“การเสียภาษี” เป็นหน้าที่ที่ผู้มีรายได้ทุกคนต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งคุณมีรายได้มากขึ้น ภาษีที่ต้องจ่ายก็เยอะขึ้นเป็นเงาตามตัว
การวางแผน “ลดหย่อนภาษี” จึงเป็นเรื่องน่ารู้ แต่หลายคนกลับไม่ค่อยรู้ว่าการลงทุนให้ถูกวิธีก็สามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้นอกเหนือไปจากการซื้อประกัน
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) หรือดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน
บทความนี้
Plan Your Money ขอแนะนำวิธีเลือกซื้อกองทุน SSF และ RMF ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะช่วยให้คุณสามารถลดหย่อนภาษีได้อย่างคุ้มค่า แถมต่อยอดการลงทุนไปพร้อมกันด้วย
ทำความรู้จัก SSF และ RMF กองทุนรวมที่ลดหย่อนภาษีได้
- SSF (Super Savings Fund) หรือกองทุนรวมเพื่อการออม จัดตั้งขึ้นมาทดแทนกองทุน LTF ซึ่งสิ้นสุดสิทธิประโยชน์ทางภาษีไปเมื่อปี พ.ศ. 2561 โดยผู้ลงทุนสามารถนำจำนวนเงินที่ซื้อกองทุน SSF มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป
กองทุน SSF สามารถเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในการลงทุนสูง สามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์และผลตอบแทนที่ดีที่สุดในแต่ละช่วงเวลา จึงมีนโยบายการลงทุนที่เน้นหุ้นในประเทศไทยร่วมกับการขยายโอกาสการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศด้วย ซึ่งแตกต่างจากกองทุน LTF ที่เน้นลงทุนเฉพาะหุ้นในไทย
- RMF (Retirement Mutual Fund) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ สามารถเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภทเช่นกัน แต่นโยบายส่วนใหญ่เน้นการลงทุนที่หลากหลายทั้งตราสารหนี้ ตราสารทุน การลงทุนหุ้นทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับสไตล์การลงทุน รวมทั้งความเสี่ยงในระดับต่างๆ ที่นักลงทุนยอมรับได้
ใครบ้างที่ควรซื้อ SSF/RMF เพื่อลดหย่อนภาษี
กองทุน SSF และ RMF ไม่ใช่การลงทุนที่เหมาะสำหรับทุกคน หากคุณมีฐานภาษีที่ไม่สูง และยังขาดสภาพคล่องทางการเงิน
แต่ถ้าคุณเป็นคนวัยทำงานที่…
- มีเงินได้ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีแต่ไม่อยากจ่ายหรืออยากขอเงินคืนภาษี
- มีฐานภาษีสูง 20% ขึ้นไป
- อยากลดหย่อนภาษีด้วยการลงทุนโดยหวังผลตอบแทนในระยะยาว
- ต้องการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- ยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนได้ในระดับกลางถึงสูง
- ต้องการเตรียมความพร้อมด้านการเงินก่อนเกษียณอายุจากการทำงาน
การซื้อกองทุน SSF หรือ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีอาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณถ้ารู้จักเลือกซื้อให้เหมาะสมกับความต้องการและความจำเป็นของตัวเอง
เลือกลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน SSF หรือ RMF ที่เหมาะกับคุณ
แม้ว่ากองทุนทั้งสองแบบจะมีสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีได้เหมือนกัน แต่ยังมีปัจจัยด้านอื่นๆ ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนี้
- เป้าหมายในการลงทุน
ระหว่าง “กองทุน SSF” กับ “กองทุน RMF” จะเลือกพิจารณากองทุนไหนก่อนดี หากเป้าหมายในการลงทุนของคุณคือ
- เน้นการออมเงินระยะยาวประมาณ 10 ปี ควรเลือกลงทุนใน SSF เพราะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อครบ 10 ปี โดยไม่ต้องรอจนอายุถึง 55 ปีเหมือน RMF
- ถ้าคุณมีเป้าหมายเพื่อเตรียมเงินสำหรับการเกษียณอายุ ควรเลือก RMF เพราะนอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ภาษีแล้ว ยังตอบโจทย์การทยอยเก็บเงินไว้ใช้ตอนเกษียณ เนื่องจากเป็นการลงทุนต่อเนื่องทุกปี เพราะการลงทุนตั้งแต่อายุน้อย ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้เงินงอกเงยในระยะยาว
- ถ้าคุณมีอายุ 50 ปีขึ้นไปการเลือกลงทุนในกองทุน RMF จะใช้ระยะเวลาในการลงทุนที่สั้นกว่า เพียง 5 ปีก็สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ ไม่ต้องถือจนครบกำหนด 10 ปีเหมือน SSF
- ระดับความเสี่ยงในการลงทุนที่รับได้
- ถ้าคุณเป็นนักลงทุนระดับความเสี่ยงต่ำ สามารถเลือกลงทุนได้ทั้งกองทุน SSF หรือ RMF ที่มีนโยบายกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำในสัดส่วนที่สูง เช่น พันธบัตร เงินฝาก เป็นต้น
- ถ้าคุณเป็นนักลงทุนระดับความเสี่ยงสูง สามารถเลือกลงทุนได้ทั้ง SSF หรือ RMF ที่มีนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูงขึ้นได้ เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศหรือทองคำ เป็นต้น
ทั้งนี้ ควรศึกษาข้อมูล เงื่อนไข และผลการดำเนินงานของแต่ละกองทุนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อ รวมทั้งติดตามปรับพอร์ตการลงทุนของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานะทางการเงิน ภาวะเศรษฐกิจและระดับความเสี่ยงในการลงทุนซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงวัย
ตัวอย่างกองทุน SSF และ RMF ที่ช่วยลดหย่อนภาษี
Plan Your Money ภูมิใจเสนอ 3 กองทุน SSF และ RMF ที่น่าสนใจ ดังนี้
- กองทุนเปิดวรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม แบบไม่จ่ายเงินปันผล (ONE-UGG-ASSF)
- กองทุนเปิดกรุงศรีชีวิตดีเริ่ดเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFSUPERRMF)
- กองทุนเปิดเคเคพี สตราทิจิค แอสเซ็ท อโลเคชั่น ชนิดเพื่อการออม (KKP SG-AA-SSF)
สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
แนะนำกองทุนลดหย่อนภาษี (SSF, RMF) ประจำปี 2021 หาลงทุนได้ที่ธนาคารกรุงศรีฯ
สรุป
ภาษีเป็นสิ่งที่ทุกคนหลีกหนีไม่ได้ แต่เลือกหาวิธีลดหย่อนภาษีให้จ่ายน้อยลงหรืออาจไม่ต้องจ่าย แถมได้เงินคืนอีกด้วย เพียงแค่รู้จักวิธีเปลี่ยนภาษีให้เป็นเงินออม พร้อมเพิ่มโอกาสการลงทุนทั้งในและต่างประเทศแบบง่ายๆ ได้ผลตอบแทนในระยะยาวด้วยการเลือกซื้อกองทุน SSF และ RMF ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีหรือการวางแผนลงทุนกองทุน สามารถติดต่อที่ปรึกษาทางด้านการลงทุนผ่านช่องทางฮอตไลน์ได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ 9.00 น. - 17.00 น.
บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา