หากว่าเพื่อนคลิกอ่านบทความนี้ ผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ น่าจะมีความสนใจกับ “ChatGPT” AI น้องใหม่แชตบอทปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังเป็นที่จับตากันทั่วโลกไม่มากก็น้อย สำหรับคนไหนที่ยังไม่คุ้นกับ ChatGPT ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น เค้าบอกว่า มันคือตัวช่วยที่จะทำให้มนุษย์สบายขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
ลองนึกภาพตามนะครับ บทความที่ผมกำลังเขียนอยู่นี้ ผมต้องคิดก่อนว่า อะไรคือเรื่องที่คุณอยากรู้ ควรเล่าอะไรก่อนหลัง ควรให้ประโยชน์อะไรบ้าง กว่าจะร้อยเรียงมาเป็นบทความหนึ่ง ๆ ได้ ใช้เวลาเยอะมาก และกว่าจะเริ่มเขียนได้บทความหนึ่ง ต้องเริ่มต้นจากการกระตุ้นตัวเองให้รู้สึกอยากเขียน ซึ่งหลายครั้งเสียเวลาเยอะมาก กินเวลาเป็นวัน ๆ แต่ในทางตรงกันข้ามหากเราใช้ ChatGPT เพียงแค่เราพิมพ์บอก AI ว่า “เราอยากเขียนบทความเกี่ยวกับอะไร ต้องมีเรื่องราวอะไรเข้าไปอยู่ในบทความบ้าง” ให้คำสั่งโดยสังเขป เจ้า AI ก็จะเขียนบทความตัวอย่างขึ้นมาให้ทันที เรียกได้ว่า สะดวกที่สุดตั้งแต่เคยมี
เทคโนโลยีมาเลย
นอกจากนี้ ChatGPT สามารถเป็นผู้ช่วย เป็นเสมือนเลขาประจำตัวของเรา ยกตัวอย่างเช่น วันถัดไปของวันที่ผมกำลังเขียนบทความนี้ ผมมีแผนไปท่องเที่ยวที่สิงคโปร์กับเพื่อน ๆ อีก 3 คน แต่ยุคนี้มีข้อมูลให้ค้นหามากเกินไป เสิร์ชหาข้อมูลได้ไม่นานนักก็รู้สึกปวดหัวแล้ว ผมจึงถือโอกาสลองใช้ ChatGPT ช่วยหาคำตอบให้ผมบ้าง โดยพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษด้วยประโยคสั้น ๆ ว่า “ผมกำลังจะไปสิงคโปร์ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เป็นระยะเวลา 2 คืน ช่วยแพลนสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปให้ผมหน่อย”
ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 30 วินาทีก็ได้คำตอบที่น่าประทับใจมาก ChatGPT เล่าเกี่ยวกับสิงคโปร์โดยสังเขป ว่าเป็นประเทศที่สวย มีนครรัฐที่มีความเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา มีกิจกรรมหลายอย่างให้เข้าร่วมด้วยนะ แม้จะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก โดย ChatGPT เลือกสถานที่ท่องเที่ยวเด็ด ๆ พร้อมกิจกรรมสำหรับ 2 คืนให้ผมดังนี้
วันแรก:
- Gardens by the Bay
- Marina Bay Sands
- Clarke Quay
วันที่สอง:
- Sentosa Island
- Chinatown
- Merlion Park
พร้อมบอกว่านี่คือไอเดียเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะเริ่มต้นทริปเที่ยวสิงคโปร์ของคุณ! แต่แน่นอนว่า สิงคโปร์ยังมีที่พิเศษ ๆ อีกมาก อย่าลืมที่จะค้นหาที่เที่ยวสุดโปรดของคุณล่ะ!
เห็นมั้ยครับว่า คำตอบที่ได้มาค่อนข้างประทับใจพอสมควร ซึ่งผมคิดว่านี่คือก้าวแรกที่สำคัญสำหรับเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาเป็นตัวช่วยให้มนุษย์ประหยัดเวลา และมีความสะดวกสบายขึ้น เป็นที่น่าสนใจเหมือนกันว่าอนาคตเทคโนโลยีนี้จะพัฒนาไปในทางไหน
สำหรับที่ญี่ปุ่นเค้าตื่นตัวกับการเกิดขึ้นของ ChatGPT แค่ไหน
เท่าที่ผมสังเกตหัวข้อคลิปที่นักการตลาด อินฟลูเอนเซอร์ออกมาพูดถึง ChatGPT โดยเฉพาะคลิปใน youtube ของคนญี่ปุ่นก็พบว่ามีจำนวนเยอะขึ้นมาก แล้วแต่ละคลิปก็มียอดการรับชมค่อนข้างสูง แสดงให้เห็นว่า ตอนนี้คนญี่ปุ่นกำลังจับตากับเทคโนโลยีใหม่ของ ChatGPT นี้ ซึ่งในแง่ของการตลาดเค้ามองว่า ChatGPT จะถูกเอามาใช้ในงานต่อไปนี้ก่อนใครเพื่อน
1. การวางแผนงานให้
ซึ่ง AI จะต่างจากมนุษย์เราคือจะไม่เดาใจคนเรื่อยเปื่อย ไม่ต้องมาเกรงใจใคร และจะใช้เฉพาะข้อมูลดิบที่มีอยู่เท่านั้นมาพิจารณาแผนที่มีความเหมาะสมที่สุด คือไม่ใช้อารมณ์ แต่จะใช้เหตุผลมากขึ้น เหมาะกับงานลักษณะนี้
2. ช่วยคิดสำนวนโฆษณา (Catch copy) หรือคิดประโยคที่จะใช้ในการโฆษณาออกมาจำนวนมาก ๆ
ซึ่งในวงการการออกแบบสำนวนโฆษณาเราจะรู้ว่า การคิดคำขึ้นมาคำหนึ่งจะใช้เวลานานมาก บางคนต้องคิดหลายวัน บางคนคิดหลายเดือน ซึ่งอาจทำให้เราไม่ได้งานตามระยะเวลาที่ต้องการได้ แต่ในทางกลับกัน AI จะไม่ค่อยใช้อารมณ์ ขอแค่เราระบุเงื่อนไขชัดเจนเมื่อออกคำสั่ง
AI ก็จะแสดงผลลัพธ์ตามที่เราต้องการได้ ช่วยให้มีสำนวนโฆษณาออกมาเป็นจำนวนมาก ให้เราเลือกใช้ เป็นการประหยัดทรัพยากรเวลาได้เยอะ
3. ช่วยเขียนบทความแทนเรา
สำหรับข้อนี้คนตื่นตัวกันมาก เพราะเพียงแค่เราระบุว่า อยากให้ช่วยเขียนอะไร กี่ตัวอักษร ทาง ChatGPT ก็จะร่างบทความขึ้นมาตามที่เราต้องการภายในเวลาไม่นานนัก
ข้อควรระวังสำหรับคนใช้ ChatGPT
ในขณะที่เราเห็นว่า ChatGPT มีประโยชน์ในการใช้งานมาก ช่วยให้เราประหยัดเวลาได้จริง แต่การใช้ ChatGPT ก็มีข้อควรระวังอยู่หลายประการเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น
1. คำตอบที่ ChatGPT ตอบเรา ไม่ได้เป็น “คำตอบท้ายสุด” เสมอ
แต่เป็นเพียงข้อเสนอให้เราอ่านและตัดสินใจเพียงข้อเสนอหนึ่งเท่านั้น โดยเฉพาะในตอนนี้ที่เรายังไม่รู้ว่าข้อมูลที่ ChatGPT เอามาตอบนั้นเอามาจากไหน ทำให้อาจเสี่ยงปัญหาผิดลิขสิทธิ์ได้ด้วย
2. คำตอบที่ได้จาก ChatGPT อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป
ฉะนั้น เวลาจะใช้ข้อมูลที่ทาง ChatGPT เสนอแนะในงานของคุณ ควรเอาข้อมูลนั้น ๆ ไปค้นหาเพิ่มเติมก่อน จนเรามั่นใจในความถูกต้องถึงจะใช้งานได้
3. ยังต้องปรับประโยคคำสั่งอยู่บ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตั้งใจเอาไว้
ผู้ทดลองใช้งาน ChatGPT ยังพบว่าในบางคำถาม หรือบางคำสั่ง ChatGPT ไม่สามารถตอบได้ ซึ่งปัญหานี้เกิดจากตัวคำถามที่อาจจะมีความไม่ชัดเจน คลุมเครือ หรือไม่เข้ากับคำสั่งที่คนเขียนระบบ AI วางเอาไว้ ทำให้ผู้ใช้งานต้องปรับประโยคคำสั่งอยู่บ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
ChatGPT จะเข้ามาเปลี่ยนการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างไรบ้าง
- ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการค้นหาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง
- ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการได้รวดเร็วขึ้น ส่งผลให้สามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- เพิ่มอัตราการใช้งาน ChatBot ซึ่งเขาคาดว่า หากมนุษย์มีความเคยชินกับการใช้ ChatBot ในลักษณะนี้มากขึ้น ChatBot ดังกล่าวก็จะเริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เช่น วงการการขายของออนไลน์ เป็นต้น
- ผู้บริโภคสามารถรับบริการ Customer Support ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากในความเป็นจริงการให้มนุษย์มาตอบคำถามตลอด 24 ชั่วโมงคงเป็นเรื่องยาก แต่การมี ChatGPT AI อัจฉริยะที่จะช่วยเข้ามาตอบคำถามอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมงจะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงการบริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น น่าสนใจว่าในอนาคตหากมีการปรับเปลี่ยนความละเอียดของระบบแชทบอทของ ChatGPT ก็จะช่วยให้ผู้บริโภคสะดวกสบายมากขึ้น
- เมื่อสิ่งใหม่เข้ามา สิ่งเก่าบางอย่างก็จะหายไปด้วย ในอนาคตหากมีความร่วมมือระหว่าง ChatGPT กับบริการต่าง ๆ มากขึ้น ก็มีแนวโน้มว่า บริการบางอย่างที่เคยมีอยู่แต่เดิม อาจจะลดความนิยมลงได้ ต้องจับตาดูกันต่อไป
- จะมีบริการใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายหลังจากนี้ ซึ่งน่าสนใจว่าเจ้าของผลิตภัณฑ์และผู้ให้บริการต่าง ๆ จะแสวงหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ได้แค่ไหน
ทั้งหมดนี้คือการอัปเดตเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ ChatGPT ในประเทศญี่ปุ่น โดยจะเห็นว่า การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่นี้ สร้างความสนใจให้กับคนญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก แล้วก็ได้แต่ลุ้นว่าในอนาคต ChatGPT จะถูกพัฒนาไปทางไหน จะเชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์หรือบริการในอนาคตมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้น่าจับตาดูมากครับ