ONE-GECOM

ลงทุนในเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก
ONE-GECOM
  • ลงทุนในหุ้นทั่วโลก ที่ออกโดยบริษัทที่ประกอบธุรกิจ หรือมีรายได้ หรือได้รับประโยชน์จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และอาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน ETF ที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นประเภทเดียวกัน โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
  • ระดับความเสี่ยง : 6 เสี่ยงสูง - ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ≥80% ของเงินลงทุนในต่างประเทศ

ทำไมต้อง ONE-GECOM

  1. โอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากธุรกิจ E-Commerce ธุรกิจที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ที่ผู้บริโภคเปลี่ยนมาจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น และมีแนวโน้มว่าธุรกิจ E-Commerce จะมีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นในอนาคต
  2. ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 เป็นปัจจัยเร่งให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเข้าจับจ่ายใช้สอยบนโลกออนไลน์ได้ง่ายขึ้น
  3. กองทุนลงทุนประมาณ 70% ใน Amplify Online Retail ETF ซึ่งมีการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องและได้รับประโยชน์จากธุรกิจออนไลน์ ที่มีผลการดำเนินงานดีอย่างต่อเนื่อง

ONE-GECOM เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจ E-Commerce ทั่วโลก
  • ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง หรือสามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุนได้ และสามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป
ข้อมูลเพิ่มเติมกองทุน
ONE-GECOM

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากเอกสารของกองทุนหลัก ณ มี.ค. 63 แต่ธนาคารมิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยธนาคารขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า • กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ทั้งนี้ กองทุนจะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ

คำเตือน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

  • การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน รวมทั้งไม่ได้อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก จึงมีความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน
  • ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนรวมต่อเมื่อเห็นว่าการลงทุนในแต่ละกองทุนรวมนั้นมีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการลงทุนของผู้ลงทุน และผู้ลงทุนสามารถยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนของกองทุนรวม โดยเฉพาะ นโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุนรวม และคู่มือการลงทุนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศบางส่วน บริษัทจัดการอาจจะใช้หรือไม่ใช่เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศภายใต้ดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และ/หรือ ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และเนื่องจากกองทุนรวมมีการลงทุนในต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ของประเทศที่กองทุนรวมไปลงทุนได้ ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) จึงมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วน หรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
  • กองทุนรวมบางประเภทอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk profile) ของผู้ลงทุนที่ได้ประเมินไว้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ดังนั้น ผู้ลงทุนจะต้องเข้าใจและรับทราบความเสี่ยงของกองทุนรวมดังกล่าวก่อนทำการลงทุนและหากประสงค์จะลงทุนในกองทุนนั้น ผู้ลงทุนจะต้องลงนามรับทราบและยอมรับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk profile) ของผู้ลงทุนเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนทำการลงทุนทุกครั้ง
  • กองทุนรวม SSF/SSFX เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการออม LTF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในหุ้น และ RMF ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับพร้อมเงินเพิ่มตามกฎเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ผู้ลงทุนไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในฐานะผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับบริษัทจัดการเท่านั้น
ผู้ลงทุนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
อ่านทั้งหมด

เปิดบัญชีกองทุนและสมัครบริการวางแผนลงทุนแบบประจำบน KMA ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS, Android และ Huawei

อยู่ที่ไหนก็สามารถลงทุนได้ ให้คุณไม่พลาดทุกโอกาสการลงทุน
Appstore
Googleplay
Huawei
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา