รู้ก่อน ..ดีกว่า | เช็คลิสต์นักศึกษาซ้อมโต เตรียมตัวก่อนเรียนจบ

ก่อนเรียนจบให้คอยสังเกตตัวเองว่าเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร สิ่งที่เรียนคือสิ่งที่เราสนใจจริง ๆ และอยากทำงานตรงสายหรือไม่ และเราสามารถเอาความรู้นั้นไปทำอาชีพอะไรได้บ้าง หลังจากที่เราพอจะรู้จักตัวเอง รู้ประเภทงานที่อยากทำแล้ว ให้ลองหาข้อมูลว่ามีบริษัทไหนบ้างที่ตรงกับความต้องการของเรา และศึกษาคุณสมบัติของผู้สมัครที่บริษัทมองหา เพื่อเป็นข้อมูลให้เราได้เตรียมตัวปั้นโพรไฟล์

การสร้างโพรไฟล์ให้น่าสนใจ เราควรพอมีประสบการณ์ ความรู้ ทักษะตามที่บริษัทต้องการ ข้อดีของการเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ คือ ทำให้เรามีเวลาเพียงพอในการเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ต่าง ๆ เช่น การฝึกงานช่วงปิดเทอม หรือทำงาน part-time ระหว่างเรียน วิธีนี้เราจะได้ประสบการณ์ตรงทั้ง Hard skill และ Soft skill รวมถึงการไปพบปะพูดคุยกับรุ่นพี่ในสายงานที่เราสนใจ การเข้าอบรม สัมมนาต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ของเรา ซึ่งประสบการณ์ทั้งหลายเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเล่า หรือนำเสนอเป็น Portfolio ตอนสัมภาษณ์งานได้

ระหว่างเรียนอยากให้แบ่งเวลาไปพัฒนาทักษะที่จำเป็นนอกเหนือจากการเรียนตามหลักสูตร เช่น เรียนรู้ภาษาต่าง ๆ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีดิจิทัล หรือแม้แต่บุคลิกภาพและทักษะการเข้าสังคม ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เราเป็นคนที่พร้อมที่สุดและมีโอกาสในการได้งานที่ดีนั่นเอง

อีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นในการสมัครงานก็คือ เรซูเม่ (Resume) หรือ CV ที่ดึงดูด สร้างความประทับใจ เพราะเป็นสิ่งแรกที่บริษัทจะเห็น เป็นการนำเสนอตนเองเพื่อการสมัครงานตำแหน่งที่ต้องการ ให้ผู้ว่าจ้างได้รู้จักเราคร่าว ๆ ในเวลาอันรวดเร็ว เรซูเม่ที่ดีควรกระชับและจบใน 1 หน้า หรืออย่างมากไม่ควรเกิน 2 หน้า และควรใส่ทักษะที่เกี่ยวข้องกับงานที่เราสมัครลงไปด้วย กรณีนักศึกษาจบใหม่ อาจยังไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน เราสามารถใส่กิจกรรมที่เกี่ยวข้องได้ เช่น การอบรม สัมมนา ค่าย หรือการฝึกงาน การทำกิจกรรมอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัย เป็นต้น นอกจากนี้หากใครเคยได้รับรางวัล หรือความสำเร็จต่างๆ (Awards) ไม่ว่าจะมาจากการเรียน หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็สามารถใส่ลงไปในเรซูเม่ได้เช่นกัน

หลังเรียนจบ ระหว่างหางาน รอเข้าทำงาน เป็นช่วงเวลาที่เราอาจต้องพึ่งพาตนเองบ้าง หลายคนอาจไม่ได้รับการสนับสนุนเรื่องเงินจากทางบ้านเหมือนสมัยเรียน ดังนั้นก่อนเรียนจบถ้าเรามีเงินเก็บสักหน่อยเพื่อไว้ใช้จ่ายในช่วงนี้ เราก็จะไม่ลำบากนัก นอกจากนี้เมื่อทำงานได้รับเงินเดือนแล้ว ความรู้เรื่องเงินก็จะยิ่งสำคัญ การดูแลค่าใช้จ่าย เก็บออม และนำส่วนหนึ่งไปต่อยอดลงทุนเป็นเรื่องจำเป็น พนักงานเงินเดือนหลายคนเจอเหตุการณ์ “เงินเดือนชนเดือน” ทำงานทั้งเดือนเงินแทบไม่พอใช้ แถมไม่มีเงินเก็บอีกด้วย เราคงไม่อยากเป็นแบบนั้นแน่ ๆ

ในการเก็บออมเงิน ขอแนะนำให้แบ่งเงินจากรายได้สัก 10%-20% โดยให้หักไว้ทันทีที่ได้รับเงินเดือน ส่วนที่เหลือค่อยจัดสรรนำไปใช้จ่าย การเก็บเงินที่ดีควรเก็บเงินไว้ในบัญชีที่ได้รับดอกเบี้ยสูง ซึ่งกรุงศรีแนะนำบัญชีมีแต่ได้ ออนไลน์ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 1.5% ต่อปี เป็นบัญชีที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ เพราะเปิดบัญชีง่าย เปิดได้เองเพียงดาวน์โหลด KMA krungsri app แถมคล่องตัวฝาก ถอน โอน เติม จ่ายทำรายการได้ครบ ที่สำคัญได้รับดอกเบี้ยทุกเดือน ยิ่งออมมาก ก็ยิ่งได้รับดอกเบี้ยมาก บัญชีนี้สามารถเปิดได้ตั้งแต่ตอนเป็นนักศึกษา เราจะได้เริ่มออมตั้งแต่ก่อนเรียนจบ

อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การรู้จักใช้จ่ายอย่างสมาร์ท หาดีลหรือสิทธิประโยชน์เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด อย่างการรู้จักใช้บัตรเครดิตให้เป็น เราจะได้ทั้งส่วนลด เครดิตเงินคืน โปรดี ๆ มากมาย แถมยังไม้สะสมคะแนนทุกการใช้จ่าย และยังสามารถใช้ผ่อนของดอกเบี้ย 0% ได้ด้วย แต่เมื่อใช้บัตรเครดิตเราก็ต้องระวัง ต้องมีวินัยในการจ่ายคืนเต็มจำนวนภายในเวลาที่กำหนด เราจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้ นักศึกษาคนไหนสนใจอยากลองซ้อมฝึกวินัยใช้จ่าย สามารถสมัครบัตรเครดิตนักศึกษาได้ที่ธนาคารกรุงศรี ทุกสาขา เพียงแค่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป และมีเงินฝากออมทรัพย์กับกรุงศรีอย่างน้อย 10,000 บาท ก็เตรียมบัตรประชาชน บัตรนักศึกษาไปสมัครได้เลย รับรองได้เลยว่าถ้ามีวินัยทางการเงินดีตั้งแต่ตอนนี้ จบไปทำงานจัดสรรการเงินเก่งแน่นอน

สุดท้ายนี้ การเตรียมตัวซ้อมโต เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ทำให้นักศึกษาวางแผน เตรียมพร้อมรับมือกับการเติบโตเป็นวัยทำงาน แต่เมื่อถึงเวลาที่โตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ ยังมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องศึกษา ค้นหา กรุงศรีก็ขอให้ทุกคนสนุกกับการใช้ชีวิตทุกวันนะ