ในยุคที่เศรษฐกิจเข้าขั้นวิกฤต ของทุกอย่างเเพงตามเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตรงกันข้ามกับรายได้ที่น้อยลงทุกที การจะมีสินทรัพย์ขนาดใหญ่อย่าง บ้าน รถยนต์ จึงเป็นเรื่องที่ยากกว่าเเต่ก่อนมาก เป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดการขอสินเชื่อจากธนาคาร เพื่อนำเงินมาซื้อทรัพย์สินที่คุณต้องการ
เเต่หลายคนคงรู้สึกหวั่นๆ ว่าการจะขอสินเชื่อกับธนาคารไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องมีเอกสารมากมาย เพื่อให้ธนาคารวิเคราะห์การใช้จ่ายเงินของคุณเพื่อประเมินความสามารถในการชำระเงินคืน เราจึงมาบอกข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมตัวสมัครสินเชื่อ
การสมัครสินเชื่อเเบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
1. สินเชื่อบ้านเเละสินเชื่อคอนโด
ที่อยู่อาศัยคงเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูงเเละผ่อนยาวนานที่สุดอย่างน้อยก็ 20 ปี คุณจึงต้องสำรวจความสามารถในการชำระคืนให้เเก่ธนาคารอย่างถี่ถ้วนเพื่อไม่ให้เกิดความลำบากในอนาคต
ส่วนใหญ่ธนาคารจะให้
สินเชื่อบ้านหรือ
สินเชื่อคอนโดกู้ล้านละ 7,000 อย่างต่ำ ถ้าคุณต้องการซื้อบ้านหรือคอนโดราคา 2 ล้านบาท คุณจะต้องมีเงินเดือน 35,000 บาท เเละสำคัญมากที่สุดคือความสามารถในการชำระของตัวคุณเองในแต่ละเดือน โดยเดือนนึงคุณควรจ่ายค่าผ่อนไม่เกิน 40% ของเงินเดือน เเสดงว่าถ้าคุณมีเงินเดือน 35,000 บาท คุณควรจ่ายค่าผ่อนบ้าน 14,000 บาท ถ้ามากกว่านี้อาจจะทำให้สภาพคล่องในการเงินของคุณลดลง
อย่างไรก็ตามการขอสินเชื่อนั้นมีปัจจัยหลักอื่นๆ อีกมากมายที่ทางธนาคารจะนำมาพิจารณาด้วย ตัวอย่างเช่น นโยบายการปล่อยสินเชื่อ และภาระหนี้สิน เป็นต้น ดังนั้นตัวเลขดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นการประมาณการคร่าวๆ เพื่อให้เห็นเป็นแนวทางเปรียบเทียบระหว่างเงินเดือนและอัตราเงินกู้เพียงเท่านั้น
โดยส่วนใหญ่แล้วหลักการคิดคำนวณภาระทางการเงินง่ายๆ ก็คือ ภาระในการชำระสินเชื่อนั้น
ไม่ควรเกิน 30% ของรายรับต่อเดือน หรือ อาจจะ
ขยับเพิ่มไปได้ถึง 40% สำหรับบางคน ในกรณีที่คุณไม่มีภาระหนี้สินอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเลย แต่ทั้งนี้ภาระหนี้ทั้งหมดที่คุณมีนั้นก็
ไม่ควรเกิน 50% ของรายรับทั้งหมดต่อเดือน ไม่อย่างนั้นจะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เมื่อมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดเพิ่มเข้ามาในอนาคต
ถ้าคุณอยากวิเคราะห์สถานะการเงินของคุณอย่างละเอียดเพื่อให้การธนาคารอนุมัติสินเชื่อ กรุงศรีได้สร้าง
เครื่องในการคำนวณความสามารถในการกู้ เพื่อให้คุณได้ทราบข้อมูลก่อนทำการสมัครได้เป็นอย่างดี
2. สินเชื่อรถยนต์
ปัจจุบันการขอสินเชื่อรถยนต์ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนในอดีตเเล้ว เพราะมีเเหล่งเงินกู้หรือสถาบันการเงินที่ออกโปรโมชั่นส่วนลดมากมายเช่น ลดดอกเบี้ย ดาวน์ 0% ซึ่งการปล่อย
สินเชื่อรถยนต์ไม่ได้ต่างจากการขอสินเชื่อบ้านเลยคือ สถาบันการเงินเลือกลูกค้าที่มีเครดิตดี ไม่มีประวัติชำระหนี้ล่าช้าหรือค้างชำระ
ถ้าใครเข้าข่ายถือว่ามีโอกาสที่จะขอสินเชื่อรถยนต์ผ่านมากขึ้น โดยเฉลี่ยวงเงินสินเชื่อรถยนต์จะอยู่ประมาณ 75-85% ของราคารถ และระยะเวลากู้ก็จะประมาณ 12-72 เดือน โดยสถาบันการเงินจะอนุมัติได้ง่ายขึ้นหากคุณมีรายได้สม่ำเสมออย่างน้อย 3 เท่าของเงินค่างวดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เพราะเเสดงว่าคุณมีความสามารถในการชำระค่างวดรถ
3. สินเชื่อส่วนบุคคล
เป็นสินเชื่อที่จะได้รับเป็นเงินก้อนเพื่อนำไปใช้จ่ายตามที่คุณได้ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะนิยมขอเพื่อนำเงินไปลงทุนในธุรกิจ โดยการขอ
สินเชื่อส่วนบุคคลจะได้อยู่ที่ประมาณ 5 เท่าของเงินเดือน ซึ่งถ้าใครกำลังทำธุรกิจก็สามารถยื่นเเผนธุรกิจให้กับธนาคารเพื่อประกอบการพิจารณาได้ ยิ่งธุรกิจใดมีเเนวโน้มที่ดีก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะได้รับอนุมัติมากขึ้น
คำถามที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการสมัครสินเชื่อ
ในการสมัครสินเชื่อมักจะมีความเชื่อผิดๆ หลายอย่าง บางอย่างคือเรื่องจริง บางอย่างตรงกันข้ามสุดๆ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ คงกังวลเป็นอย่างมากเพราะมีรายได้ที่ไม่เเน่นอน เราเลยจะมาคลายความสงสัยให้คุณได้ข้อมูลที่ถูกต้องจริงๆ
ต้องสมัครบัตรเครดิตของธนาคารก่อนที่จะทำการสมัครสินเชื่อ
ไม่จำเป็นค่ะ จริงๆ เเล้วประเด็นนี้เป็นวิธีการตลาดเพื่อโปรโมทบัตรเครดิตเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลต่อการวิเคราะห์การขอสินเชื่อ เเต่บัตรเครดิตก็ทั้งเอื้อเเละทำลายความน่าเชื่อถือภาวะเงินของคุณ
โดยที่เอื้อคือ ถ้าคุณสามารถชำระสินค้าตามเวลา ไม่มีการค้างชำระใดๆ บัตรเครดิตถือเป็นหลักฐานว่าคุณมีวินัยในการใช้เงินเเละชำระตามเวลาที่กำหนด ส่วนทำลายคือถ้าคุณใช้จ่ายเเบบขาดสติ มียอดค้างบัตรเครดิตรวมถึงจ่ายไม่ตรงตามเวลา ธนาคารจะทราบทันทีว่าคุณไม่มีความสามารถในการชำระเงินคืน ทำให้คุณไม่ผ่านการขอสินเชื่อ
ห้ามมีประวัติเครดิตบูโรเด็ดขาด
เครดิตบูโรเป็นศูนย์รวมประวัติการชำระสินเชื่อเงินกู้และชำระหนี้บัตรเครดิตของคุณจากสถาบันการเงิน เมื่อคุณชำระไม่ตรงเวลาจึงเกิดคำเรียกว่า “ติดเเบล็คลิสต์บูโร” ซึ่งส่งผลต่อการขอสินเชื่ออย่างมากเพราะเเสดงว่าคุณไม่มีความสามารถในการชำระคืน ทำให้ธนาคารเกิดความไม่มั่นใจจึงไม่อนุมัติสินเชื่อให้คุณ
เเต่ในมุมกลับกันถ้าคุณมีประวัติในการชำระเงินที่ดีเครดิตบูโรจะเป็นหลักฐานชั้นดีว่าคุณมีความสามารถชำระเงินคืน ธนาคารจะอนุมัติให้คุณได้ง่ายขึ้น เเละถ้าใครมียอดค้างชำระอยู่ก็ควรชำระก่อนทำเรื่องสมัครสินเชื่ออย่างน้อย 6-12 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่ธนาคารจะตรวจสอบย้อนหลัง
ไม่ได้มีรายได้ประจำ กู้ไม่ผ่าน?
