ช่วงนี้ Start up ในเมืองไทยเกิดขึ้นและโด่งดังเป็น All star เป็นจำนวนมาก ผมจึงอยากมาบอกเล่าหนึ่งประเด็นสำคัญสำหรับ Start up นั่นก็คือ “การตลาดฉบับเริ่มต้น” ธุรกิจ Startup อย่างเรา ๆ คงทำการตลาดเหมือนอย่างบริษัทใหญ่ทั่วไป เช่น 4P หรือ Above the line หรือ Below the line คงเป็นไปไม่ได้
สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จต้องมาจาก Creative Idea ที่มีจุดเด่นและแตกต่าง ลองนึกถึงบริการที่เราเคยใช้อย่าง UBER หรือ Air BNB สิครับ คงจะพอมองออกว่าการตลาดของเขาแตกต่างและสร้างสรรค์จริง ๆ
สำหรับการตลาดของ Startup มีข้อเท็จจริงพื้นฐานที่ต้องใส่ใจอยู่ 2 ประการ
ข้อที่ 1 ผลิตภัณฑ์ที่ดีอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้
ข้อที่ 2 การตลาดที่เยี่ยมยอดไม่สามารถโน้มน้าวผู้บริโภคให้สนใจในสินค้าที่ไร้คุณภาพได้
ขั้นเริ่มต้นสำหรับ Startup ต้องทราบก่อนว่าการได้รับ Feedback ที่เป็นความคิดเห็นต่าง ๆ นั้นสำคัญ หากเราสามารถรับรู้และแก้ปัญหาข้อคัดค้านของลูกค้าได้ แล้วนำไปพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ตรงตามความต้องการของตลาดได้จะทำให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว บริษัทต่าง ๆ เช่น Dropbox, Hotmail, Eventbrite, Mailbox และ Snapchat นั้น เป็นที่รู้จักกันมาก มีผู้ใช้บริการมากกว่าล้านคน ทั้งที่แทบจะไม่ได้เสียเงินให้กับการตลาดเลย ความลับของพวกเขา คือ “การสร้าง viral หรือการบอกต่อ” ให้กับสินค้าของเขานั่นเอง ผมเองซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจน้ำมันรำข้าวส่งออกอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย มองเห็นและใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการตลาดที่เรียกว่า Social Media เป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสารในยุคดิจิตอลนี้
1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
เช่น ใน Facebook สามารถกำหนด อายุ, เพศ, Location ของกลุ่มเป้าหมายได้ หรือใน Google เราก็สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายตาม Keywords ได้เพื่อการสื่อสารสู่กลุ่มลูกค้า สิ่งสำคัญ คือ ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจต้องระบุเป้าหมายให้ชัดเจนและตรงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ผมมองว่าสื่อ Social Media เป็นสื่อที่ออกแบบเครื่องมือมาให้เราสามารถยืดหยุ่นกับเงินค่าโฆษณาได้
1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
เช่น ใน Facebook สามารถกำหนด อายุ, เพศ, Location ของกลุ่มเป้าหมายได้ หรือใน Google เราก็สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายตาม Keywords ได้เพื่อการสื่อสารสู่กลุ่มลูกค้า สิ่งสำคัญ คือ ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจต้องระบุเป้าหมายให้ชัดเจนและตรงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ผมมองว่าสื่อ Social Media เป็นสื่อที่ออกแบบเครื่องมือมาให้เราสามารถยืดหยุ่นกับเงินค่าโฆษณาได้
2. Two ways Communication
เครื่องมือที่มีประโยชน์ในส่วนนี้ ได้แก่ Facebook, Instagram และ Line ซึ่งทำให้เราได้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น และประหยัดเวลา ลดขั้นตอนการทำแบบสำรวจ การสื่อสารผ่าน Social Media ทำให้เราได้สื่อสารตรงประเด็นกับลูกค้าตัวจริงที่ได้ใช้สินค้าเรา หรือสนใจที่จะซื้อสินค้าเรา สามารถสร้างโอกาสทางการค้าขาย และนำข้อมูลต่าง ๆ มาพัฒนาสินค้าได้อย่างตรงจุด
3. Viral พลังบวก
ปัจจุบันใครก็อยากสร้างกระแสให้กับ Brand แต่กระแสที่เจ้าของ Startup อย่างเรานั้น เป็น Viral ที่ก่อให้เกิดพลังบวก เกิด Feedback และเป็นการสร้าง Brand Awareness ที่ดีประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการโฆษณา สิ่งที่สำคัญสำหรับข้อนี้เลยก็คือ Content ที่โดนใจ ตรงประเด็น สร้างสรรค์ เข้าถึง inside ของกลุ่มลูกค้าได้
4. เครือข่ายสร้างได้ Words of Mouth
ยังคงมีบทบาทและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง การมีเครื่องมือ Social Media ทำให้การกระจายข้อมูลเป็นไปอย่างง่ายดาย สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ คือ ต้องสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเพื่อให้เกิดการบอกต่อและสร้างพลังบวกให้กับ Brand ก่อให้เกิดประโยชน์ระหว่างลูกค้าและเราแบบ win-win เราสร้างความประทับใจให้ลูกค้ามากเท่าไหร่ เครือข่ายลูกค้าก็จะเพิ่มขึ้นด้วยการบอกต่อ
5. สถิติช่วยวิเคราะห์
ยอดตัวเลข Reach, Like, Share หรือจำนวนคลิกเข้าสู่หน้าเว็บไซต์หลักของ Brand ทำให้สามารถนำมาวิเคราะห์ในเบื้องต้นได้ว่า ข้อมูลสินค้าหรือโปรโมชั่นที่เราได้สื่อสารผ่านแต่ละช่องทาง ดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้มากน้อยเพียงใด และเราสามารถบริหารเงินลงทุนได้อย่างถูกจุดและทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Growth Hacking คืออะไร? ทำไม Start up ต้องรู้
Growth Hacking เป็นการถอดรหัสการเจริญเติบโตของธุรกิจโดยการหาเทคนิคใหม่เพื่อให้บริษัทโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งข้ามขั้นการลงโฆษณาหรือซื้อแอดส์แบบปัจจุบันไปแล้ว
เทคนิคการใช้เพื่อนแนะนำเพื่อนอย่าง UBER เพื่อรับส่วนลดที่แชร์เพื่อน ๆ มาใช้แล้วให้ส่วนลดทั้งคู่โดยไม่จำกัด ส่วน AirBNB บริษัทบริการห้องพักที่ไม่มีห้องพักของตัวเองเลยแม้แต่ห้องเดียว ถอดรหัสการโตแบบก้าวกระโดดในช่วงแรกโดยการใช้ “Referencing หรือ Integrate” เข้ากับฐานลูกค้าเพียงแค่มีปุ่มแชร์ที่ทำให้ AirBNB โตมาได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่าง Growth Hacking เช่น Thinkofliving.com, Stockradar และ Ookbee ที่มีวิธีในการสร้าง traction หรือแรงดึงดูดลูกค้า สร้าง Viral และ Integrate ไปกับเว็บที่มีฐานลูกค้ามาก ๆ เช่น pantip.com ยิ่งมีคนโหลด app หรือคนเข้าอ่านมากเท่าไหร่ มูลค่าของบริษัท Start up ก็จะมากขึ้น จนสามารถเข้าตลาดหรือสร้างมูลค่าสูงได้ แต่อย่าลืมนะครับว่าการสร้างแบรนด์แม้เราจะมีตัวช่วยมากมาย ก็อย่าลืมพัฒนาสินค้าและบริการ แล้วดึงจุดเด่นออกมา เพื่อความสำเร็จแบบยั่งยืนนะครับ