“การค้ำประกัน” เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน หากมีคนมาขอให้เราเซ็นค้ำประกันอะไรก็ตาม และเราไม่ยอมเซ็น ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ “หักหาญน้ำใจ” กันได้ง่าย ๆ ครับ เพราะฉะนั้น ผมอยากแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนทุกครั้ง ก่อนที่จะเซ็นค้ำประกันนะครับ
สำหรับผู้ประกอบการนั้นการเซ็นค้ำประกันเงินกู้ให้กับบริษัทของตนเอง เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายบริหารงานภายในบริษัทถือเป็นเรื่องที่ทำได้ สำหรับ
สินเชื่อผู้ประกอบการทั้งขนาดกลาง และขนาดเล็กนั้นมีหลายรูปแบบอันได้แก่ วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (Overdraft) วงเงินกู้ระยะสั้น (Short Term Loan) และวงเงินกู้ระยะยาว (Long Term Loan) โดยมีเอกสารประกอบการพิจารณาขอสินเชื่อ ดังต่อไปนี้
สำหรับผู้ขอเงินกู้: ประเภทบุคคลธรรมดา
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวรัฐวิสาหกิจ หรือบัตรประจำตัวพนักงานองค์การของรัฐ หรือบัตรประจำตัวคนต่างด้าว หรือหนังสือเดินทาง หรือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์รุ่นใหม่ที่ระบุเลขประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ระบุหมายเลขประจำตัวประชาชน (กรณีที่บัตรแสดงตนไม่ระบุที่อยู่)
สำหรับผู้ขอเงินกู้: ประเภทร้านค้าทั่วไป
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวรัฐวิสาหกิจ หรือบัตรประจำตัวพนักงานองค์การของรัฐ หรือบัตรประจำตัวคนต่างด้าว หรือหนังสือเดินทางของเจ้าของร้านค้า
- สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีที่บัตรแสดงตนไม่ระบุที่อยู่)
- ใบสำคัญจดทะเบียนพาณิชย์ ที่ระบุชื่อผู้ขอจดทะเบียน
- บัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
- ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี)
สำหรับผู้ขอเงินกู้: ประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวคนต่างด้าว หรือหนังสือเดินทางของหุ้นส่วนผู้จัดการ
- ผู้มีอำนาจลงนามสั่งจ่ายและผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 20 % ขึ้นไป
- สำเนาทะเบียนบ้านของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำนาจลงนามสั่งจ่าย และผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 20 % ขึ้นไป
- หนังสือรับรองของสำนักทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทรับรองถึงรายนามหุ้นส่วนผู้จัดการ และอำนาจของหุ้นส่วนผู้จัดการ
- หนังสือข้อตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วน หรือข้อบังคับ
- บัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
สำหรับผู้ขอเงินกู้: ประเภทบริษัทจำกัด
- หนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทรับรองถึงรายนามกรรมการ และกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อผูกพันบริษัท
- บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
- รายงานการประชุมคณะกรรมการให้บริษัทเปิดบัญชีกับธนาคาร พร้อมด้วยกำหนดผู้มีอำนาจลงนามสั่งจ่ายเช็ค
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวคนต่างด้าว หรือหนังสือเดินทาง พร้อมสำเนาบัตรที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องของบุคคลดังนี้ ผู้ถือหุ้นมากกว่า 20 %, กรรมการบริหาร 2 ท่าน (เป็นกรรมการผู้จัดการ 1 ท่าน ) กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม (กรณีผู้ถือหุ้นที่ไม่ใช่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามต้องรับรองสำเนาถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอำนาจลงนามพร้อมตราประทับของบริษัท) (ยกเว้นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องขอสำเนาเอกสารการแสดงตนของผู้ถือหุ้นเกิน 20% และกรรมการบริหาร 2 ท่าน)
- งบการเงินย้อนหลังอย่างน้อย 3 ปี
- เอกสารแสดงผลการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจเซ็นสั่งจ่ายในนามบริษัท (กรณีที่บัตรแสดงตนไม่ระบุที่อยู่)
- ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- แบบ บอจ.3 หรือ บอจ.4
- หนังสือบริคณห์สนธิ
- บัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
(สำหรับผู้ประกอบการคนไหนที่ทำ SME แล้วต้องการแนวทางการกู้เงิน ลอง
อ่านบทความนี้ได้นะครับ)
สำหรับการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อนำมาใช้ประกอบกิจการนั้น แม้เราจะเป็นผู้ถือหุ้นก็ต้องพิจารณาว่า การกู้เงินในครั้งนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ เงินที่ได้จากการกู้ยืมจะถูกนำไปใช้เพื่อประกอบธุรกิจจริง และสร้างผลกำไรกลับมาคุ้มค่ากับดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายหรือเปล่า สำหรับผู้ที่ต้องการสินเชื่อ หรือต้องการข้อมูลด้านการเงินสำหรับผู้ประกอบการลองเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมที่
Plearn เพลิน by Krungsri GURU นะครับ