การมีรายได้เข้าทุกเดือนจะช่วยให้ธนาคารอนุมัติได้ง่ายขึ้นเพราะเเสดงว่าคุณมีรายได้สม่ำเสมอเเละเพียงพอในการผ่อนชำระ เเต่ถึงคุณจะไม่มีรายได้ประจำก็ไม่ใช่ว่าคุณจะกู้ไม่ผ่าน เพียงเเค่คุณนำเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 6-12 เดือน หรือเรียกง่ายๆ ว่าการเดินบัญชี ธนาคารก็สามารถวิเคราะห์ได้ว่าคุณเป็นผู้มีความสามารถในการจ่ายชำระเเละอนุมัติการขอสินเชื่อได้ง่ายไม่ต่างจากผู้มีเงินเดือนเลย
เอกสารเมื่อจะยื่นสมัครสินเชื่อ
ในการขอสินเชื่อเเต่ละประเภทเอกสารไม่ได้เเตกต่างกันมากนัก ขึ้นอยู่กับธนาคารที่คุณทำเรื่องขอสินเชื่อว่าต้องการมากน้อยแค่ไหน เราจึงนำข้อมูลเอกสารกลางที่คุณควรเตรียมตัวเเต่เนิ่นๆ ไว้อย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่หลายธนาคารเลือกจะดู Statement ทำให้คุณจัดการวางเเผนการเงินได้ดีขึ้น
โดยเอกสารในการสมัครสินเชื่อเเบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ
เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล
- สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
- สำเนาทะเบียนบ้านเเละทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)
เอกสารแสดงรายได้
กรณีบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ
- สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน (ตัวจริง)
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน / ใบทะเบียนการค้า
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้ / ผู้กู้ร่วม
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
เอกสารทางด้านหลักประกัน
- สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย และหลักฐานการจ่ายชำระเงินดาวน์ (ถ้ามี)
- สำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์
- ในกรณีมีผู้กู้ร่วม จะต้องมีหลักฐานประจำตัว และหลักฐานรายได้ของผู้กู้ร่วม
- ในกรณีที่ขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ต้องเตรียมแผนธุรกิจมายื่นด้วย
คุณคงเข้าใจเเล้วว่าการสมัครสินเชื่อธนาคารให้ผ่านไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงเเค่คุณเตรียมตัวเรื่องเอกสารให้ดีตามที่เราได้เเนะนำไปข้างต้น ซึ่งหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการขอสินเชื่อเเต่ละประเภทไม่ได้เเตกต่างกันมากนัก เพียงเเค่คุณมีเครดิตการเงินที่ดีซึ่งเกิดจากการไม่มีประวัติล่าช้าในการชำระหนี้หรือติดเเบล็คลิสต์บูโรเเละมีการเดินบัญชีที่ดี เท่านี้ก็เพียงพอที่ทำให้ธนาคารเชื่อมั่นเเละอนุมัติให้คุณได้โดยง่าย
ตรวจสอบสุขภาพการเงินของคุณก่อนขอสมัครสินเชื่อได้แล้วที่นี่
บทความโดย
ปริตา ธิติปรีชาพล
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา