คุณว่ารุ่นพ่อแม่กับรุ่นเราใครสบายกว่ากัน?
ถ้าวัดจากข้าวของเครื่องใช้คงต้องยกให้รุ่นเราสบายกว่าเพราะเทคโนโลยียุคใหม่ก้าวล้ำไปไกล ทุกวันนี้ติดต่อกันได้ทุกที่ผ่านสมาร์ทโฟน อยากซื้ออะไรเข้าช้อปออนไลน์มีหมด หิวเมื่อไรแวะไปร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีราคา ยิ่งต้องการอยากได้โน่นอยากได้นี่มากยิ่งต้องจ่ายเงินเยอะ หรือเป็นคนรสนิยมสูงกว่าฐานะก็ต้องจ่ายเงินเยอะเช่นกัน ซึ่งถ้าเปลี่ยนมาวัดหนี้ต่อรายได้แทนแล้วละก็ รุ่นเราน่าจะลำบากกว่ารุ่นพ่อแม่ หลายครอบครัวสามีกับภรรยาช่วยกันทำงานหาเงินยังไม่พอใช้หนี้เลยครับ นั่นเพราะเราอยู่ในโลกทุนนิยมมีสินค้าและบริการดี ๆ ล่อตาล่อใจอยู่เต็มไปหมด เราต้องรู้จักแยกให้ออกว่าอะไรจำเป็นอะไรฟุ่มเฟือย แล้วลดละเลิกใช้เงินสิ้นเปลืองให้ได้มากที่สุดก็จะหมดห่วงหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วล่ะครับ
ชีวิตจริงไม่ง่ายอย่างที่คิด ปัจจุบันเริ่มน่ากังวลเรื่องคนไทยเป็นหนี้เร็ว หนี้นาน และหนี้เสียด้วย เปิดเผยโดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ จากการนำข้อมูลการชำระเงินของคนไทยในเครดิตบูโรมาวิเคราะห์ ซึ่งครอบคลุม 87% ของปริมาณหนี้ในระบบทั้งหมดพบว่า
- คนไทย 1 ใน 3 จะมีหนี้ในระบบ และมีปริมาณหนี้ต่อผู้กู้เฉลี่ย 147,068 บาท โดย 1 ใน 5 ของคนที่เป็นหนี้จะมีหนี้เสียค้างชำระเกิน 90 วัน
- คนรุ่นใหม่อายุ 25 – 35 ปี จะเป็นช่วงอายุที่คนเป็นหนี้มากที่สุด 1 ใน 2 จะมีหนี้ในระบบ สะท้อนภาพการเข้าสู่วงจรหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมีสัดส่วนหนี้เสียสูงเกิน 1 ใน 5 ของคนที่เป็นหนี้จะมีหนี้เสียค้างชำระเกิน 90 วัน
ด้วยเหตุนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการ
ควบคุมบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2560 โดยจำกัดเพดานวงเงินสูงสุดต่อรายได้ให้ลดลงเหลือ 1.5 - 3 เท่า สำหรับช่วงรายได้ที่ไม่สูงมากนัก และสินเชื่อส่วนบุคคลยังถูกจำกัดในเรื่องจำนวนสินเชื่อจากสถาบันการเงินต้องไม่เกิน 3 รายอีกด้วย ซึ่งบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เข้าถึงง่ายได้รับความนิยมอย่างสูง จึงต้องชะลอการเป็นหนี้ของกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ที่มีรายได้ไม่สูงมากนัก
การเป็นหนี้แล้วไม่มีเงินจ่ายไม่ใช่เรื่องสนุก แม้ว่าผมไม่เคยอยู่ในสถานการณ์คับขันทางการเงิน แต่ผมชอบเรียนรู้ภาวะวิกฤติจากคนอื่นผ่านทางตัวหนังสือ คลิปวิดีโอ และคนที่เข้ามาปรึกษา เพื่อถอดบทเรียนเอาไว้เตือนตัวเองและผู้อื่นครับ
สิ่งที่เห็นอย่างแรกคือ การปล่อยหนี้ท่วมส่งผลเสียหลายอย่าง อาทิเช่น เสียประวัติ
เครดิตบูโรอนาคตกู้เงินลำบาก เกิดความเครียดสะสมโดยไม่ทันระวังตัว สูญเสียความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างที่ไม่ดี และอาจถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตายได้ แต่อยากบอกว่าปัญหาทุกอย่างมีทางออกครับ
