การนำสินค้าที่มีในประเทศหนึ่งส่งออกไปยังอีกประเทศหนึ่งที่ยังไม่มีสินค้าชนิดนี้ ถือเป็นหลักการส่งออกโดยทั่วไปที่ทำให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจส่งออกส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ “ประสบความสำเร็จ” มาหลายรายแล้ว แล้วถ้าเราจะเริ่มต้นทำธุรกิจส่งออกควรจะเริ่มต้นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SME ขนาดกลางและเล็กที่อยากจะนำสินค้าของตนส่งออกไปยังต่างประเทศ เหมือนผู้ประกอบรายใหญ่บ้าง จะเริ่มต้นอย่างไรดี บทความนี้มีคำตอบ
5 ขั้นตอน ทำธุรกิจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ สำหรับ SME
1. “หาความต้องการของสินค้าของเราให้เจอ”
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของ SME ที่จะทำธุรกิจส่งออกสินค้าให้ “ตรงจุด” และตรงกับกลุ่มลูกค้าที่เราจะนำสินค้าไปเสนอขาย เพราะหากเราเลือกกลุ่มลูกค้าไม่ถูกจุดตั้งแต่เริ่มต้นเราจะเสียเวลา เสียเงินเปล่าไปกับการโปรโมต ค่าใช้จ่ายของการเดินทาง สินค้าตัวอย่าง โดยที่ลูกค้าไม่ได้สนใจสินค้าของเราเลย ดังนั้น หากว่าเราสนใจการทำธุรกิจนำเข้าส่งออกจริง ๆ ให้ลองเข้าไปหากลุ่มลูกค้าของเราด้วยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีฐานข้อมูลลูกค้าต่างประเทศอย่างกรมส่งเสริมการส่งออกก็ได้ครับ
"จุดเริ่มต้นของ SME ที่จะทำธุรกิจส่งออกสินค้าของเราให้ “ตรงจุด” และตรงกับกลุ่มลูกค้าที่เราจะนำสินค้าไปเสนอขาย"
2. “โปรโมทสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ”
เมื่อเราได้กลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการแล้ว SME ที่ต้องการทำธุรกิจส่งออกไปต่างประเทศ ต้องเริ่มต้นโปรโมตสินค้าของตนเองผ่านช่องทางต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ช่องทางอินเทอร์เน็ตอย่างเว็บ www.alibaba.com ที่เป็นเว็บขายส่งสินค้าระดับโลกด้วยการโพสต์บอกสรรพคุณสินค้าของเรา นอกจากนั้นการติดตามกรมส่งเสริมการส่งออกไปออกงานแสดงสินค้าที่ต่างประเทศหรือภายในประเทศเพื่อทำให้สินค้าของเราเป็นที่รับรู้ในวงกว้างที่สุด จนกว่าจะได้ “คำสั่งซื้อ” จากลูกค้าเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปครับ
3. “วางแผนการผลิตและจัดส่งสินค้า”
เมื่อเราได้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ประเทศเป้าหมายในการทำธุรกิจส่งออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมา ก็คือการวางแผนการส่งสินค้าเมื่อเราได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ามาแล้ว การวางแผนส่งสินค้าประกอบด้วยการวางแผนการผลิตสินค้า การตรวจสอบคุณภาพสินค้า เราต้องเข้าใจว่าลูกค้าต้องการคุณภาพสินค้าระดับไหน ต้องมีใบรับรองอะไรบ้าง เพื่อกันความผิดพลาด เพราะหากเราส่งสินค้าผิด Spec ไปยังต่างประเทศแล้วลูกค้าตีกลับ ค่าขนส่งกลับนั้นอาจแพงกว่าราคาสินค้า ทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อธุรกิจส่งออกของเราอีกด้วย
4. “จัดการเอกสารการส่งออกให้ครบถ้วน”
เอกสารการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ยิ่งถ้าเราเป็น SME ที่ส่งออกสินค้าที่เน่าเสียง่ายยิ่งต้องมีความรอบคอบเรื่องเอกสารให้ครบถ้วนที่สุดครับ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและตัวอย่างการทำงานของ SME เพิ่มเติมที่นี่
ขั้นตอนการนำเข้าส่งออกทั้งระบบ "แม่ประนอม" จาก SME ตัวเล็กสู่เวทีระดับโลก
5. “การบริหารจัดการด้านการเงินสำหรับผู้ส่งออก”
สำหรับการบริหารจัดการด้านการเงินนั้นถือเป็นเครื่องมือที่ใช้ “หล่อเลี้ยง” ให้การทำธุรกิจส่งออกต่างแระเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้า เปรียบเหมือนกับรถยนต์ที่ไม่มีน้ำมันเครื่องที่ดีก็จะกินน้ำมัน ต้นทุนสูงและไปไม่ได้ไกล สำหรับการขับเคลื่อนทางการเงินด้วยการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME ผมขอแนะนำบริการสินเชื่อเพื่อการส่งออก (Packing Credit) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบริการที่สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนให้กับผู้ส่งออกในการซื้อวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าและช่วยให้ธุรกิจการค้าดำเนินไปได้อย่างคล่องตัว
สำหรับการบริการธนาคารให้บริการสินเชื่อเพื่อการส่งออกเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นไม่เกิน 180 วันทั้งสกุลเงินบาทและสกุลเงินตราต่างประเทศ โดยสามารถนำสัญญาซื้อขาย, L/C หรือใบจำนำสินค้ามาเป็นหลักฐานเพื่อขอสินเชื่อ ผู้ส่งออกสามารถเบิกเงินล่วงหน้าเพื่อนำไปซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกและเมื่อได้รับชำระค่าสินค้าจากผู้นำเข้าในต่างประเทศแล้ว จึงนำเงินมาชำระคืนให้กับธนาคารในภายหลัง
"ธนาคารให้บริการสินเชื่อเพื่อการส่งออกเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นไม่เกิน 180 วันทั้งสกุลเงินบาทและสกุลเงินตราต่างประเทศ โดยสามารถนำสัญญาซื้อขาย, L/C หรือใบจำนำสินค้า มาเป็นหลักฐานเพื่อขอสินเชื่อ"
ประโยชน์ที่ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกต่างประเทศจะได้รับ ได้แก่ เสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจส่งออกและได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าวงเงินสินเชื่อเบิกเกินบัญชี (OD) ทำให้สามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ สามารถผลิตหรือจำหน่ายสินค้าได้อย่างคล่องตัวด้วยขั้นตอนที่สะดวก รวดเร็วในการพิจารณาวงเงินสินเชื่อของธนาคาร โดยกรณีที่ใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Krungsri Trade Link สามารถตรวจสอบภาระคงค้างและวงเงินคงเหลือสำหรับสินเชื่อ P/C ที่มีอยู่กับธนาคารได้ทางอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Krungsri Trade Link ครับ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมติดตาม
ที่นี่เลยครับ
อย่างไรก็ตามรายละเอียดการทำธุรกิจส่งออกจริง ๆ จะมีขั้นตอนการส่งออก เอกสารการส่งออกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขั้นตอนการจัดทำเอกสารรับรองต่าง ๆ ผู้ที่ทำธุรกิจส่งออกควรศึกษาให้รอบด้านหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดครับ ขอให้ผู้ประกอบการ SME ทุกท่านประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจส่งออกสินค้าไทยไปทั่วโลกเพื่อความภาคภูมิใจของเราชาวไทยด้วยกันนะครับ