของมือใหม่หัดเล่นหุ้น คือ เราต้องรู้ว่า กำลังเอาเงินสดจริง ไปแลกกับอะไร

การถือหุ้น หมายความว่า เราได้ “ลงทุน” เพื่อเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของกิจการ กิจการก็คือบริษัท (มหาชน) ในตลาด ถ้าบริษัทมีหุ้นทั้งหมด 10 ล้านหุ้น เราซื้อมา 10 หุ้น หมายความว่า เราเป็นเจ้าของ “หนึ่งในล้าน” ของบริษัทนั้น นี่คือ "การลงทุนในหุ้น" ซึ่งมีทั้งแบบลงทุนซื้อหุ้นทางตรง ผ่านตลาดหลักทรัพย์ด้วยตัวเราเอง โดยการเปิดพอร์ตลงทุนกับโบรคเกอร์ หรือลงทุนซื้อหุ้นโดยอ้อม ผ่านการซื้อกองทุนรวมต่าง ๆ ซึ่งตัดสินใจลงทุนแทนเรา โดยการเปิดพอร์ตกองทุนกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ที่เราเป็นลูกค้าอยู่

สำหรับนักเล่นหุ้นมือใหม่มาก อยากทราบวิธี “ลงทุน” ขอให้ตระหนักว่า ท่านกำลังจะก้าวมาเป็น "นักลงทุน" ซึ่งมีโอกาสทั้งได้กำไรและขาดทุน ซึ่งนักลงทุน...อย่างน้อยควรจะต้องรู้ว่าเรากำลังจะควักเงินสดในกระเป๋าเราไปแลกเอากับอะไร เพราะอะไร แผนคืออะไร เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ไม่เหมือนการฝากเงิน

เปรียบเทียบ มือใหม่หัดลงทุนก็เหมือนเรากำลังลงทุนไปซื้อ "เป็ด" มาเลี้ยง เรามีความคาดหวังกับเป็ดอยู่ไม่กี่อย่าง

1. ซื้อเป็ดพันธุ์ไข่ มาเลี้ยงเพื่อหวังกินไข่เป็ด
แปลว่าเป็ดตัวนี้ควรจะสาวหน่อย ไม่แก่เกินไป ยังออกไข่ได้สม่ำเสมอและอีกนาน เปรียบเทียบให้มือใหม่เล่นหุ้นเข้าใจง่าย ๆ นี่คือการหวัง "เงินปันผล" จากการลงทุน ซึ่งระยะเวลาที่คาดหวังในการเลี้ยงเป็ดตัวนี้คือ ตราบเท่าที่ยังคงออกไข่ให้เราได้อย่างสม่ำเสมอ สุขภาพของเป็ดยังคงแข็งแรงดีอยู่ไม่ตายง่ายๆ

เป็ดพันธุ์นี้ คือ หุ้นปันผล... นี่คือเลี้ยงเป็ดหวัง dividend yield กำไรจากเงินปันผล

2. ซื้อเป็ดสาวราคาถูก มาเลี้ยงเพื่อหวังขายต่อ ที่ราคาแพงกว่า
เรารับทราบด้วยพลังงานบางอย่างว่าเป็ดสาวตัวนี้จะเติบโตได้ เนื้อดี สุขภาพดี ตลาดต้องการ ราคาปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และที่สุดแล้วผู้คนจะมองเห็น ราคาในตลาดจะแพงขึ้นเรื่อย ๆ ระยะเวลาในการเลี้ยงคือ ตราบเท่าที่ราคาตลาด ยังไม่แพงเกินกว่าการเจริญเติบโตที่เป็ดจะเป็นไปได้

เป็ดพันธุ์นี้ คือ หุ้นคุณค่า (value stock) ... มือใหม่เล่นหุ้นที่ลงทุนในหุ้นคุณค่าเปรียบเหมือนเลี้ยงเป็ดหวัง capital gain กำไรจากผลต่างของราคา

3. ซื้อเป็ดพันธุ์พรีเมียมราคาแพงมาเลี้ยง เพื่อหวังขายต่อให้คนอื่นที่ราคาแพงกว่านี้อีกมาก
เรามั่นใจว่ามันกำลังจะเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม นี่คือเป็ดพันธุ์ดีเยี่ยม ลักษณะใกล้เคียงหงส์ คนเลี้ยงนวดทุกวัน ให้กินข้าวอินทรีย์อาหารออร์แกนิก เปิดเพลงโมสาร์ท โอกาสเติบโตอย่างมีคุณภาพยังมีสูงมาก วันนึงจะมีคนเห็นค่าเป็ดตัวนี้แบบมหาศาล และเราจะกำไรได้อีกมากโข ระยะเวลาการเลี้ยงเป็ดคือตราบที่ราคาของมันยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง

นี่คือเลี้ยงเป็ดหวัง capital gain กำไรจากผลต่างของราคา แต่ด้วยความที่ต้นทุนการซื้อเป็ดชนิดนี้ราคาสูง ดังนั้นการอ่านเทรนด์ ติดตามปัจจัยพื้นฐานจึงสำคัญกับมือใหม่เล่นหุ้นมาก ๆ แม้ต้นทุนเข้าซื้อของเราไม่ถูกเพราะคนส่วนใหญ่ก็มองเห็นโอกาสเติบโตนี้ แต่โอกาสโตมาก ๆ ในระยะยาวยังมีอย่างสดใส

เป็ดพันธุ์นี้ คือ หุ้นเติบโต (growth stock) ... นี่คือเลี้ยงเป็ดตามเทรนด์ระยะยาว โดยคาดหวัง capital gain กำไรจากผลต่างของราคาอีกมากในอนาคต

ความอันตรายสูงสุดคือ: กรณีที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า กำลังจะซื้อตัวอะไรมาเลี้ยง ใช่เป็ดหรือเปล่า? ซื้อมาหวังกินไข่หรือขายต่อ? ยังมีโอกาสโตอีกไหม? และ แพงไปหรือยัง? ฯลฯ นักลงทุนมือใหม่แค่เดินตามมวลหมู่นักลงทุนเข้ามาเล่นหุ้นที่เกิดนิยมขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ทราบสาเหตุ และมีความคาดหวังผิด ๆ ว่าราคาจะต้องเพิ่มขึ้นทันทีเท่านั้นเท่านี้ ยิ่งเข้าไปเล่นหนักถึงขั้นทุ่มเงินทั้งหมดมาซื้อ หรือเปิดบัญชีมาร์จิน (บัญชีที่โบรกเกอร์เปิดเพื่อให้สินเชื่อกับนักลงทุนในการลงทุนซื้อหุ้น) ก็ยิ่งเสี่ยงสูง

ดังนั้น Mindset การลงทุนที่ถูกต้องจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะกับมือใหม่เล่นหุ้นที่เพิ่งก้าวลงสนามไม่นาน เช่น เลือกลงทุนในเฉพาะหุ้นพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโต, ลดการเก็งกำไรที่ความเสี่ยงสูงโดยไม่จำเป็น, ใช้เงินเย็นหรือเงินเก็บที่ห่างจากเราได้นาน ๆ มาลงทุน, มีการกระจายความเสี่ยง, เพิ่มทักษะความชำนาญในการลงทุน ในสายการลงทุนที่ถูกจริตกับตัวเรา เช่น สายปัจจัยพื้นฐาน หรือสายกราฟเทคนิค ฯลฯ

ผมจะเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นสายปัจจัยพื้นฐาน เพื่อให้ข้อมูลที่นักลงทุนมือใหม่มาก ที่อยากลงทุนในหุ้น ได้ทราบวิธีการคิดวิเคราะห์เพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อย ๆ ติดตามอ่านกันได้ผ่านทางเว๊บไซต์กรุงศรีเพลินเพลิน