หนึ่งในอาชีพที่กำลังฮอตฮิตและเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันคือ อาชีพ Influencer เพราะ
อาชีพอินฟลูเอนเซอร์มีรายได้ค่อนข้างดีและน่าสนใจ หลายคนที่ทำงานในสายนี้สามารถมีรายได้หลักหมื่น หรือแม้กระทั่งหลักแสนบาทต่อเดือน และสำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าอาชีพ influencer คืออะไร เป็นอย่างไร วันนี้น้องเพลินเพลินจะพาไปเปิดโลกเพื่อรู้จักกับอาชีพนี้ให้มากขึ้น เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่สนใจอยากก้าวเข้าสู่วงการนี้
นิยามของการเป็น Influencer คือ?
Influencer คือ บุคคลที่มีอิทธิพลทางโลกออนไลน์ มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากตั้งแต่ 1 แสนคนขึ้นไป และมีจำนวนไม่น้อยที่มีคนติดตามเป็นหลักล้าน ไม่ต่างกับดาราและเซเลบริตี้ชื่อดังอีกด้วย หน้าที่ของอาชีพ influencer คือการสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่มีความสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ การสร้างความบันเทิง หรืออาจทำกิจกรรมใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดและสร้างความสนใจให้กับแฟนคลับหรือผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, TikTok หรือ YouTube อาชีพอินฟลูเอนเซอร์มีรายได้มาจากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการรับงานโฆษณา การโปรโมทสินค้า หรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งรายได้จะขึ้นอยู่กับความนิยมและจำนวนผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคน
ตัวอย่างของ Influencer ที่ประสบความสำเร็จ
- Farose เจ้าของคอนเทนต์ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างรายการ “ไกลบ้าน” ที่จะเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศและชวนเพื่อน ๆ มาให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ และยังมีรายการ "ช่างเชื่อม" ที่มีการเชื่อมโยงความรูููู้ด้านประวัติศาสตร์ เรื่องเล่า และเทพนิยาย ทำให้ผู้ติดตามได้รับความรู้ใหม่ ๆ จากคอนเทนต์เหล่านี้อีกด้วย ปัจจุบันมีผู้ติดตามช่อง Farose ใน YouTube มากถึง 7.22 แสนคน
- Nisamanee.Nutt Nisamanee.Nutt หรือคุณนัท เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ Influencer ชื่อดังที่ประสบความสำเร็จในสายความงาม โดยมีการแต่งตัวและแต่งหน้าที่เก๋๋ไก๋ และยังมีคอนเทนต์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ปัจจุบันคุณนัทมีผู้ติดตามใน YouTube ถึง 1.98 ล้านคน และใน Instagram อีก 1 ล้านคน ถือว่าเป็นอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ที่มีรายได้และฐานแฟนคลับที่กว้างขวาง
- Taxbugnoms Taxbugnoms หรือพรี่หนอม แห่งบล็อกภาษีข้างถนน เป็น Influencer สายการเงินที่เน้นให้ความรู้เกี่ยวกับภาษี ไม่ว่าจะเป็นภาษีบุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล หรือแม้กระทั่งภาษีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ปัจจุบัน Taxbugnoms มีผู้ติดตามทาง Facebook มากถึง 6.36 แสนคน และใน YouTube อีก 2.23 แสนคน
- ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม Influencer สาย IT ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับไอทีและเทคโนโลยี รวมถึงยังเป็นเกมเมอร์อีกด้วย และสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Influencer คนนี้คือการแต่งตัวเป็นผู้หญิง ทำให้คนจดจำความเป็นตัวตนได้ง่าย ปัจจุบันมีผู้ติดตาม ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอมทาง Facebook มากถึง 3.54 แสนคน
- Japanfriends Japanfriends เป็นช่อง Influencer สายสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักที่นำเสนอเรื่องราวของครอบครัวสุนัขพันธุ์โกลเด้น่ ชื่อว่า จุ๊มเหม่ง เจได และใจดี ที่จะมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้แฟนคลับได้ติดตามและชื่นชมความน่ารักของน้อง ปัจจุบันช่อง TikTok ของจุ๊มเหม่งนั้นมีผู้ติดตามมากถึง 3.9 ล้านคน
มาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากับ Influencer เหล่านี้ และอาจเป็นหนึ่งในผู้ติดตามของพวกเขาอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอาชีพอินฟลูเอนเซอร์คือหนึ่งในอาชีพที่มีรายได้ดีและมีความสำคัญในสังคมออนไลน์ยุคปัจจุบัน
เคล็ดลับสร้างรายได้หลักแสนของ influencer คืออะไร?
- ทำคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
อาชีพ Influencer คือการนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย พวกเขาจะรู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการนำเสนอคืออะไรและใครคือกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการคอนเทนต์ของเขา เพราะเมื่อมีคนสนใจและติดตามคอนเทนต์มากขึ้น อาชีพนี้จะดึงดูดให้บริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการขายสินค้าในกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน โดยบริษัทจะจ้างโปรโมทสินค้าผ่านผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์ ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับ Influencer เป็นจำนวนมาก นี่คือหนึ่งในเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้รายได้ของอินฟลูเอนเซอร์พุ่งทะยานไปถึงหลักแสนบาท
- ทำคอนเทนต์ให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาชีพอินฟลูเอนเซอร์สามารถสร้างรายได้สูงได้ คือการผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เมื่อมีคนมาดูแล้วจะต้องได้อะไรกลับไป ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดใหม่ ๆ ความรู้ ความสนุกสนาน ความประทับใจ และต้องทำคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง จึงจะทำให้บริษัทต่าง ๆ เกิดความไว้วางใจว่าคอนเทนต์ที่มีการจ้างทำนั้นจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีไอเดียใหม่ ๆ ตลอดเวลา
อย่าลืมว่าสมัยนี้ทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์มีอยู่มาก Influencer ที่สามารถครองใจผู้ติดตามได้อย่างต่อเนื่องนั้นจะต้องมีไอเดียใหม่ ๆ มานำเสนออยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกไม่เบื่อ ตื่นเต้นทุกครั้งที่จะได้รับชมคอนเทนต์ใหม่ ๆ
อย่างไรก็ตาม แม้รายได้ของอาชีพ Influencer จะสูงในระดับหลักแสนบาท แต่ก็เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยง เพราะมีหลายคนทำคอนเทนต์ขึ้นมาแล้วมีชื่อเสียงในระยะสั้น ๆ พอเวลาผ่านไปกลับไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนเดิม ส่งผลให้รายได้ก็หดหายได้เช่นกัน
EasyTips by น้องเพลินเพลิน: 3 วิธี Save ความไม่แน่นอนของรายได้ สำหรับชาว Influencer
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งสนใจในอาชีพ Influencer และอยากประสบความสำเร็จทางการเงิน น้องเพลินเพลินขอแนะนำการศึกษาแนวทางวางแผนทางการเงินและการลงทุนเพื่อช่วยให้คุณสามารถเติบโตในสายงานนี้อย่างมั่นคง ดังนี้
- มีเงินสำรองฉุกเฉิน
สำหรับอาชีพ Influencer รายได้อาจไม่แน่นอน ดังนั้นการมีเงินสำรองฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เงินส่วนนี้จะเอาไว้ใช้ในกรณีที่เกิดเหตุจำเป็นในช่วงที่ไม่มีรายได้ โดยควรเก็บสำรองเงินก้อนนี้ไว้อย่างน้อย 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน แต่หากเล็งเห็นว่าอาจมีเหตุการณ์ที่อาจจะกระทบรายได้ เช่น การระบาดของโควิด 19 ที่ผ่านมา ควรสำรองเงินส่วนนี้ไว้อย่างน้อย 12 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน
- มีรายได้หลายทาง
การมีรายได้ที่หลากหลายสามารถลดความเสี่ยงจากการพึ่งพางาน Influencer แค่เพียงทางเดียวได้ ซึ่งหลายคนอาจจะนำเงินไปลงทุนกิจการต่าง ๆ เช่น ขายสินค้าออนไลน ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องสำอาง รวมถึงการทำ Affiliate Marketing เพื่อแนะนำสินค้า หรืออาจจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่เราถนัดเพื่อเป็นอีกสินค้าที่สร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับเรา
- ลงทุนต่อยอดเพื่อให้เงินงอกเงย
Influencer หลายคนที่อยากเริ่มลงทุน แต่ไม่มีเวลาและไม่มีความรู้ในการลงทุนมาก่อน กองทุนรวมจึงเป็นเครื่องมือทางการลงทุนที่ตอบโจทย์ในเป้าหมายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเกษียณ การท่องเที่ยว รวมไปถึงการซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีแผนการเงินที่มั่นคงและรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้นในอนาคต
แล้วกองทุนไหนน่าสนใจสำหรับชาว influencer ล่ะ?
น้องเพลินเพลินขอแนะนำ “กองทุนผสม” เป็นกองทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ทำอาชีพ influencer เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีการจัดพอร์ตการลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญตามความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ ซึ่งช่วยลดความกังวลและปวดหัวในการจัดพอร์ตการลงทุนด้วยตัวเอง ทางกรุงศรีมีกองทุนผสม The One ที่เหมาะกับนักลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงที่ต่างกัน ดังนี้
- ชอบเสี่ยงน้อย ขาดทุนได้ไม่มาก ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก แนะนำ กองทุน KF1MILD (กรุงศรี The One Mild-สะสมมูลค่า) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ แต่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อ โดยลงทุนในตราสารหนี้ 70% หุ้นและอื่น ๆ 30%
- ชอบเสี่ยงปานกลาง พร้อมรับความเสี่ยงที่มากขึ้นเพื่อได้ผลตอบแทนมากขึ้น แนะนำ กองทุน KF1MEAN (กรุงศรี The One Mean-สะสมมูลค่า) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ต้องการสร้างการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ 50% หุ้นและอื่น ๆ 50%
- ชอบความเสี่ยงสูง เปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่า แนะนำ กองทุน KF1MAX (กรุงศรี The One Max-สะสมมูลค่า) ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงและความผันผวนได้สูง ต้องการผลตอบแทนสูงสุด โดยลงทุนในตราสารหนี้ 20% หุ้นและอื่น ๆ 80%
จะเห็นได้ว่า ถึงแม้
อาชีพอินฟลูเอนเซอร์สามารถสร้างรายได้เป็นหลักแสนก็ตาม แต่การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องพัฒนาการทำคอนเทนต์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ ๆ หรือการทำความเข้าใจความต้องการของผู้ติดตาม นอกจากนี้ อาชีพอินฟลูเอนเซอร์ยังต้องคอยวางแผนชีวิตทางการเงินอย่างรอบคอบ เพื่ออุดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนทางการเงินของอาชีพนี้อีกด้วย
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนจึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทําให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้