รถไฟ เป็นวิธีการเดินทางหลักของคนญี่ปุ่น ทั้งเดินทางไปทำงาน ไปเที่ยว หรือไปช้อปปิ้ง
สถานีใหญ่ ๆ เช่น สถานี JR ชินจูกุนั้น มีผู้ใช้บริการถึงวันละ 1.5 ล้านคน คิดเป็นเกือบ 10 เท่าของผู้ใช้บริการสถานีสยาม
การที่มีผู้คนใช้บริการเป็นจำนวนมาก นำไปสู่โอกาสทางธุรกิจมหาศาลสำหรับหลายธุรกิจเช่นกัน บทความนี้ ขอแนะนำธุรกิจ 2 ประเภท ที่ประสบความสำเร็จในการแปลงพื้นที่เล็ก ๆ ให้กลายเป็นธุรกิจร้อยล้านได้
1. Soup Stock Tokyo ...ร้านที่ขายซุปเพียงอย่างเดียว
เมนูร้านนี้ มีเพียงสัปดาห์ละ 8 อย่าง และทุกอย่าง คือ .... “ซุป”
Soup Stock Tokyo ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1999 โดยจำหน่ายซุปชนิดต่าง ๆ เช่น ครีมซุปผัก ซุปมะเขือเทศกุ้ง หรือซุปข้าวต้มปลากะพง ลูกค้าอาจสั่งข้าวหรือขนมปัง ทานคู่กับซุปได้ ในช่วงเวลากว่า 20 ปีนี้ Soup Stock Tokyo พัฒนาซุปกว่า 200 ชนิด เพื่อไม่ให้ลูกค้าเบื่อ ทุกสัปดาห์ จะมีซุปชนิดใหม่ ๆ รอลูกค้าให้มาลิ้มลองเสมอ
แล้วใคร คือ ลูกค้า?
คำตอบ คือ สุภาพสตรีทั้งหลายค่ะ
ปกติ ร้านอาหารตามสถานีรถไฟ จะเป็นร้านบะหมี่โซบะยืนทาน ร้านข้าวหน้าเนื้อ หรือร้านเทมปุระ ซึ่งเป็นร้านที่ผู้ชายมักไปยืนทานอย่างรวดเร็ว สาวญี่ปุ่นจึงไม่ค่อยกล้าเข้าร้านอาหารประเภทนี้
ร้าน Soup Stock Tokyo จึงกลายเป็นโอเอซิสของสาว ๆ ที่ต้องการหาอะไรทานไว ๆ ขณะเดียวกัน ดีต่อสุขภาพ
ทางร้านเองก็เล็งเห็นโอกาสนี้ โดยทำร้านให้ดูโปร่ง สว่าง ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ ทำให้ผู้หญิงเดินเข้าร้านง่ายขึ้น และทำที่นั่งเป็นเคาน์เตอร์ เพื่อให้ผู้หญิงที่มาคนเดียวสามารถนั่งได้สะดวก
ปัจจุบัน Soup Stock Tokyo มีสาขาทั้งหมด 58 สาขา และสร้างรายได้เกือบ 3,000 ล้านบาท ... เพียงแค่จากการขายซุป
2. ร้านเครป โคโรตโตะ (Korot)
โคโรตโตะ เป็นแบรนด์ร้านเครปในโตเกียว จุดเด่น คือ การห่อเครปเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทำให้ลูกค้าสามารถหยิบทานได้ง่าย และไม่ต้องเสียเวลารอคนขายนั่งทำเครปทีละแผ่นเหมือนร้านเครปเจ้าอื่น ราคาก็เป็นมิตรภาพกับผู้บริโภค เพราะขายเพียงชิ้นละ 216 เยน (ประมาณ 70 บาท) เท่านั้น
เครปไซส์กะทัดรัด ทานง่าย
ปัจจุบัน โคโรตโตะ มีสาขาทั้งหมด 20 แห่ง โดยกว่าครึ่งหนึ่ง อยู่ตามสถานีรถไฟใต้ดินในโตเกียว
คุณผู้อ่านคิดว่า ใครเป็นลูกค้าของร้านเครปแห่งนี้คะ ?
