ใกล้ถึงเวลาต่อประกันรถยนต์ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับคำว่า พรบ.รถยนต์และประกันภัยชั้น 1, 2 หรือ 3 แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าพรบ. คือ อะไร พรบ.ย่อมาจากอะไร และเรามีความจำเป็นต้องจ่ายเงินค่าพรบ.รถยนต์ร่วมกับประกันชั้น 1, 2 หรือ 3 หรือไม่? เราสามารถซื้อแค่พรบ.รถยนต์หรือประกันชั้น 1 อย่างใดอย่างหนึ่งได้หรือไม่ ลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องรูปแบบประกันรถยนต์เหล่านี้กัน
พรบ.รถยนต์ คืออะไร และคุ้มครองอะไรบ้าง
พรบ. ย่อมาจากพระราชบัญญัติ พรบ.รถยนต์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับให้รถทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ต้องทำพรบ.รถยนต์ไว้เป็นหลักประกันให้กับคนในรถทุกคันหรือผู้ที่ใช้รถ ใช้ถนนว่าจะได้รับสิทธิความคุ้มครองจากเงินกองกลาง รถทุกคันจะได้รับความคุ้มครอง/เงินค่ารักษาพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุหรือการประสบภัยจากรถในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงทีนั้นเอง
วงเงินคุ้มครองตามพรบ.รถยนต์ ได้มีการกำหนดไว้แล้วอย่างชัดเจนว่าคุ้มครองในรูปแบบใด ๆ บ้าง ซึ่งการฝ่าฝืนไม่ทำพรบ.รถยนต์ จะส่งผลเสีย ไม่เพียงแต่มีปัญหาใน
การต่อภาษีรถรถยนต์แล้ว ยังเป็นการทำผิดกฎหมายแบบตรง ๆ เพราะกฎหมายได้บังคับให้ทำพรบ.รถยนต์ไว้เป็นขั้นพื้นฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ประสบภัยจากรถที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้อย่างทันท่วงที และเป็นหลักประกันให้กับโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่รับผู้ประสบภัยเข้าดูแลว่าจะได้รับค่ารักษาพยาบาล ซึ่งในแง่กฎหมายเป็นการแบ่งเบาภาระค่าเสียหายและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยและครอบครัวได้นั่นเอง
แล้วประกันรถที่รู้จักกันในชื่อประกันชั้น 1, 2, 3, 2+ หรือ 3+ ที่เห็นในการโฆษณาหรือที่พูดถึงกันบ่อย ๆ คืออะไร? ประกันเหล่านี้เรียกว่า ประกันภาคสมัครใจ ซึ่งมีหน้าที่เสริมความคุ้มครองจากพรบ คือ ความคุ้มครองตามกฎหมายที่จำเป็นสำหรับรถยนต์ทุกคัน
ประกันภาคสมัครใจ คืออะไร และคุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันภาคสมัครใจเป็นการซื้อประกันเพิ่มเติมจากความคุ้มครองที่ได้รับจากพรบ.รถยนต์ ซึ่งในกรณีที่เราเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน พรบ.รถยนต์จะช่วยคุ้มครองเท่าที่กฎหมายกำหนด แต่ถ้าความเสียหายมีมาก ผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหาย จะเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายเอง ประกันภาคสมัครใจจะเข้ามาช่วยเสริมความคุ้มครองในกรณีเหล่านี้นั่นเอง
ประกันภาคสมัครใจ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท
ประกันชั้น 1
ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด คือจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลในรถและบุคคลภายนอก รวมถึงความเสียภายที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัย รวมถึงกรณีเกิดไฟไหม้และการสูญหายด้วย
ประกันชั้น 2
รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลในรถและบุคคลภายนอก รวมถึงความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์จากการเกิดไฟไหม้และการสูญหาย
ประกันชั้น 3
รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอกและความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์จากการเกิดไฟไหม้และการสูญหาย
ประกันชั้น 2+
รับผิดชอบต่อความเสียหายในกรณีเดียวกับประกันชั้น 2 แต่เพิ่มความรับผิดต่อในส่วนของความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย แต่เฉพาะกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้นและจำเป็นต้องมีคู่กรณีด้วย
ประกันชั้น 3+
จะรับผิดชอบต่อความเสียหายในกรณีเดียวกับประกันชั้น 3 แต่คุ้มครองรถยนต์คันเอาประกันภัยในวงเงินจำกัดและเฉพาะกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
สำหรับประกันภาคสมัครใจ เรามีสิทธิ์เลือกทำประกันเพิ่มเติมตามความต้องการและงบประมาณ ซึ่งประกันภาคสมัครใจนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ทีค่าเบี้ยประกันภัยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของความคุ้มครองที่เราเลือก หลายคนอาจจะเลือกทำประกันภาคสมัครใจควบคู่กับการซื้อพรบ.รถยนต์จากบริษัทประกันภัยเดียวกันไปเลย เพื่อให้การดำเนินการต่าง ๆ การยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องสามารถทำได้พร้อมกัน เพื่อความสะดวกและความต่อเนื่องในการดำเนินการนั่นเอง แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นการบังคับทางกฎหมายว่าเราจะต้องซื้อจากบริษัทเดียวกันเสมอไป
แต่ไม่ว่าเราจะเลือกทำประกันภัยรถยนต์จากบริษัทใดก็ตาม ทั้งการทำประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และการทำประกันภาคสมัครใจ สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจ คือสิทธิประโยชน์และหน้าที่ที่ระบุในสัญญาสัญญาประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นประกันภาคบังคับหรือภาคสมัครใจ โดยเฉพาะผู้ที่ทำพรบ.ควรเข้าใจว่า พรบ. คืออะไร และครอบคลุมถึงอะไรบ้าง การเตรียมความพร้อมและศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของประกันเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย
ดังนั้นในฐานะผู้เอาประกัน สิ่งสำคัญคือการเช็ครายละเอดและเงื่อนไขการคุ้มครองต่าง ๆ เราต้องมีการเตรียมความพร้อม พิจารณาเงื่อนไขและความคุ้มครองที่จะได้รับให้ดีเสียก่อน อย่าลืมเช็ครายละเอียดให้ถี่ถ้วนและหาข้อมูลเยอะ ๆ นะครับ