หลังเรียนจบเราก็ต้องมุ่งเข้าสู่วัยทำงานซึ่งจะต้องพบกับความท้าทายในชีวิตหลายอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องงาน และการพัฒนาตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องการบริหารจัดการเงินให้พอใช้ มีการแบ่งเงินเพื่อเก็บออม หรือต่อยอดการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็น First Jobber กรุงศรีจะพาไปดูแนวทางการแบ่งเงินฉบับคนเริ่มทำงานเพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเงินดี ๆ สำหรับอนาคตได้
ทำไม First Jobber ถึงต้องเริ่มเก็บเงิน?
- จะได้มีเงินไว้ทำตามความฝัน : การวางแผนการเงินจะช่วยให้ First Jobber มีเงินและไปถึงฝันได้ ไม่ว่าจะฝันอยากมีบ้าน มีรถ หรือทรัพย์สินอื่น ๆ เรียนต่อ ตลอดจนการเก็บเงินที่เพื่อนำไปใช้จ่ายในเรื่องต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างที่ต้องการ
- เตรียมรับภาระในอนาคต : เมื่อโตขึ้นเราก็ควรต้องช่วยรับผิดชอบภาระในครอบครัว การบริหารจัดการเงินที่ดีและเริ่มเก็บเงิน จะช่วยให้เราสามารถดูแลพ่อแม่ หรือแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในบ้านได้
- มีเงินสำรองไว้ใช้ในอนาคต : ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร และชีวิตของเราก็สามารถเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ตลอด เช่น เจ็บป่วย ตกงาน ดังนั้นการมีเงินเก็บไว้เผื่อฉุกเฉินจึงเป็นเรื่องสำคัญ ขอแนะนำว่าเราควรมีเงินเก็บประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพื่อเตรียมตัวรับมือกับเรื่องต่าง ๆ
- มีเงินเพื่อใช้ในยามเกษียณ : โดยเฉลี่ยคนทั่วไปจะเกษียณจากการทำงานเมื่ออายุ 60 ปี หากไม่มีรายได้ เราก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปด้วยเงินเก็บ ดังนั้นการเก็บเงินเพื่อเตรียมพร้อมในยามเกษียณจึงเป็นเรื่องจำเป็น และไม่ควรมองว่าไกลตัว เราควรจะเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่เริ่มทำงาน ซึ่งถ้าใครเก็บเงินได้อย่างรวดเร็วก็อาจจะเกษียณอายุเร็วกว่าคนอื่นได้ด้วย
เห็นไหมว่าการบริหารเงินและเก็บออมนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตของเรามาก และเป็นสิ่งที่ First Jobber จะต้องเริ่มลงมือให้เร็วที่สุด เพราะหากวางแผนช้าก็อาจจะทำให้เราไม่สามารถรับมือกับภาระต่าง ๆ ได้
ทำอย่างไรให้มีเงินเหลือใช้?
