รู้ไหมว่าในปัจจุบัน โลกของเราได้ถูกมนุษย์ทำลายสิ่งแวดล้อมกันไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก ซึ่งเกิดจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ที่ทำให้เกิดมลภาวะ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม การขับขี่รถยนต์ที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ รวมไปถึงการตัดไม้ทำลายป่าที่คอยดูซับคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับโลกของเรา
หลาย ๆ ประเทศทั่วโลกได้จับมือกันเพื่อหาทางแก้ไข เพื่อที่จะฟื้นฟูให้โลกน่าอยู่ขึ้น อันนำไปสู่การสร้างเป้าหมาย Net Zero น้องเพลินเพลิน จะพาทุกคนมารู้จัก Net Zero ว่าคืออะไร และหากเราเป็นผู้ประกอบธุรกิจ เราจะต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง
Net Zero คืออะไร ทำไมธุรกิจต้องให้ความสนใจ
Net Zero มีเป้าหมายที่จะไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มเติม โดยจะทำการกำจัดก๊าซเรือนกระจกในจำนวนที่เทียบเท่ากับปริมาณที่ปล่อยออกมา เป้าหมายนี้จะช่วยยั้งไม่ให้โลกเรามีอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น ช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และลดผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ จากธรรมชาติ ในส่วนของประเทศไทยเองก็ได้ตั้งเป้าในการสร้าง Net Zero ภายในปี 2065 ด้วยเช่นกัน
เรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจควรให้ความสนใจ เนื่องจากสมัยนี้คนไทยเองก็ได้ตระหนักถึงปัญหาของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น
วิกฤตโลกร้อนต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนไทยได้มีการรณรงค์ในการลดการใช้หลอดและถุงพลาสติก โดยหันมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้หลอดกระดาษที่ย่อยสลายได้ง่าย และใช้กระเป๋าที่ทำจากผ้าเพื่อที่จะได้ใช้หลาย ๆ ครั้ง โดยจะเห็นได้ว่าห้างสรรพสินค้าหลาย ๆ แห่งก็ไม่มีการแจกถุงพลาสติกกันแล้ว
ตัวอย่างต่อมา หลายคนที่ต้องการจะเปลี่ยนรถก็อยากจะได้รถ EV กันมากขึ้น เนื่องจากรถประเภทนี้ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงที่สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อโลก และสุดท้ายผู้บริโภคจำนวนมากยอมจ่ายเงินแพงขึ้นเพื่อซื้อสินค้าและบริการจากธุรกิจที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังเกตง่าย ๆ คือ สินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายทางธรรมชาติได้ง่าย ย่อมเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากคนในปัจจุบัน
ผลกระทบหากธุรกิจไม่สนใจใน Net Zero
อย่างไรก็ตามธุรกิจ SMEs หลาย ๆ แห่งอาจจะยังไม่ให้ความสนใจและมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แถมยังมีต้นทุนในการปรับตัวสูง น้องเพลินเพลิน จึงขอสรุปให้ว่า หากเราเป็นคนหนึ่งที่ทำธุรกิจแต่ไม่สนใจประเด็น Net Zero สิ่งที่ตามมาจะมีดังนี้
- สูญเสียลูกค้าที่ใส่ใจในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และอาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ทำให้ธุรกิจเกิดปัญหาในเรื่องความน่าเชื่อถือ
- สูญเสียนักลงทุนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นักลงทุนจำนวนหนึ่งอาจจะปฏิเสธการลงทุนเพราะไม่อยากเป็นหนึ่งในต้นเหตุในการดำเนินกิจการที่ทำลายสิ่งแวดล้อมและสร้างก๊าซเรือนกระจก
- เกิดความเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมายในอนาคต และถูกบังคับให้ปรับตัวในท้ายสุด เนื่องจากประเทศไทยนั้นได้ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงมีการผลักดันกฎหมายต่าง ๆ ที่จะควบคุมกระบวนการต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกมาตรการลงโทษส่งผลต่อการดำเนินกิจการในระยะยาวได้
แนวทางการปรับตัวของธุรกิจยุคใหม่
สำหรับธุรกิจที่ยังไม่ได้เริ่มต้นวางแผนในการก้าวไปสู่องค์กรที่สนับสนุน Net Zero สามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ได้ตามขั้นตอนที่ทางน้องเพลินเพลินแนะนำดังนี้
- เริ่มต้นวางแผนจากสิ่งง่าย ๆ เช่น การรณรงค์ให้พนักงานประหยัดพลังงานและทรัพยากรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปิดไฟเมื่อไม่ใช้ การใช้น้ำอย่างประหยัด และสร้างวัฒนธรรมขององค์กรให้ทุกคนหันมาใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ ที่ช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม
- ติดตามอัปเดตข่าวสารและเทรนด์ต่าง ๆ ในการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อที่จะนำมาปรับใช้ได้ในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด
- วางแผนปรับตัวด้วยการทยอยลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและสามารถลดต้นทุนของธุรกิจในระยะยาวได้ เช่น การลงทุนในอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน แม้ว่าจะเป็นการลงทุนที่ใช้เงินมากในช่วงต้น ๆ แต่ระยะยาวจะพบว่ามีความคุ้มค่าในการทำธุรกิจ
- เข้าร่วมโครงการของรัฐบาลและธนาคารที่สนับสนุนการลงทุนของธุรกิจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพื่อที่จะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ การให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงได้รับเงินทุนสนับสนุนให้กิจการ
EasyTips by น้องเพลินเพลิน
หากเราทำธุรกิจและอยากพาองค์กรไปสู่การให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม น้องเพลินเพลินก็ขอแนะนำให้ติดต่อไปยังธนาคารกรุงศรี เนื่องจากในปัจจุบันธนาคารได้สนับสนุนผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อที่จะช่วยกันแก้ปัญหาวิกฤตโลกร้อน ลดภาวะเรือนกระจกตามเป้าหมาย Net Zero โดยออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปเพื่อผู้ประกอบธุรกิจ
สินเชื่อนี้ให้ประโยชน์ต่อกิจการต่าง ๆ ในการติดตั้งโซลาร์รูฟจากผู้ให้บริการแผงโซลาร์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงและใช้อุปกรณ์มาตรฐาน Tier 1 และแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่เป็นพันธมิตรกับธนาคาร
สามารถผ่อนชำระสูงถึง 6 ปี และให้วงเงินสูงถึง 100% ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรในการรักษาสิ่งแวดล้อมและการเติบโตอย่างยั่งยืน สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
สินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปเพื่อผู้ประกอบการ SME (krungsri.com)
โดยสรุปแล้ว ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ประเทศไทยนั้นก็มีเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2505 สำหรับธุรกิจต่าง ๆ ก็มีความจำเป็นจะต้องปรับตัวมากขึ้นเพราะผู้บริโภคสมัยนี้พร้อมที่จะสนับสนุนธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ซึ่งสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ จากเรื่องใกล้ตัวและวางแผนเพื่อปรับตัวให้ธุรกิจมีเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น