ถอดรหัสการพัฒนาทางความคิด ต่อยอดธุรกิจระดับโลก

บริษัท Index Creative Village ได้รับการยอมรับจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในการเป็นผู้นำการสร้างสรรค์ จนได้เป็นบริษัท Event อันดับ 7 ของโลก จาก Special Events Magazine ของสหรัฐอเมริกา  Index มีพนักงาน กว่า 500 คน ทำธุรกิจครอบคลุมทั้งงาน Creative และ Communication
 
เนื่องจากงานที่ผมทำ เป็นงานที่จะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องมี Idea ใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นทั้งตัวผมเองก็จะต้องไขว้คว้าหาทั้ง Idea และความรู้ใหม่ ๆ รวมถึงเทคโนโลยีอยู่เสมอ เพื่อที่จะนำมาเป็นข้อมูลทางความรู้ นอกจากนี้ผมเองยังต้องพัฒนาทีมงาน สร้างสรรค์บรรยากาศให้ทีมงานมีความมุ่งมั่น มี Passion ที่จะหาอะไรใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา จนก่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรขึ้น
 
ผมโชคดีที่ได้เรียนที่สาธิตจุฬาตลอด 12 ปี เป็นโรงเรียนที่อาจารย์สอนให้เด็กกล้าคิด กล้าพูด กล้าแสดงออก กล้าทำอะไรใหม่ ๆ กล้าลองผิดลองถูก ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันหล่อหล่อมตัวคุณให้ค่อย ๆ ซึมซับเข้าไปในตัวคุณอย่างที่คุณไม่รู้ตัว จนกระทั่งจบออกมาไปเรียนมหาวิทยาลัย ความกล้าพูดกล้าคิด กล้าแสดงออกก็แสดงให้เห็นออกมา แตกต่างจากเพื่อน ๆ ที่มาจากโรงเรียนอื่น บางทีดูเป็นมนุษย์ประหลาดด้วยซ้ำ เวลาอยู่ในห้องเรียน ต้องมีคำถาม ถามอาจารย์เสมอ เพราะที่โรงเรียนฝึกแบบนั้นมา ที่มีคำถามก็เพราะเราเรียนไป คิดตามไป ไม่ไช่แค่จด แค่จำ สิ่งที่อาจารย์บรรยายไปเท่านั้น ดังนั้นก็มักจะเกิดคำถามตอนท้ายชั่วโมงเสมอ ยิ่งวิชาที่ต้องใช้การวิเคราะห์หาเหตุที่มา ยิ่งมีคำถามให้ถามเยอะขึ้นไปอีก

การศึกษานอกจากการให้ความรู้ การสร้างเพื่อบ่มเพาะนิสัยตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่ระบบการศึกษาหรือครูบาอาจารย์ต้องทำให้เกิดขึ้น ไม่ใช่สอนให้จำหรือสอนเพื่อเข้าห้องสอบเท่านั้น แต่ต้องสอนให้รู้จักคิดต่อยอด เพื่อจะได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ตลอดเวลา
 
จุดอ่อนของคนไทย คือ เรื่อง Invention หรือนวัตกรรม ประเทศเราถือได้ว่าไม่มีนวัตกรรมอะไรที่เป็นของคนไทยเลยก็ว่าได้ ไม่มีจริง ๆ เราไม่มีคนที่จะสร้างนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟ รถยนต์ คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หรือแม้แต่นวัตกรรมที่อาจไม่ยิ่งใหญ่ แต่ก็ถือได้ว่าสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้เลย อย่าง มีดโกนหนวดของ โดย  Mr. Gillette การค้นคิดเครื่องดูดฝุ่น โดย Henry Hoover ยิ่งถ้าไปย้อนประวัติของคนคิดนวัตกรรมเหล่านี้ กลับกลายเป็นคนธรรมดานี่เอง ไม่ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรทั้งสิ้น
 
อย่าง Mr. Gillette เป็น sale ขายของมาก่อน เพราะเขาโดนมีดโกนบาด เลยมองหามีดโกนหนวดที่สามารถเปลี่ยนใบมีดโกนได้ เพราะราคาถูก ก็เลยไปหาวิศวกร และนักวิทยาศาสตร์ ที่มีความรู้เรื่องเหล็ก และสารแร่อื่น ๆ จนเกิดเป็นมีดโกนที่เราเห็นได้ในทุกวันนี้
 
จากคนธรรมดาเหล่านั้น แค่มี Idea ที่แปลกใหม่ และมี Imagination ก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นได้อย่างมีคุณค่า และเป็นประโยชน์แก่โลกได้อย่างมหาศาลอีกด้วย ซึ่งผมก็อยากเห็นคนไทยทำได้แบบนี้บ้างจริง ๆ ครับ