เทรนด์การท่องเที่ยวด้วยตัวเองเป็นไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาว และ
คนรุ่นใหม่ Generation Y ที่มักจะวางแผนการเดินทางด้วยตัวเองตลอดทริป ไม่ยึดติดรูปแบบการท่องเที่ยวเดิม ๆ ที่ต้องมีไกด์หรือกรุ๊ปทัวร์ เน้นการแสวงหาประสบการณ์และพบปะเพื่อนใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญทำให้การท่องเที่ยวสะดวกและมีอิสระมากขึ้น ซึ่งธุรกิจโรงแรมที่เน้นตอบโจทย์นักท่องเที่ยวประเภทนี้เป็นหลักก็คือ Hostel โรงแรมขนาดเล็กราคาสบายกระเป๋า แต่ Hostel กำลังถูก Disrupt ด้วย
ที่พักแนวใหม่ที่เรียกว่า Poshtel ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงแต่ก็เข้าถึงบริการชิค ๆ เทียบเท่าโรงแรมได้
Poshtel เป็นการเล่นคำระหว่าง Posh ที่หมายถึงความมีระดับ และ Hostel ซึ่งก็คือโรงแรมราคาประหยัด คำจำกัดความสั้น ๆ ของ Poshtel ก็คือโรงแรม Hostel ในรูปแบบพรีเมียมนั่นเอง มีการนำสไตล์การตกแต่งแบบ Boutique มาผสมผสานให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลบภาพมายาคติที่คนมักจะมองว่าที่พักราคาประหยัดจะไม่ปลอดภัยหรือไม่ถูกสุขลักษณะ เริ่มแรกเดิมทีนั้น Poshtel มีต้นกำเนิดมาจากยุโรป ต่อมาแพร่หลายไปยังอเมริกา รวมไปถึงในเอเชียด้วย และความคาดการณ์ว่าในปี 2020 ธุรกิจ Poshtel จะเติบโตขึ้นไปอีก และจะได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่สนใจธุรกิจนี้ มาดูกันว่าทำไม Poshtel ถึงประสบความสำเร็จได้
สะดวกสบายเทียบเท่าโรงแรม
โดยปกติโฮสเทลธรรมดา ๆ จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานให้ แต่ Poshtel ให้มากไปกว่านั้น ด้วยการจัดสรรพื้นที่ Common Room อย่างเป็นระเบียบ บริเวณล็อบบี้อาจถูกดัดแปลงให้กลายเป็น Co-Working Space มีบริการ Wi-Fi ที่ครอบคลุม การออกแบบพื้นที่ส่วนรวมให้น่าสนใจ ช่วยเปิดโอกาสให้คนมาพบปะพูดคุย ทำกิจกรรมร่วมกัน ได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ บางแห่งอาจจะมีห้องสมุดให้นักท่องเที่ยวยืมหนังสือ มีโต๊ะพูล มินิบาร์ หรือคาเฟ่ โดยผู้เข้าพักสามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้แบบ Self-service นี่คือสิ่งที่เจ้าของธุรกิจพอชเทลควรให้ความใส่ใจเพราะสามารถนำมาเป็นจุดแข็งของโรงแรมได้
นอกจากนี้ทำเลก็เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวพิจารณาเป็นลำดับแรก ๆ จะเห็นได้ว่า Poshtel แม้จะมีราคาที่พักไม่สูงมากนัก แต่ตั้งอยู่ในทำเลทอง ตรงใจกลางเมืองที่เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก โดยส่วนมากคนที่มาพักมักจะเป็นนักท่องเที่ยวสไตล์แบ๊คแพ็คเกอร์ที่จะเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ สามารถเปลี่ยนแผนการเดินทางได้ตลอดเวลา มีสัมภาระไม่มาก ซึ่งถ้าทำเลที่ตั้งใกล้กับระบบขนส่งสาธารณะ ก็ทำให้พวกเขาพร้อมเดินทางได้ทันที
พื้นที่ส่วนตัวในห้องเล็ก
Poshtel มีห้องพักให้เลือกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนใหญ่ที่แชร์หลายเตียง ห้องนอนรวมหญิงล้วน ห้องสำหรับครอบครัว และห้องนอนเดี่ยว มีห้องน้ำรวมและห้องครัวให้ใช้ร่วมกัน บางคนอาจจะรู้สึกกังวลว่าที่พักลักษณะนี้จะไม่มีความเป็นส่วนตัวและไม่มีความปลอดภัย แต่ความเป็นจริงแล้วแต่ละคนจะมีพื้นที่ส่วนตัวขนาดย่อม ๆ แต่ละเตียงถูกแบ่งเป็นสัดส่วน มีม่านกั้น บางแห่งมีตู้ล็อกเกอร์ส่วนตัว บนหัวเตียงมีโคมไฟ ที่เสียบปลั๊ก ผ้าห่ม ไม้แขวนเสื้อและราวแขวน นอกจากนี้ยังมีแม่บ้านมาทำความสะอาดและจัดเตียงให้ทุกวันเหมือน
โรงแรมทั่วไป เรียกว่าเท่านี้ก็ทำให้คุณนอนหลับสบาย คลายความกังวลเรื่องความปลอดภัยไปบ้างแล้ว
โดดเด่นด้วยดีไซน์
การตกแต่งที่มีรสนิยมในราคาที่จับต้องได้ถือเป็นจุดขายของ Poshtel การนำสไตล์การตกแต่งแบบโรงแรม Boutique มาปรับใช้เพื่อยกระดับโรงแรมให้ดูทันสมัยและน่าพักมากขึ้น เอาใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบถ่ายรูป เช็คอินสถานที่แล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย บางแห่งอาจตกแต่งเป็นสไตล์โบฮีเมียนทั้งตึก หรือเป็นแนวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก็มี อย่างเช่น Kex โรมแรมพอชเทลในประเทศไอซ์แลนด์ ที่มาพร้อมกับสไตล์การตกแต่ง Eclectic Style ตกแต่งด้วยของสะสมวินเทจหลายชิ้น เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากได้บรรยากาศย้อนยุคแบบคลาสสิก ส่วนในไทยก็ไม่น้อยหน้า Whereder Poshtel ในจังหวัดอุดรธานีที่นำไม้ไผ่มาตกแต่งบริเวณอาคาร และใช้วัสดุพื้นบ้านอย่างเครื่องจักรสาน ให้ผู้ที่มาพักได้สัมผัสกลิ่นอายของภาคอีสาน
Poshtel ในไทยยังไปได้สวย
จากข้อมูลสถิติของกองเศรษฐกิจ
การท่องเที่ยวและกีฬา มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยกว่าสิบล้านคน ในระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม ในปี 2562 ซึ่งก็ทำให้ธุรกิจโรงแรมได้ประโยชน์ไปด้วยจากรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ขยายตัวขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างเข้มข้นของโรงแรมระดับสามดาวลงมา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวรายได้ปานกลางที่มีอยู่จำนวนมาก
สำหรับโรงแรม Poshtel ในไทยนั้น ปัจจุบันมีอยู่หลายแห่งกระจายไปตามตัวเมืองใหญ่ ๆ เช่น The Posh ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์ Luxury Hostel ซึ่งก็คือการอัพเกรดเป็น Poshtel อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพญาไท ที่เป็นจุดเชื่อมการเดินทางด้วยแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ นอกจากจะมีห้องหลายแบบให้เลือกพัก ไฮไลท์เด่นอยู่ที่อ่างจากุซซี่ให้บริการอยู่ที่ระเบียงชั้นดาดฟ้าอีกด้วย
(รูปจาก facebook.com/theposhphayathai)
ทั้งนี้ Poshtel ไม่ได้มีเฉพาะแค่ในกรุงเทพฯ ในจังหวัดกระบี่ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนมาตลอดปี ก็มี Poshtel ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น Wakeup Aonang Hotel ที่ตั้งอยู่ใกล้หาดอ่าวนาง มีห้องให้เลือกหลายสไตล์ เห็นวิวทะเล มาตรฐานการบริการเทียบเท่าโรงแรม อีกทั้งยังเป็น Postel แห่งแรกในไทยที่ก่อตั้งเมื่อปี 2559 หรืออย่างโรงแรม Box Poshtel ที่จังหวัดภูเก็ต ที่นอกจากจะโดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์ Modern Loft ที่ให้ความรู้สึกเท่ ทันสมัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ยังมีเช่าจักรยานให้นักท่องเที่ยวปั่นชมความสวยงามรอบเมืองภูเก็ต
ก้าวต่อไปของธุรกิจพอชเทลมีความเป็นไปได้ว่าจะขยายตัวไปตามจังหวัดอื่น ๆ เพราะนักท่องเที่ยวเริ่มเที่ยวเมืองรองกันมากขึ้น ผู้ประกอบการก็ต้องปรับกลยุทธ์ของตัวเองให้เข้ากับเทรนด์อยู่เสมอ ส่วนนักลงทุนหน้าใหม่ก็ต้องกล้าที่จะแตกต่าง มองให้ขาดถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย สร้างจุดเด่นของโรงแรมให้มีเอกลักษณ์ ในด้านของผู้บริโภคก็เป็นเรื่องน่ายินดีเพราะจะได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