เช็กก่อนบิน ช้อปฟินตลอดทริป ไปเที่ยวจีนต้องเตรียมอะไรบ้าง?

เช็กก่อนบิน ช้อปฟินตลอดทริป ไปเที่ยวจีนต้องเตรียมอะไรบ้าง?

By Krungsri Plearn Plearn
หลังจากที่จีนประกาศยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทยแล้ว หลายคนคงกำลังวางแผนไปเที่ยวแดนมังกรกันใช่ไหม? แต่เรื่องที่หลายคนกังวลคือการใช้จ่ายเงินในจีน เพราะปัจจุบันการชำระเงินในจีนเปลี่ยนไปจากเดิมมาก จากที่เคยใช้เงินสดเป็นหลัก ก็เปลี่ยนมาเป็นการจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันแทน วันนี้น้องเพลินเพลินเลยมีวิธีใช้จ่ายในจีนง่าย ๆ มาฝาก พร้อมแนะนำเคล็ดลับการแลกเงินหยวนเรทถูก ให้คุณช้อปได้สนุก ไม่มีสะดุด

ไปเที่ยวจีนใช้เงินเท่าไร?

การวางแผนงบประมาณสำหรับเที่ยวจีนนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งระยะเวลา สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก และรูปแบบการเดินทาง โดยทั่วไปสำหรับทริป 4-5 วัน ควรเตรียมค่าใช้จ่ายประมาณ 25,000-35,000 บาท ครอบคลุมค่าตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร การเดินทางในพื้นที่ และช้อปปิ้ง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง อาจต้องเตรียมงบเพิ่มเติม เพราะจีนมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับไทย โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า และของใช้ต่าง ๆ แนะนำให้เผื่องบสำหรับช้อปปิ้งไว้อย่างน้อย 10,000-15,000 บาท เพื่อความสบายใจระหว่างท่องเที่ยว

อัปเดตอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทย - เงินหยวนจีน

อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาท และเงินหยวนมีความผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจ โดยปกติ 1 หยวนมีค่าประมาณ 5-6 บาท แนะนำให้ติดตามอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าก่อนเดินทาง และควรแลกเงินจากสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ เช่น ธนาคารกรุงศรี หรือตัวแทนแลกเปลี่ยนเงินที่ได้รับอนุญาต เพื่อได้อัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นธรรม และปลอดภัย

ไปเที่ยวจีน ส่วนใหญ่ใช้จ่ายเงินสด หรือจ่ายผ่านแอป?

ปัจจุบันการใช้จ่ายในจีนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยกว่า 90% ของการชำระเงินในชีวิตประจำวันเป็นการจ่ายผ่านแอปพลิเคชัน ตั้งแต่ร้านค้าใหญ่ไปจนถึงแผงลอยข้างทาง ล้วนรองรับการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัล อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวควรพกเงินสดติดตัวไว้บ้างสำหรับกรณีฉุกเฉิน หรือร้านค้าที่ยังรับเงินสด โดยเราแนะนำให้เตรียมเป็นแบงก์ย่อยเยอะ ๆ เพราะส่วนใหญ่ร้านค้าเล็ก ๆ จะไม่มีเงินทอน

3 วิธีใช้จ่ายในจีนง่าย ๆ ช้อปสนุก ไม่มีสะดุด

วิธีใช้จ่ายเงินและที่เที่ยวในจีน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนไปเที่ยวจีน น้องเพลินเพลินมีวิธีการชำระเงินที่สะดวก ปลอดภัย มาแนะนำ

1. จ่ายผ่านบัตรเดบิต Travel Card

บัตร Travel Card เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคดิจิทัล ด้วยความสามารถในการเติมเงินล่วงหน้าเป็นสกุลเงินหยวน ทำให้การใช้จ่ายในจีนเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการรูดซื้อสินค้า ถอนเงินจากตู้ ATM หรือสแกนจ่าย QR Code ทั้งยังช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน

ความพิเศษของบัตร Travel Card อยู่ที่ระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่า เพราะคุณสามารถควบคุมวงเงิน และตรวจสอบการใช้จ่ายได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น บัตรหาย ก็สามารถระงับการใช้งานได้ทันที ความเสียหายจะจำกัดอยู่เพียงจำนวนเงินที่เหลือในบัตรเท่านั้น

นอกจากนี้ การสมัคร และใช้งานบัตร Travel Card ยังทำได้ง่ายผ่านแอปธนาคาร ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบเครดิต และไม่มีภาระดอกเบี้ยเหมือนบัตรเครดิต เหมาะสำหรับทุกคน รวมถึงนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายระหว่างเที่ยวด้วย

2. จ่ายเงินออนไลน์ผ่าน Alipay

Alipay เป็นแอปพลิเคชันชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจีน รองรับการใช้งานครอบคลุมเกือบทุกร้านค้า นักท่องเที่ยวสามารถสมัครใช้งานได้ง่าย ๆ ผ่านพาสปอร์ต และผูกบัตรเครดิต หรือเดบิตจากไทย นอกจากความสะดวกในการชำระเงินแล้ว ยังมีโปรโมชัน และส่วนลดมากมายให้เลือกใช้

อย่างไรก็ตาม การสมัครใช้ Alipay จะมีหลายขั้นตอน จึงไม่เหมาะกับคนที่ไม่ถนัดทำธุรกรรมออนไลน์ และต้องคำนวณการใช้จ่ายให้ดี เพราะถ้ามีการชำระเงินใน Alipay เกิน 200 หยวน จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม 3% ด้วย

3. จ่ายผ่าน TrueMoney Wallet

TrueMoney Wallet เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนไทย เพราะสามารถใช้จ่ายได้ทุกร้านที่มีสัญลักษณ์ Alipay+ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติม อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ตลอดวัน และระบบจะแปลงค่าเงินให้อัตโนมัติ ทำให้ใช้งานได้สะดวก

นอกจาก Budget แล้ว ไปเที่ยวจีนต้องเตรียมอะไรบ้าง

นอกจากการเตรียมงบประมาณแล้ว ยังมีสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางไปจีน
  • หนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน
  • แอปพลิเคชันแปลภาษาจีนสำหรับสื่อสาร เช่น Baidu Translate, Pleco Chinese Dictionary หรือ Daxiang Dict
  • ซิมการ์ดสำหรับใช้อินเทอร์เน็ต
  • ทำประกันการเดินทางที่ครอบคลุมระยะเวลาท่องเที่ยวในจีน
  • ยาประจำตัว และยาสามัญ
  • เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ
  • หัวแปลงปลั๊กไฟสากล
  • แอปพลิเคชันแผนที่อย่าง Baidu Map
  • แอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ และจองตั๋วรถไฟฟ้าในจีนอย่าง Gaode Map หรือ Didi Chuxing

ปักหมุด 5 ที่เที่ยวจีนระดับ 5A ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต

สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ในประเทศจีนถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับสูงสุดที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลจีน ผ่านการประเมินทั้งด้านคุณภาพการบริการ ความสะดวกในการเข้าถึง ความปลอดภัย และความสวยงามของสถานที่ น้องเพลินเพลินขอแนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ที่ไม่ควรพลาด

1. จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou National Park)

จิ่วจ้ายโกว
จิ่วจ้ายโกวเป็นอุทยานแห่งชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน โดดเด่นด้วยทะเลสาบสีฟ้าใสราวคริสตัล น้ำตกอันงดงาม และขุนเขาที่ปกคลุมด้วยป่าไม้เขียวขจี สร้างภาพความงามที่ชวนตะลึงในทุกฤดูกาล

แต่ละฤดูกาลมอบความงามที่แตกต่างกัน ฤดูใบไม้ผลิมีดอกไม้บานสะพรั่ง ฤดูร้อนเขียวชอุ่มด้วยป่าไม้ ฤดูใบไม้ร่วงมีใบไม้เปลี่ยนสีสันสวยงาม และฤดูหนาวปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ไฮไลต์ของที่นี่คือ ทะเลสาบห้าสีที่มีน้ำใสจนมองเห็นก้นทะเลสาบ และเปล่งประกายเป็นสีรุ้งงดงาม

2. อุทยานป่าหินงาม คุนหมิง (Kunming Stone Forest)

อุทยานป่าหินงาม คุนหมิง
อุทยานป่าหินงามคุนหมิง หรือที่รู้จักในชื่อ “ซื่อหลิน” เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดของจีน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 400 ตารางกิโลเมตร ในเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน โดดเด่นด้วยแท่งหินปูนรูปทรงแปลกตาที่เกิดจากการกัดเซาะของธรรมชาติกว่า 270 ล้านปี จนกลายเป็นป่าหินขนาดมหึมา

เส้นทางท่องเที่ยวในอุทยานมีให้เลือกมากกว่า 400 เส้นทาง พร้อมจุดชมวิวกว่า 200 จุด แต่ละจุดมอบมุมมองที่แตกต่างของป่าหินอันน่าพิศวง นอกจากความงามทางธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง และบริการให้เช่าชุดประจำเผ่าสำหรับถ่ายภาพอีกด้วย

3. อุทยานธรณีแห่งชาติจางเย่ (Zhangye National Geopark)

อุทยานธรณีแห่งชาติจางเย่
อุทยานธรณีแห่งชาติจางเย่ หรือที่รู้จักในชื่อ “ภูเขาสายรุ้งแห่งแดนเหนือ” ตั้งอยู่ในมณฑลกานซู เป็นผลงานชิ้นเอกของธรรมชาติที่ใช้เวลาสร้างสรรค์มากว่า 24 ล้านปี เกิดจากการทับถมของหินทราย และแร่ธาตุนานาชนิด จนเกิดเป็นภูเขาที่มีลวดลายเป็นริ้วสีสันสวยงามตามธรรมชาติ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก เมื่อแสงแดดตกกระทบกับผืนหินหลากสี จะสร้างภาพที่งดงามตระการตา ภายในอุทยานมีทางเดินชมวิวที่ออกแบบอย่างดี รวมถึงทางลาดสำหรับรถเข็น ทำให้ผู้สูงอายุ และผู้พิการสามารถเข้าถึงความงามของธรรมชาติได้

4. ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)

ภูเขาหิมะมังกรหยก
ภูเขาหิมะมังกรหยก หรือ “อวี้หลงเซี่ยซาน” ตั้งตระหง่านในเมืองลี่เจียง มณฑลยูนนาน ด้วยความสูง 5,596 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปีเมื่อมองจากระยะไกลมีลักษณะคล้ายมังกรขาวกำลังเลื้อย จึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูเขามังกรหยก”

นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมวิวได้ผ่านระบบกระเช้าลอยฟ้า 3 เส้นทาง โดยกระเช้า Glacier Park จะพาคุณขึ้นไปสูงถึง 4,506 เมตร เพื่อชมธารน้ำแข็ง และทิวทัศน์อันงดงาม ไฮไลต์อีกอย่างคือการชมการแสดง “Impression Lijiang” โชว์กลางแจ้งที่ใช้ภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลัง สร้างสรรค์โดยผู้กำกับชื่อดัง จางอวี้โหมว ซึ่งบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ยิ่งใหญ่ และอลังการมาก ๆ

5. อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park)

อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดดเด่นด้วยยอดเขาหินทรายที่ตั้งตระหง่านเหนือหุบเขาเขียวขจี ภูมิทัศน์อันน่าทึ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง Avatar ในการสร้างฉากภูเขาลอยฟ้าแห่งดาวแพนดอร่า ไฮไลต์สำคัญ คือ ภูเขาเทียนเหมินซาน สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นภูเขาอกทะลุ ทำให้กลายเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งคนจีนโดยทั่วไปเชื่อว่าเป็นประตูที่เชื่อมต่อกับสวรรค์

การเดินทางภายในอุทยานมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งรถบัส กระเช้า และลิฟต์แก้วไป่หลง ซึ่งเป็นลิฟต์กลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 330 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวได้รอบทิศทางระหว่างการเดินทางขึ้นลง

Tips by น้องเพลินเพลิน : ทำบัตร Krungsri Boarding Card แลกเงินหยวนเรทถูก เที่ยวจีนในราคาสบายกระเป๋า

Krungsri Boarding Card
การเตรียมตัวเรื่องการเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศ น้องเพลินเพลินขอแนะนำ Krungsri Boarding Card ที่จะช่วยให้คุณใช้จ่ายในจีนได้อย่างสะดวกและประหยัด ด้วยจุดเด่น ดังนี้
  • แลกเงินหยวนได้ในอัตราพิเศษผ่านแอปพลิเคชัน
  • ตั้งอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าได้ตามที่ต้องการ
  • ใช้ชำระสินค้า และบริการได้ทั่วโลกโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
  • ฟรี! ค่าธรรมเนียมแรกเข้าสำหรับผู้สมัครใหม่ผ่าน krungsri app
  • กำหนดวงเงินใช้จ่ายได้ตามต้องการสูงสุด 500,000 บาท

การเดินทางไปเที่ยวจีนในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย ทั้งการใช้แอปพลิเคชันอย่าง Alipay, TrueMoney Wallet หรือบัตร Travel Card อย่าง Krungsri Boarding Card ทำให้คุณสามารถใช้จ่ายได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดี เพียงเตรียมตัวให้พร้อม และวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ ก็จะทำให้ทริปเที่ยวจีนของคุณสนุก และราบรื่นยิ่งขึ้น
 
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา