หากเราเป็นผู้มีรายได้ เราก็ต้องเตรียมวางแผนลดหย่อนภาษีให้ดี เพราะเมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องเสียภาษีเราจะได้จัดการได้อย่างคุ้มค่า
กองทุนรวมลดหย่อนภาษีอย่าง SSF และ RMF นับเป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีตัวสำคัญ เพราะเราจะได้ทั้งลดหย่อนภาษี และต่อยอดเงินลงทุนไปพร้อม ๆ กัน
วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก SSF และ RMF และมาดูกันว่ากองทุนไหนที่แนะนำให้ลงทุนในปีนี้
กองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF (Super Savings Fund)
สำหรับใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2563 โดยลดหย่อนแบบปีต่อปี ซื้อปีไหน ก็ลดหย่อนปีนั้น ในช่วงระยะเวลาระหว่างปี 2563-2567”
กองทุนรวม SSF เป็นกองทุนที่ให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี และส่งเสริมการออมไปในตัว ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30% ของรายได้ และไม่เกิน 200,000 บาท (และเมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท)
กองทุนรวม SSF ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำต่อปี และไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปีก็ได้ แต่มีเงื่อนไข คือ เมื่อลงทุนแล้วจะต้องถือครองให้ครบ 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF (Retirement Mutual Fund)
กองทุนรวม RMF เป็นกองทุนที่ให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเช่นกัน โดยที่เราสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30% ของรายได้ และเมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกินไม่เกิน 500,000 บาท
กองทุน RMF ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ แต่มีการกำหนดความต่อเนื่องในการลงทุนและเงื่อนไขในการถือครอง คือ เมื่อเราเริ่มลงทุนแล้ว ก็จะต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี (เว้นได้ไม่เกิน 1 ปี) ถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก และขายได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
เพื่อให้ผู้อ่านทุกคนเข้าใจได้ง่ายๆ เราจึงทำสรุปเปรียบเทียบทั้งสองกองทุน ตามตารางด้านล่างนี้
*เงินลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ ประกอบด้วย กองทุน SSF, กองทุน RMF, กบข., กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.), เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
ถ้าหากใครที่กำลังสนใจในกองทุนรวมเหล่านี้อยู่ ก่อนจะตัดสินใจเลือกลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี เราขอให้ทุกท่านสำรวจตัวเองก่อนว่ารับความเสี่ยงได้แค่ไหน วัตถุประสงค์ของการลงทุนคืออะไร ลงทุนได้เป็นระยะเวลานานแค่ไหน แล้วค่อยมองหากองทุนที่มีลักษณะเหมือนหรือใกล้เคียงกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของตัวคุณ
เมื่อเตรียมพร้อมแล้ว เราก็มาเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีกันเลย โดย
กองทุนแนะนำของเราในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 มีดังนี้
และหากใครต้องการลงทุนแต่ยังไม่มีบัญชีกองทุนรวมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สามารถเปิดบัญชี และซื้อกองทุนรวม ผ่านแอปพลิเคชัน
KMA krungsri app ได้เลย*
สุดท้ายนี้แม้ว่ากองทุนรวมจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยลดหย่อนภาษีพร้อมโอกาสสร้างความเติบโตให้กับพอร์ตลงทุน แต่ก็อย่าลืมว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีทุกครั้งก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน
- SSF เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการออม และ RMF ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
- KFGBRANSSF, KFGBRANRMF, KFCLIMASSF, KFCLIMARMF, KFCMEGASSF, KFCMEGARMF, KFACHINSSF, KFACHINRMF PRINCIPAL iPROPEN-SSF, PRINCIPAL iPROPRMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนจึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- PRINCIPAL iPROPRMF ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
- PRINCIPAL iPROPRMF และ PRINCIPAL iPROPEN-SSF ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
หมายเหตุ: *การลงทุนในกองทุน SSF RMF ของ บลจ.อื่น ที่มิใช่ บลจ. กรุงศรี ครั้งแรก จะต้องติดต่อสาขาธนาคารกรุงศรีก่อนทำการลงทุน