ผมเห็นคนที่ปลดหนี้ได้สำเร็จมากมายไม่ว่าเขาจะมีหนี้เยอะเพียงใดขอยกตัวอย่าง ศิริวัฒน์ แซนด์วิช และมันนี่โค้ช เป็นต้น เป็นบุคคลที่ควรเอาเป็นแบบอย่างที่ดีในการฝ่ามรสุมในชีวิตเลยครับ เราต้องต่อสู้กับปัญหาด้วยหนึ่งสมองและสองมือโดยมีข้อแนะนำเบื้องต้นจากผม ดังนี้
- ตั้งสติใช้ความคิดในการแก้ปัญหาหนี้แต่อย่าเครียดจนเกินไป
- ปรึกษาเพื่อนหรือผู้รู้ที่จะช่วยแก้ปัญหาหนี้ให้ลุล่วงไปได้
- เขียนรายรับ รายจ่าย หนี้สิน ทรัพย์สิน ให้ชัดเจนจะได้รู้ต้นตอของปัญหาและทางแก้ไข
- ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ค่าใช้จ่ายเกินฐานะ ตัดออกไปก่อนเลย
- หยุดก่อหนี้เพิ่ม และหมุนเวียนหนี้โดยกู้หนี้ใหม่ที่ดอกเบี้ยแพงกว่าไปโปะหนี้เก่า
- หนี้ที่ดอกเบี้ยสูงหาทางปิดก่อน และลองพูดคุยกับเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้
เก็บเงินสดไว้กับตัวบ้างอย่าจ่ายหนี้ไปหมด ยังต้องกินต้องใช้และ
ลงทุนให้ลืมตาอ้าปากได้
ผมขอยกตัวอย่างเคสที่เคยให้คำปรึกษาไป ซึ่งช่วยให้เขาหลุดจากวิกฤติได้ ขอสมมุติชื่อคุณเอละกันครับ คุณเอเรียนจบวิศวะจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง แต่งงานและมีลูกด้วยกันสองคนส่งเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติทั้งคู่ ด้านอาชีพคุณเอกับภรรยาแรกเริ่มทำงานประจำมาเกิน 10 ปี ก่อนที่คุณเอตัดสินใจลาออกมาคนเดียวเพื่อทำตามความฝันเปิดธุรกิจส่วนตัว ช่วงแรกกิจการดูดีแต่พอมาระยะหลังรายได้น้อยกว่ารายจ่าย ด้านการลงทุนคุณเอต้องการมี
รายได้เสริมแบบที่ไม่ต้องทำงาน (Passive Income) จึงลงทุนทำคอนโดปล่อยเช่าแต่กลับได้ค่าเช่าน้อยกว่าค่าผ่อนธนาคาร จากสถานการณ์ดังกล่าวคุณเอเจอปัญหาเงินขาดมือและตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการเบิกถอนเงินสดจากบัตรเครดิตเอาไปใช้จ่ายและหมุนเวียนชำระค่าบัตรเครดิตขั้นต่ำ 10% จนมียอดหนี้บัตรเครดิตรวมทะลุหลักล้านจ่ายไม่ไหวอีกต่อไป แถมยังกังวลเรื่องค่าเทอมลูกที่ต้องจ่ายในเทอมถัดไปอีกด้วย
หลังจากได้ฟังเรื่องราวของคุณเอและซักถามข้อมูลเพิ่มเติม ผมเสนอทางแก้ไขปัญหาดังนี้
- เขียนรายรับ รายจ่าย หนี้สิน และทรัพย์สิน เพื่อให้เห็นฐานะที่แท้จริงเอาไว้หาทางแก้ไข
- ลองเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้
- นำทองคำที่เก็บไว้ไปขายมาใช้หนี้ และสัญญากับตัวเองว่ามีเมื่อไรจะซื้อคืนมา
- พิจารณาเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิตบางฉบับที่ได้ค่าเบี้ยคืนเหมาะสม
- ให้ลูกย้ายโรงเรียนที่เสียค่าเทอมถูกลง และขอค่าเทอมบางส่วนคืนจากที่เดิม
- ประกาศขายคอนโดพร้อมผู้เช่า เพื่อให้ได้สภาพคล่องกลับมา
หารายได้เสริมจากการนำประสบการณ์งานประจำมารับงานฟรีแลนซ์ด้วย
คุณเอได้นำไปปฏิบัติแล้วพบว่า ปัญหาที่เคยแก้ผิดวิธีที่เคยคิดว่าแก้ยากกลับแก้ได้รวดเร็วกว่าที่คิด จนทำให้สภาพคล่องทางการเงินดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงต้องเดินหน้าทำต่อไปเพื่อให้สุขภาพทางการเงินกลับมาแข็งแรง สิ่งสำคัญคือต้องหมั่นหาความรู้ด้านการเงินใส่ตัวอยู่เสมอครับ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้ทุกท่านระมัดระวังการเป็น
หนี้ก้อนโตจนจ่ายไม่ไหว หรือหากเป็นแล้วก็จะได้มีหนทางออกจากวังวนชำระหนี้ได้ครับ