ไม่ใช่ผู้หญิง .... ไม่ใช่เด็กนักเรียนสาวม.ปลาย
แต่เป็น .... มนุษย์เงินเดือนผู้ชายค่ะ
ทางร้านมีเทคนิคในการดึงดูดลูกค้าดังต่อไปนี้
หนึ่ง นำภาพเครปอร่อย ๆ มาทำเป็นป้ายร้านขนาดใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้แต่ไกลว่า นี่คือ ร้านเครป
ด้านขวาของภาพ คือ ภาพเครปขนาดใหญ่ เดินมาแต่ไกลก็ต้องเห็น
สอง จุดเด่นของเครป คือ เป็นขนมชิ้นเล็ก ๆ ดูดี แต่ราคาไม่แพง ทำให้มนุษย์เงินเดือนสามารถแวะซื้อไปฝากลูกน้องที่แผนก หลังจากไปพบลูกค้า หรือซื้อกลับไปฝากครอบครัวได้
นอกจากนี้ เครปโคโรตโตะยังมีหลายรส และมีบริการใส่กล่องสวยงาม เหมาะกับการซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้
สาม จุดเด่นที่สำคัญอีกประการ คือ บริการรวดเร็ว สำหรับคุณพ่อที่จะรีบกลับบ้าน หรือมนุษย์เงินเดือนที่จะรีบกลับบริษัทนั้น พวกเขาไม่มีเวลาแวะเข้าห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของ ร้านโคโรตโตะจึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากพวกเขาสามารถแวะไปเลือกที่ตู้ ระหว่างเดินไปสถานีรถไฟ รีบเลือก รีบซื้อ รีบถือกลับได้
สาขาที่ขายดี เช่น สาขาสถานี Yurakucho นั้น สามารถขายได้ถึงวันละ 1,000 ชิ้นเลยทีเดียว
ข้อดีสำหรับร้านโคโรตโตะเอง คือ ทางแบรนด์ไม่ต้องใช้พื้นที่ขายเยอะ เพียงแค่มีพื้นที่เล็ก ๆ เพียง 6 ตารางเมตร ให้พอวางตู้แช่ กับที่ให้พนักงานยืน ก็พอทำรายได้ได้แล้ว
เดือนหนึ่งนั้น สาขาที่ขายดีของร้านโคโรตโตะมียอดขายถึงเดือนละ 4 ล้านเยน (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) หรือสร้างรายได้ได้ตารางเมตรละ 2 แสนบาทเลยทีเดียว
Lesson Learned
1. การออกแบบสินค้าหรือบริการให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
กรณีร้านซุป Soup Stock Tokyo นั้น ลูกค้า คือ สุภาพสตรี อาหารจึงออกมาแนวดีต่อสุขภาพ ส่วนร้านเครปโคโรตโตะนั้น ลูกค้า คือ ผู้ชาย จึงเน้น
การให้บริการอย่างรวดเร็ว
2. การค้นพบความต้องการของลูกค้า
ทั้ง 2 ร้าน สามารถหาความต้องการของลูกค้าที่ยังไม่มีร้านใดมองเห็นได้ เช่น ร้านซุป พบว่า ผู้หญิงอยากทานอาหารเร็ว ๆ ดีต่อสุขภาพ แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปทานที่ร้านอาหารตามสถานี เพราะมีแต่ผู้ชาย ส่วนร้านเครป ก็พบว่า ผู้ชายต้องการของฝากติดไม้ติดมือเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่อยากเสียเวลาเดินหา
3. รูปแบบธุรกิจที่เหมาะกับสถานีรถไฟ
หัวใจของร้านค้าตามสถานีรถไฟของญี่ปุ่นนั้น คือ อัตราการหมุนเวียนของลูกค้า ยิ่งลูกค้าอยู่ในร้านใช้ระยะเวลาน้อยเท่าไร ทางร้านยิ่งได้เปรียบ เนื่องจากค่าเช่าที่สถานีรถไฟนั้นสูงมาก ดังเช่นร้าน Soup Stock Tokyo เจาะกลุ่มผู้หญิงที่มาทานคนเดียว รีบทาน รีบไป อัตราการหมุนเวียนลูกค้าจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่วนร้านเครปโคโรตโตะ ก็ไม่ยอมเสียเวลาทำเครปสด ๆ เพื่อให้ลูกค้าทาน แต่กลับพยายามหาวิธีพัฒนาเครปห่อสำเร็จรูป เพื่อให้ลูกค้าผู้ชายซื้อไปเป็นของฝากได้โดยไม่เสียเวลา