หลายคนอาจจะทำงานมาเป็นปีแล้วแต่พบว่า ตัวเองยังไม่มีเงินเก็บเลย ขอบอกว่าจริง ๆ แล้วการเก็บเงินไม่ใช่เรื่องยาก โดยเราต้องเข้าใจก่อนว่าเงินเก็บนั้นเกิดมาจากรายรับที่มากกว่ารายจ่าย ซึ่งหากเราสามารถทำให้รายรับมากกว่ารายจ่ายได้ทุกเดือน ก็จะมีเงินเก็บได้
Tips by น้องเพลินเพลิน : บริหารเงินเดือนฉบับ First Jobber มีเงินเก็บ ต่อยอดการลงทุนสร้างความมั่นคงเพื่ออนาคต
1) บริหารเงินเดือนด้วยสูตร 50-30-20
เมื่อเราได้รับเงินเดือนให้เราแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
- ส่วนที่ 1 : ค่าใช้จ่ายจำเป็น 50% เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่ากิน ค่าเดินทางไปทำงาน ค่าใช้จ่ายที่ต้องให้พ่อแม่ ค่าเช่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นในการใช้ชีวิต
- ส่วนที่ 2 : เงินสำหรับสร้างความสุข 30% เอาไว้ใช้ในการสังสรรค์ ทานปิ้งย่าง ชาบูกับเพื่อน ๆ ชอปปิง ซื้อของที่อยากได้ หรือท่องเที่ยว
- ส่วนที่ 3 : เงินสำหรับเก็บออม 20% เป็นเงินที่เราจะเก็บตามเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ เช่น เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน เงินเก็บสะสมไว้เพื่อใช้ในยามเกษียณ เก็บเงินเพื่อเรียนต่อ หรือเอาไว้ลงทุนทำธุรกิจในอนาคต โดยเงินส่วนนี้เราสามารถนำไปฝากธนาคารเพื่อรับดอกเบี้ยสูง หรือลงทุนในกองทุนรวมเพื่อให้เงินงอกเงยไวขึ้น
สำหรับเงินส่วนนี้ขอแนะนำให้ใช้วิธี “ออมก่อนใช้” คือเมื่อได้รับเงินเดือนก็ให้หักเงิน 30% ไปออมเลย เราจะได้ไม่ลืมเก็บออม และไม่พลาดการออมทุกเดือน
2) ใช้สวัสดิการใกล้ตัว ได้ประโยชน์กว่าที่คิด
เมื่อเราก้าวสู่วัยทำงาน เราจะได้รับทั้งเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ จากบริษัท ต้องอย่าลืมตรวจสอบสวัสดิการว่าเราได้รับอะไรบ้าง เช่น สิทธิ์ในการรักษาพยาบาล หรือสวัสดิการให้พนักงานได้งบประมาณเพื่อซื้อสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานและการดูแลสุขภาพ หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ให้เราสะสมเงินเอาไว้เพื่อใช้ในอนาคต สิทธิ์ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ ไม่ควรมองข้ามนะ
3) วางแผนภาษี ชีวิต-สุขภาพและการเกษียณ
อย่างที่รู้กันว่าคนทำงานจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี จากการลงทุนใน RMF และ Thai ESG นอกจากนี้เรายังได้รับลดหย่อนจากการซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ วัยเริ่มทำงานอย่าลืมศึกษาเรื่องภาษีให้เข้าใจเพื่อได้รับสิทธิประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะ
4) ต่อยอดเงินเดือนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง
สมัยนี้การมีรายได้จากเงินเดือนเพียงทางเดียวอาจจะมีความเสี่ยงในชีวิต และอาจจะไม่เพียงพอในอนาคต เราจึงควรมองหารายได้ทางอื่นเพิ่มเติม โดยเราอาจจะเริ่มจากสิ่งที่เราสามารถทำได้ตามความรู้ ความถนัดของเรา หรือใครยังคิดไม่ออกอยากให้ลองลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบทยอยซื้อหุ้นหรือกองทุนรวมแบบรายเดือน (DCA) เพื่อสะสมความมั่งคั่ง ทั้งยังมีโอกาสรับเงินปันผลนับเป็น Passive Income ที่น่าสนใจ
สรุปบทความเรื่องเป็น First Jobber ทำอย่างไรจึงจะมีเงินเก็บ
อย่าลืมว่าเมื่อเราเรียนจบและเข้ามาสู่วัยทำงานแล้ว นอกจากการบริหารเงินเดือนและการใช้สวัสดิการต่าง ๆ อย่างคุ้มค่า การควบคุมรายจ่ายให้เหมาะสมก็จะทำให้ First Jobber มีเงินเก็บที่มากขึ้น ซึ่งเงินเก็บเหล่านี้ก็สามารถนำไปต่อยอดการลงทุนเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้กับชีวิตและสร้างอนาคตของเราให้สดใสและเป็นไปตามความฝันได้