การค้าขายเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน โดยในสมัยก่อน ตลาด คือ แหล่งเศรษฐกิจของคนไทย จะจับจ่ายใช้สอยสิ่งใด ก็จะต้องไปที่ตลาดซึ่งเป็นศูนย์รวมความเจริญ ในสมัยที่ยังไม่มีห้างสรรพสินค้าเหมือนดังปัจจุบัน ตลาดก็จะมีร้านค้ามากมายที่ขายสินค้า อาหารการกิน ข้าวของเครื่องใช้
ใครที่อยู่ห่างไกลความเจริญ อยู่ไกลจากในตัวเมืองก็จะต้องใช้เวลาในการเดินทาง เมื่อเวลาผ่านไป จากตลาดก็เปลี่ยนแปลงไปสู่ห้างร้าน จากเล็กไปสู่ใหญ่ ขยายเติบโตพัฒนาขึ้นไปตามกาลเวลา
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
จริง ๆ แล้วถ้าจะย้อนไปสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก ในช่วงเวลานั้นความเจริญก็ยังเข้าไปไม่ถึงทั่วทุกพื้นที่มากนัก ผมคนหนึ่งเป็นเด็กที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด บางสิ่งบางอย่างที่คนในบ้านต้องการ ก็ไม่สามารถหาได้ที่ร้านค้าใกล้บ้าน ต้องเข้าไปที่ตลาดในตัวอำเภอ เข้าไปที่ห้างร้านในตัวจังหวัด หรือบางอย่างก็ต้องไปหาซื้อในตัวกรุงเทพฯ กันเลยทีเดียว
การค้าขายบนโลกโซเชียล
แต่ในปัจจุบันเมื่อความเจริญเข้าถึงทุกพื้นที่ มีสิ่งต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย รวมถึงเทคโนโลยีที่เข้ามาจนแทบจะตามไม่ทันกันเลยทีเดียว โลกมีความสะดวกสบาย รวดเร็วฉับไวมากขึ้น การซื้อขายก็เช่นกัน เรายกตลาดห้างร้านเข้ามาไว้ในอุปกรณ์สื่อสาร Smart phone
การค้าขายบนโลกโซเชียล ที่เราสามารถจับจ่ายใช้สอยได้ตลอด 24 ชั่วโมง อยากได้อะไรก็แค่กด ๆ ก็ได้สิ่งที่เราต้องการโดยแทบจะไม่ต้องออกจากบ้าน
งานแฟร์
หรือหากเรามีความสนใจที่จะเลือกซื้อสินค้าอะไร ในยุคนี้ ก็จะมีการจัดงานแฟร์ต่าง ๆ ขึ้น รวบรวมสินค้ามาให้เราเลือกซื้อ อย่างเช่น เรากำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ โดยที่ต้องการจะเลือกเฟอร์นิเจอร์จำนวนมาก ๆ อยากไปเดินดูเดินชม เลือกเปรียบเทียบ ทั้งรูปแบบคุณภาพสินค้าและราคา เราก็สามารถไปเดินดูได้ตามงานจัดแสดงโชว์สินค้าก็จะมีร้านเฟอร์นิเจอร์รวมอยู่ให้เราเลือกเป็นร้อยเป็นพันร้าน โดยไม่ต้องเดินทางหลายต่อ นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปของการค้าขาย ในปัจจุบันที่ผู้ค้าอำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อมากขึ้นเรื่อย ๆ
บัตรเครดิต
และสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยนั่นก็คือ การซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีมาช้านาน ตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณ สิ่งที่นำมาซื้อขายแลกเปลี่ยน ก็ค่อย ๆ วิวัฒนาการพัฒนาให้สะดวกสบายขึ้นไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ใช้สิ่งของมาแลกกัน ใช้เบี้ย จนมาถึงการใช้เงิน ใช้
บัตรเครดิต ซึ่งในปัจจุบัน การใช้บัตรเครดิตเป็นสิ่งที่นิยมกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะความสะดวก รวมถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่เราจะได้จากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ทำให้เราหันมาเลือกใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกันมากขึ้น ซึ่งร้านค้าต่าง ๆ ในยุคนี้จะต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้ซื้อด้วย เมื่อก่อนคุณอาจมองว่า การรับจ่ายกับบัตรเครดิตเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคุณ แต่ในปัจจุบัน ผมว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป หากคุณมีแพลนจะขยายกิจการ มีแพลนธุรกิจกันอีกยาว ๆ ก็คงจะต้องหันมาสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจังว่า เราต้องรับมือกับลูกค้าที่ต้องการใช้จ่ายกับบัตรเครดิตนั้นอย่างไร
เครื่องรูดบัตรเครดิต
ตอนนี้ถ้าเราไปเดินตามงานแฟร์ต่าง ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่า หลาย ๆ ร้านจะมีบริการให้คุณจ่ายกับบัตรเครดิตได้ โดยแต่ละร้านมีเครื่องรูดบัตรเครดิตเล็ก ๆ ใช้งานง่าย พกพาง่าย สะดวก และไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำธุรกิจและอยากเพิ่มช่องทางการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตให้กับลูกค้าของคุณ ผมขอแนะนำบริการที่ไม่ยุ่งยากนั่นก็คือ
Krungsri EDC (Electronic Data Capture) ซึ่งเป็นบริการจากธนาคารกรุงศรีฯ เอาไว้รับชำระค่าสินค้าผ่านบัตรเครดิต และเดบิตของ VISA, MasterCard และ JCB ได้
การเปิดใช้บริการไม่ได้ยุ่งยากเลย ถ้าไม่มีเวลาไปธนาคาร คุณสามารถโทรไปให้ทางธนาคารเปิดและดำเนินการให้ พร้อมกับส่งเครื่อง Krungsri EDC มาทางไปรษณีย์ และติดตั้งเองได้ง่าย ๆ สบาย ๆ หน้าตาของเครื่องรูดบัตรก็เหมือน ๆ กับเครื่องรูดที่เราเห็นตามแคชเชียร์ห้างสรรพสินค้านั่นเอง
วิธีการใช้งานก็คือ การนำข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้า รูดผ่านเครื่องเพื่อขออนุมัติวงเงินจากสถาบันการเงินของบัตรนั้น เมื่ออนุมัติแล้ว เครื่องก็จะพิมพ์ใบเสร็จสองใบ สำหรับลูกค้าและร้านค้า โดยการอนุมัตินั้นใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีในการอนุมัติและตอบกลับ ซึ่งง่ายรวดเร็วทันใจ นอกจากความรวดเร็ว ความเป๊ะที่เราจะได้จากการใช้ Krungsri EDC แล้วนั้น ยังเป็นการสร้างโอกาสเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของเราได้อีกด้วย
ผมเคยเห็นหลาย ๆ ร้านมักจะเสียโอกาสในการเพิ่มยอดขาย ด้วยเหตุผลที่น่าเสียดายมาก ๆ คือ ลูกค้าบางคนชอบสินค้า อยากซื้อมาก ๆ แต่ไม่ได้พกเงินสดมา บางคนก็รู้สึกขี้เกียจไปกดเงิน คุณรู้ไหมครับว่า การตัดสินใจซื้อสินค้าของมนุษย์เรานั้น แค่เสี้ยววินาทีเดียวก็เปลี่ยนใจกันได้ ดังนั้น การมีช่องทางการจ่ายเงินให้กับธุรกิจของเราหลาย ๆ ช่องทางเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้านั้น เป็นเรื่องที่สำคัญในการค้าขายเป็นอย่างมาก