เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้เห็นเทรนด์ในโลกทวิตเตอร์ที่เริ่มโดยพี่ลูกกอล์ฟ คณาธิป อย่างเทรนด์ #wearวนไป ที่สนับสนุนให้เราใส่เสื้อผ้าซ้ำได้ โดยไม่ต้องเขิน (ซึ่งก็น่าแปลกใจว่าทำไมเรายังต้องรณรงค์เรื่องธรรมดาแบบนี้อีก?)
เสื้อผ้ามันก็ควรจะใส่ซ้ำได้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ? และตัวจูนเองก็เป็นหนึ่งคนที่ใส่เสื้อผ้าซ้ำมาโดยตลอด แม้จะเป็นชุดใส่ออกงานที่จะต้องเจอคนเยอะ ๆ หรือแต่งตัวเพื่อไปถ่ายงานที่จะต้องยืนอยู่หน้ากล้องก็ตาม เพราะเสื้อผ้าเหล่านี้ เมื่อถูกนำมาใส่ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป หรือแมทช์กับไอเทมที่ต่างวาระโอกาสกัน ก็ออกมาเป็นลุคใหม่ที่ไม่ซ้ำเดิมได้เหมือนกัน
บทความวันนี้จูนเลยหยิบเอา
5 ไอเทมแฟชั่น ที่เหมาะที่จะลงทุนมีติดไว้ในตู้เสื้อผ้า แล้วเวียนแมทช์วนไปเรื่อย ๆ แบบไม่ต้องช้อปบ่อยให้เปลืองเงิน!
1. THE BASIC WHITE TEE
ถ้าจะให้พูดถึงลิสต์ไอเทมติดตู้ที่ขาดไม่ได้ จะขาดเสื้อยืดสีขาวธรรมดาไปไม่ได้เลย แม้ว่าเสื้อยืดจะเป็นเบสิกไอเทมที่อาจจะดูน่าเบื่อ แต่จริง ๆ แล้วกลับเป็นไอเทมที่จูนว่าควรลงทุนมากที่สุด! เสื้อยืดที่ว่าก็ต้องไม่ใช่เสื้อยืดที่ใช้ผ้ายืดแบบบางจนใส่ซ้ำแค่ไม่กี่ครั้งก็ย้วย แต่ควรจะเป็นเสื้อยืดคุณภาพดีที่ทน และใส่สบาย เหมาะกับกิจกรรมของผู้สวมใส่ ชนิดของผ้าสำหรับเสื้อยืดที่เป็นที่นิยมคือผ้าคอตตอน 100% เพราะนอกจากจะทนแล้ว ยังโปร่งสบายเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราด้วย
Tips: แม้จะเสื้อยืดสีขาวเหมือนกัน แต่ทรงต่างกัน! ลองเปลี่ยนจากเสื้อยืดสีขาวทรง Unisex มาเป็นเสื้อยืดที่พอดีตัวมากขึ้น และความยาวพอดีสะโพกด้านบน (ไม่ยาวจนคลุมสะโพก) หรือเสื้อยืดที่มีคอแบบ Crew Neck ก็จะสามารถนำมาแมทช์กับเสื้อผ้าที่หลากหลาย และดูสนุกมากขึ้น
2. THE BASIC JEANS
อีกหนึ่งไอเทมที่ทุกคนน่าจะมีติดตู้อยู่แล้ว แต่ถ้าใครยังไม่มี เรา
สนับสนุนให้ลงทุนซื้อกางเกงยีนส์คุณภาพดีเอาไว้เลย เพราะนอกจากจะใส่ได้หลายโอกาสแล้ว ยีนส์ดี ๆ ก็ทนมากเสียจนไม่ต้องกลัวใส่ไม่คุ้ม จากผลการศึกษาของเว็บไซต์ Fashion United เมื่อปี 2016 ระบุว่าผู้หญิงเรามีกางเกงยีนส์ในตู้เสื้อผ้ากันเฉลี่ยแล้วคนละ 7 ตัว ในขณะที่ผู้ชายมีประมาณ 6 ตัว แต่ถ้าใครมีไม่ถึงก็ไม่เป็นไร แค่ขอให้มียีนส์ทรงดี ๆ ที่เข้ากับตัวเองก็พอ!
Tips: แม้เราจะเคยได้ยินกางเกงยีนส์หลายสไตล์อย่างทรง Mom Jeans, Boyfriend Jeans หรือ Bootcut Jeans ก็ตาม แต่เราแนะนำว่า “อย่าส่องผ่านรูปอย่างเดียว” เพราะทรงของกางเกงยีนส์เมื่อเราใส่ออกมาอาจจะต่างกับในภาพโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นไปลองสวมใส่ของจริงที่ร้าน เลือกสีที่ใส่ได้บ่อยอย่างสียีนส์ธรรมชาติ หรือสีขาว แล้วค่อยตัดสินใจซื้อนะ!
3. THE PERFECT ‘BUTTON-UP’ SHIRT
สำหรับใครที่ไม่ค่อยได้แต่งตัวทางการเท่าไรนัก การมีเสื้อเชิ้ตแขนยาวทรงดี ๆ สักตัวก็ช่วยให้เราหยิบไปใส่ออกงานได้ ถ้าคุณกำลังมองหาเสื้อเชิ้ตคุณภาพดี เราแนะนำเสื้อเชิ้ตโทนสีเบสิกอย่างสีขาว หรือสีฟ้าอ่อน แต่เน้นย้ำเลยว่าอย่าเลือกเสื้อเชิ้ตที่แน่น และพอดีตัวจนเกินไป เพราะนอกจากจะใส่แล้วไม่สบายตัว ยังจะแมทช์กับไอเทมอื่นยากด้วย ลองมองหาเสื้อเชิ้ตที่ใส่ใหญ่กว่าตัวขึ้นมาสัก 1 ไซซ์ แต่ไม่ต้องถึงขั้น Oversized จนเกินไป ถ้าอยากได้ความเป็นทางการมากขึ้น ลองหาเสื้อเชิ้ตแบบ ‘Button-Down’ หรือเสื้อเชิ้ตที่มีกระดุมบนปกเสื้อด้วยก็ได้
Tips: การพับแขนเสื้อก็เป็นอีกหนึ่งดีเทลที่สำคัญเวลาเราสวมใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว ลองเทคนิคการพับแขนเสื้อที่เรียกว่า “The J. Crew Roll” ดู นั่นคือการปลดกระดุมบริเวณแขนเสื้อเชิ้ตออกให้หมด พับแขนเสื้อเพียง 1 ชั้นให้ยาวขึ้นมาจนถึงบริเวณข้อพับ จากนั้นพับปลายแขนเสื้อขึ้นมาอีกชั้นโดยยังเหลือขอบแขนเสื้อให้เห็นอยู่เล็กน้อย วิธีนี้การพับแขนเสื้อของเราก็จะดูเก๋ขึ้นทันที!
4. THE LBD
คงไม่มีใครไม่รู้จักคำว่า LBD กันแล้ว เพราะ LBD หรือ Little Black Dress (เดรสสีดำ) ที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ช่วงปี 1920s และโด่งดังขึ้นมากหลังนักแสดงสาว Audrey Hepburn สวมใส่ชุด LBD สุดไอคอนิกในภาพยนตร์ Breakfast at Tiffany’s เพราะเดรสสีดำตามแบบฉบับ LBD นั้นหมายถึงเดรสที่สวมใส่ง่าย ใส่ได้หลากหลายโอกาส จะใส่กับเครื่องประดับเสริมอย่างไรก็ได้ให้เหมาะกับสไตล์ของผู้สวมใส่ แม้เมื่อก่อน LBD มักจะเป็นเดรสสั้น มีความยาวประมาณเข่า แต่ภายหลัง LBD ก็เหมารวมถึงเดรสสีดำพอดีตัวหลากหลายดีไซน์ แต่ยังคงความคลาสสิกที่ผู้หญิงทุกคนต้องมีไว้ที่บ้าน
Tips: LBD ตัวเดียวกันก็สามารถใส่ได้หลายโอกาสนะ! ลองมองหาเดรสสีดำตัวยาวเรียบ ๆ ที่คัตติ้งดี ๆ สักตัว สวมคู่กับรองเท้าส้นสูงสีดำเรียบ ๆ ต่างหู และสร้อยมุก หรือเปลี่ยนสไตล์ด้วยการใส่กับรองเท้าส้นเตี้ยเรียบ ๆ พร้อมกระเป๋าคลัชสักใบ ก็จะได้ลุคที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง บอกเลยว่าใส่คุ้มประหยัดเงินแน่นอน!
5. A TAILORED BLAZER
คำว่า ‘Blazer’ หรือเบลเซอร์ ถูกคิดค้นขึ้นมาครั้งแรกในปี 1825 เพื่อใช้เรียกเสื้อคลุมที่มีความแคชชวลขึ้นมามากกว่าเสื้อสูทนิดหน่อย และเราก็มักจะเห็นการใช้เสื้อเบลเซอร์เพื่อเสริมความจริงจัง ความเป็นทางการให้กับลุค จนในปัจจุบันที่เบลเซอร์แทบจะกลายเป็นหนึ่งในไอเทมที่สายแฟต้องมี ใส่แล้วดูแฟชั่นขึ้นมาทันที แต่ขณะเดียวกันมันก็แมทช์ได้หลากหลายวิธีจนเราต้องมีไว้ในลิสต์ ไม่ว่าจะใส่คลุมเสื้อเชิ้ตในวันทำงาน หรือใส่คู่กับเสื้อยืดขาวและกางเกงยีนส์ ก็ทำให้ลุคดูน่าสนใจยิ่งขึ้นได้
Tips: ลองเลือกเบลเซอร์สีพื้นอย่างสีดำ สีเบจ หรือสีเทา ที่มีความ Oversized นิด ๆ ก็จะสามารถแมทช์กับเสื้อผ้าได้หลากหลายลุค หรือพกใส่กระเป๋าเดินทางไปเที่ยวแทนเสื้อกันหนาวก็ได้นะ!
สุดท้ายแล้วเราเชื่อว่า Fast Fashion จะเป็น Slow Fashion ได้ก็ต่อเมื่อเราซื้อไอเทมเหล่านั้นมาแล้วได้ใส่จริง ๆ ! ไม่ว่าจะด้วยการหาวิธีเอาไอเทมเดิมนั้นมาแมทช์ใหม่ หรือจะใส่ลุคเดิมที่เราชอบ เพียงแค่เราหยิบมาใส่ให้ซ้ำ ใส่ให้คุ้ม แค่นี้ก็ประหยัดเงินในกระเป๋า และช่วยสนับสนุนความยั่งยืนได้แล้ว!