รู้จัก NFT นวัตกรรมสร้างทรัพย์สินดิจิทัล ช่องทางสร้างเงินใหม่

นอกจากพวกสกุลเงินอย่าง Bitcoin ที่มีราคาแพงหลักล้านบาท NFT หลายชิ้นตอนนี้ก็มีมูลค่าหลายล้านบาทเหมือนกัน ทำไมนักลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ ถึงเชื่อมั่นนำเงินไปลงทุนกับทรัพย์สินดิจิทัลที่จับต้องไม่ได้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นก็เพราะคำว่ามีชิ้นเดียวในโลก คำสั้น ๆ แค่นี้ก็ทำให้ราคาของ NFT มีแต่จะราคาเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วเรารู้ได้อย่างไรว่าเราจะเป็นเจ้าของทรัพย์สิน NFT crypto ได้แค่คนเดียว เปรียบเทียบง่าย ๆ กับการซื้อที่ดิน เมื่อทำการซื้อขายที่ดินเราจะได้หลักฐานมาเป็น โฉนดที่ดิน เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้นจริง ๆ ถ้ามีใครอยากตรวจสอบว่าโฉนดเป็นของจริงหรือไม่ ก็สามารถไปตรวจสอบกับกรมที่ดินได้เลย ในเคสของ NFT crypto ก็เหมือนกันสิทธิ์ที่เราได้ครอบครองก็ไม่ต่างจากโฉนดที่ดิน ส่วนระบบที่จะยืนยันว่าเราถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนี้คือระบบ Blockchain ที่จะบันทึกสิทธิ์การครอบครองเอาไว้ ไม่มีใครปลอมแปลงได้ เมื่อเราอยากขายทรัพย์สิน NFT ตัวระบบ Blockchain จะเป็นเหมือนเจ้าหน้าที่ เปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองใหม่ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า ทุกธุรกรรมมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบชื่อเจ้าของ หรือไม่สามารถปลอมทรัพย์สินของเราได้เลย

เมื่อเรารู้แล้วว่า NFT crypto คืออะไรกันแล้วคงมีคนสนใจที่อยากนำผลงานของตัวเองมาวางขายในรูปแบบ NFT เพื่อหารายได้เสริมในช่วงโควิด-19 แบบนี้ ซึ่งผลงานที่เราสามารถนำมาขายทำได้ทั้งภาพวาด เพลง หรือแม้กระทั่งการโพสต์ข้อความมาขายก็ได้ ซึ่งวิธีการทำจะมีประมาณนี้

1. เราต้องเปิดกระเป๋าเงินเพื่อเก็บสกุลเงินดิจิทัลก่อนอย่างเช่น Metamask หรือ Trust Wallet เป็นต้น ในส่วนนี้จะเป็นส่วนขยายที่เราต้องติดตั้งลงบนเว็บเบราว์เซอร์ในคอมพิวเตอร์ หรือเราสามารถโหลดมาใช้ได้บนสมาร์ทโฟนทั้งระบบ iOS และ Android
2. เลือกเปิดบัญชีซื้อขาย Cryptocurrency กับตลาดซื้อขายตอนนี้มีของไทย และต่างประเทศ สำหรับในประเทศไทยอาจต้องอ่านข้อกำหนดสักเล็กน้อย ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณา แต่ถ้าเปิดกับตลาดต่างประเทศ สามารถทำได้เลย และมีจำนวนคนใช้จำนวนมากทั่วโลก เมื่อเปิดบัญชีเสร็จเรียบร้อย เราต้องมีเงินดิจิทัลที่ชื่อว่า ETH (Ethereum) ประมาณ 0.01-0.05 ทั้งนี้ราคาซื้อ อาจต้องดู ณ ช่วงเวลานั้น เพราะราคามีการปรับเปลี่ยนทุกวินาที เมื่อซื้อเสร็จเรียบร้อยให้โอนเหรียญ ETH กลับเข้าไปในกระเป๋าเงินของเราซึ่งขั้นตอนนี้สำคัญมาก อย่าใส่ที่อยู่ของกระเป๋าเงินผิดเด็ดขาด เพราะจะไม่สามารถกู้คืนมาได้ หากใส่ที่อยู่กระเป๋าเงินผิดพลาด
3. เตรียมผลงานที่จะนำมาเปลี่ยนเป็นทรัพย์สิน NFT ให้พร้อมเราสามารถใช้นามสกุลไฟล์ เช่น PNG, GIF, MP4 เป็นต้น แต่ถ้าผลงานของเราเป็นผลงานที่ยังอยู่ในกระดาษ หรือเฟรมผ้าใบ ต้องนำมาสแกนให้เป็นไฟล์ดิจิทัลเสียก่อน เมื่อเตรียมผลงานเรียบร้อยแล้วก็สามารถอัปโหลดผลงานของเราเข้าสู่ตลาด ในขั้นตอนนี้เราอาจตั้งค่าบัญชีการขายของเรา เตรียมสกุลเงินดิจิทัล ที่เป็นของตลาดที่เราไปวางขาย เพื่อเป็นค่า Gas Fee ทำธุรกรรมด้วยนั่นเอง

การวางขายผลงานในรูปแบบของ NFT ในตอนนี้มีทั้งครีเอเตอร์แบบสมัครเล่น หรือคนดังมากมายทั่วโลกก็มีการนำผลงานตัวเองมาให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของแบบง่าย ๆ แบบ NFT

ในช่วงก่อนหน้านี้มีข่าวฮือฮาเกี่ยวกับการปิดราคา NFT ที่มากมายหลายชิ้นงานด้วยกันโดยชิ้นแรกเราขอพูดถึง ผลงานของ Jack Dosey ผู้ก่อตั้งโซเชียลมีเดีย Twitter ที่ได้นำทวีตแรกของเขาเมื่อตอนสร้างแพลตฟอร์มออกมาขายในรูปแบบ NFT โดยทวีตแรกของเค้าบอกเล่าว่า “Just set up my twitter” และมีมหาเศรษฐีจากประเทศมาเลเซียชนะการประมูล NFT ภาพนี้ไปที่ราวๆ 92 ล้านบาท โดยเหตุผลของมหาเศรษฐีท่านนี้กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่าทรัพย์สิน NFT อันนี้เปรียบได้ดั่งรูปภาพโมนาลิซ่า ของลีโอนาร์โด ดาร์วินชี่ เลยทีเดียว หรือจะเป็นภาพมีมน้องผู้หญิง ที่ยืนยิ้มอยู่หน้าบ้านในขณะที่ไฟกำลังไหม้ ที่ทั่วโลกได้นำมาตัดต่อ ทำเป็นภาพล้อเลียนกันสนุกสนาน ทุกโซเชียลมีเดีย โดยน้อง Zoë Roth ที่เป็นเจ้าของภาพสุดดังนี้ได้นำภาพมาวางขายในรูปแบบ NFT ในราคาราว ๆ 15 ล้านบาท ถึงแม้จะขายภาพนี้ไปแล้วแต่ผู้ขายยังสามารถได้รับส่วนแบ่ง 10% หากเจ้าของ NFT นี้นำภาพของเธอมาวางขายอีกครั้ง

นอกจากนี้ในบ้านเราก็มีศิลปิน คนดังมากมายเริ่มที่จะมีวางขายทรัพย์สินในรูปแบบ NFT อย่างเช่น คุณปาล์ม แห่งวงดนตรี Instinct ก็มีการนำผลงานภาพวาดของตัวเอง มาขายในรูปแบบของทรัพย์สิน NFT เป็นผลงานภาพในชุด Siam Rangers ในราคาภาพละประมาณ 0.30 ETH นอกจากนี้ยังมีศิลปินรุ่นใหม่อย่าง ปั๋น Youtuber จากช่อง Riety ศิลปินเพลงฮิปฮอปวัยรุ่นชื่อดัง YOUNGOHM หรือนักร้องรุ่นเก๋าตัวพ่อของวงการศิลปะอย่าง Tik Shiro แต่ละคนก็มีผลงานในรูปแบบ NFT ด้วยกันทั้งนั้น และราคาของผลงานพวกเขาก็มีมูลค่ามากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวัน

สำหรับเรื่องของทรัพย์สินแบบ NFT ในตอนนี้อาจยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เทรนด์ของ NFT ในอนาคตต่อจากนี้คงมีแต่การเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่กำลังขยายไปสู่วงการอื่น เช่น ทรัพย์สินในการเงิน การลงทุน หรือแม้กระทั่งการถือครองอสังหาริมทรัพย์ NFT ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น เป็นโอกาสที่ดีหากเราได้เรียนรู้กับสิ่งใหม่ ๆ นี้ หรือการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไปปรับใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยสร้างรายได้นอกจากการทำงานประจำอีกทางหนึ่ง สำหรับในวงการ Cryptocurrency ยังมีอีกหลายสิ่งที่รอเรานำมาใช้ประโยชน์ได้จริงอีกมากมาย