“กระแสเงินสด” เส้นเลือดสำคัญของธุรกิจ

“กระแสเงินสด” เส้นเลือดสำคัญของธุรกิจ

By รวิศ หาญอุตสาหะ

แค่พูดคำว่ากระแสเงินสด เจ้าของธุรกิจหลายคนก็เบือนหน้าหนีแล้วอาจจะบอกว่า “ให้บัญชีดูละกัน” หรือ “สิ้นปีเดี๋ยวดูทีเดียว”

ผมขอบอกเลยครับว่าความคิดแบบนี้อันตรายมาก ๆ และจะอันตรายมากขึ้นไปอีกถ้าคุณอยู่ในธุรกิจที่ใช้เงินหมุนเยอะ ๆ


ก่อนเข้าเรื่องขอเล่าทฤษฏีก่อนนิดเดียวครับ
กระแสเงินสดมี 3 ประเภท ได้แก่
  • กระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงาน
  • กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน
  • กระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาแหล่งเงินทุน
แต่เพื่อความง่ายของบทความนี้เราจะขอโฟกัสไปที่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนนะครับ ซึ่งธุรกิจแต่ละประเภทก็มีการไหลเวียนของกระแสเงินสดไม่เหมือนกันนะครับ
อย่างธุรกิจร้านอาหาร คุณอาจจะรับเงินสด และจ่ายเงินเจ้าหนี้ (supplier) เป็นเครติด แบบนี้จะทำให้กระแสเงินสดของคุณอยู่ในเกณฑ์ดีมากครับ เพราะรับก่อนจ่ายทีหลัง ซึ่งถ้าไม่ได้ขายขาดทุน หรือขยายกิจการอะไรแบบเกิoตัว ธุรกิจแบบนี้มักไม่มีประเด็นปัญหาเรื่องเงินสดครับ
ธุรกิจแบบขายเงินเชื่อปรกติ อันนี้เช่นบริษัททั่วไป ๆ คือเวลาออกบิลขายไปนี่ยังไม่ได้เงินนะครับ ต้องรอไปวางบิลรับเช็คก่อน ในขณะเดียวกันเราก็ได้เครติดจากเจ้าหนี้เช่นกัน ทีนี้ส่วนต่างของเงินเข้ากับออกก็จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ และความเร็วที่เราเก็บเงินได้
ยิ่งถ้าเก็บเงินได้ช้ามากเท่าไหร่ ในขณะที่รายจ่ายไม่ได้ช้าลง แบบนี้เราก็ต้องหาเงินมาหล่อเลี้ยงบริษัทให้มากขึ้นครับ
แบบสุดท้ายจะเป็นการให้เครติดลูกค้ายาวนานเป็นพิเศษ เช่น งานราชการบางประเภท งานโครงการขนาดใหญ่ ฯลฯ ซึ่งธุรกิจแนวนี้ถ้าสายป่านไม่ยาว เงินกู้ธนาคารไม่มี เหนื่อยแน่นอนครับ
อันนี้มองมิติเรื่องการซื้อกับการขายเพียงอย่างเดียวนะครับ ยังไม่นับรวมมิติในแง่ของการลงทุน การกู้ยืม ฯลฯ หรือการขายแบบที่ต้องทุ่มเงินเยอะมหาศาลแบบพร้อมขาดทุน เช่น ธุรกิจ e-commerce รายใหญ่ในบ้านเรา เป็นต้น
ผมเคยได้มีโอกาสคุยกับนักธุรกิจรุ่นใหญ่มาก ๆ ท่านนึง ผมยังจำคำสอนของท่านได้ดีจนถึงวันนี้เลยครับ นักธุรกิจใหญ่ท่านนี้สอนผม 3 เรื่อง
  • ธุรกิจขาดทุนยังอยู่ได้ แต่ธุรกิจขาดเงินสดอยู่ไม่ได้
  • มีธุรกิจมากมายที่เป็นธุรกิจที่ดีมาก ๆ ทำกำไรได้ด้วย แต่ต้องเจ๊งไปเพราะบริหารกระแสเงินสดไม่เป็น
  • ถ้าทั้งวันไม่ได้ดูตัวเลขอะไรเลย ขอให้ดูกระแสเงินสดแค่อย่างเดียวก็ยังดี
นี่คือคำสอนสามอย่างเกี่ยวกับกระแสเงินสดที่ผมยึดถือมาก ๆ ในชีวิตครับ
กระแสเงินสดเป็นเรื่องที่สำคัญมากถึงขั้นเปรียบเปรยกันว่าคือเส้นเลือดใหญ่สำหรับการทำธุรกิจกันเลยทีเดียว
แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น? นั้นก็เป็นเพราะ...
ถ้าไม่มีเงินสดจ่ายเงินเจ้าหนี้ช้า ความน่าเชื่อถือ จะลดลงอย่างมหาศาล
ถ้าไม่มีเงินสดจ่ายเงินเดือนพนักงาน อันนี้ขวัญกำลังใจ กระเจิงแน่นอนครับ
ถ้าไม่มีเงินสดจ่ายธนาคาร เครดิตเสีย อาจจะถึงขั้นทำให้เกิดการฟ้องร้องกันได้
ความน่าเชื่อ เครดิต และขวัญกำลังใจ เป็นของที่ใช้เวลานานมากกว่าจะสร้างได้ แต่สามารถถูกทำลายได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้กระแสเงินสดจึงมีความสำคัญมาก
อย่างที่บอกไปข้างต้นครับ บริษัทขาดทุน เรายังพออยู่ได้ แต่เราขาดเงินเราอยู่ไม่ได้
และผมคิดว่านี่คือ 5 ข้อสำคัญในการบริหารจัดการเงินสดที่คนทำธุรกิจควรดู
  • ติดตามดูกระแสเงินสดให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ : โดยปกติควรจะดูทุกวันครับ
  • เข้าใจการเข้าและออกของเงิน : เราต้องรู้ว่าเงินสดเราเข้าทางไหน และออกทางไหนบ้าง อันนี้ดูเหมือนจะเป็นเบสิคนะครับ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่สนใจจนกระทั่งมารู้ตัวอีกทีก็เป็นปัญหาไปแล้ว
  • เข้าใจถึงต้นทุนของเงิน : ขอยกตัวอย่างแบบเว่อร์ ๆ หน่อยนะครับ สมมติว่าเราสามารถเลือกการขายของได้สองรูปแบบ
    - แบบที่ 1. ขายของ 100 บาทแต่รับเงินเลยวันนี้
    - แบบที่ 2. ขายของ 105 บาท แต่รับเงินอีก 10 ปีข้างหน้า
    คุณจะเลือกแบบไหนครับ….
    แน่นอนทุกคนต้องเลือกแบบแรกกันใช่ไหมครับ นี่แหละครับ คือ “ต้นทุนทางการเงิน”
  • แยกเงินส่วนตัวกับเงินของกิจการอย่างเด็ดขาด : อันนี้เรื่องใหญ่เลยครับ ถ้ามีการใช้เงินปนกัน หยิบเงินของกิจการไปใช้ก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยเอามาเคลียร์ทีหลัง การทำแบบนี้ทำให้มีแนวโน้มที่จะขาดกระแสเงินสดในวันข้างหน้าได้ครับ
  • เตรียมแหล่งเงินสำรองไว้เสมอ : อย่าคิดว่าเดี๋ยวจะใช้แล้วค่อยหานะครับ เพราะถ้าจะใช้แล้วหาเนี่ย มันอาจจะหาไม่ได้ก็ได้ หรือถ้าหาได้ก็อาจจะมีต้นทุนที่แพงมาก ๆ ดังนั้น คนทำธุรกิจควรที่จะเตรียมไว้ตั้งแต่ที่ยังไม่ต้องใช้เนี่ยแหละครับ ดีที่สุด เช่น ปรึกษาธนาคารเพื่อเตรียมวงเงินสินเชื่อ หรือเลือกธนาคารมีทั้งบริการทางการเงินและบริการ ด้านข้อมูล ความรู้ และเครือข่ายธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ เป็นต้น
ขอย้ำอีกครั้งครับว่ากระแสเงินสดคือเส้นเลือดใหญ่ ขาดเมื่อไรไม่สาหัสก็ตายลูกเดียวครับ
เคยได้ยินคำว่า Cash is King ไหมครับ จริง ๆ แล้วมันมาจากประโยคนี้ครับ
“Revenue is vanity, profit is sanity, but cash is king.”
รายได้คือความภูมิใจ กำไรคือความปรกติทางใจ แต่เงินคือที่สุดของทุกอย่างนั่นแหละครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
ลงทะเบียนรับข่าวสาร
บริการส่งข้อมูลความรู้ ให้ลูกค้าธุรกิจผ่านอีเมล์
บริการจัดส่งบทวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจผ่านทาง E-mail
  • บทวิเคราะห์เศรษฐกิจรายสัปดาห์จากศูนย์วิจัยกรุงศรี
  • ผลการสำรวจดัชนีภาวะธุรกิจ SME รายไตรมาส โดยกรุงศรี
  • ข่าวสาร และกิจกรรมของธนาคาร
  • บริการทางการเงิน และโปรโมชั่นใหม่ๆ ของธนาคาร
Follow us on
ลงทะเบียนรับข่าวสาร
บริการส่งข้อมูลความรู้ ให้ลูกค้าธุรกิจผ่านอีเมล์
บริการจัดส่งบทวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจผ่านทาง E-mail
  • บทวิเคราะห์เศรษฐกิจรายสัปดาห์จากศูนย์วิจัยกรุงศรี
  • ผลการสำรวจดัชนีภาวะธุรกิจ SME รายไตรมาส โดยกรุงศรี
  • ข่าวสาร และกิจกรรมของธนาคาร
  • บริการทางการเงิน และโปรโมชั่นใหม่ๆ ของธนาคาร
Powered by
© 2567 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
Follow