ส่องวิธี Rebranding ของ STANLEY ฟื้นยอดขาย 10 เท่าภายใน 4 ปี

ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นคลิปรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้จนพังยับเยิน แต่มีสิ่งของในรถอย่างเดียวที่รอดมาได้ คือ “แก้วเก็บอุณหภูมิของ STANLEY” คลิปนี้ถูกแชร์ไปทั่วอินเทอร์เน็ต และทำให้หลายคนอยากซื้อแก้วเก็บอุณหภูมิของ STANLEY มาไว้ครอบครอง ถึงแม้ว่าความแข็งแรงของแก้ว STANLEY จะยืนหนึ่งมานาน แต่ก่อนหน้านี้ทางแบรนด์เองก็เคยประสบปัญหายอดขายซบเซา และเกือบจะยกเลิกการผลิตไปเลย จนเวลาต่อมาทางแบรนด์ได้ค้นพบวิธีฟื้นยอดขายให้กลับมาเป็นที่นิยมในตลาดนั่น คือ “การ Rebranding” ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้น 10 เท่าภายในเวลา 4 ปี โดยในบทความนี้ Krungsri The COACH จะพาทุกคนไปถอดรหัสวิธีการ Rebranding ของ STANLEY ว่าทำอย่างไรถึงประสบความสำเร็จได้ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี! STANLEY ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1913 โดย William Stanley Jr. นักประดิษฐ์ที่ผลิตขวดน้ำเก็บอุณหภูมิ โดยในช่วงแรกเน้นตอบโจทย์กลุ่มผู้ชาย กลุ่มคนเดินป่า และคนทำงานโรงงาน โดยมีสินค้าขายดี อย่างขวดน้ำรุ่น Hammertone สีเขียว ซึ่งแม้จะได้รับความนิยมมานาน แต่ลูกค้ายังเป็นฐานเดิมที่มีอยู่จำกัดและสินค้าใหม่ ๆ ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร แบรนด์จึงได้มีการ Rebranding เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น Rebranding คือ กลยุทธ์ทางการตลาดในการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ขององค์กร เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ในช่วงปี ค.ศ. 2020 คุณ Terence Reilly ได้มาเป็นประธานบริษัทคนใหม่ของ STANLEY ซึ่งในช่วงนั้นทางแบรนด์ได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้ากลุ่มอินฟลูเอนเซอร์หญิง “The Buy Guide” ที่ชื่นชอบขวดน้ำรุ่น STANLEY Adventure Quencher ขนาด 40 ออนซ์ แต่พอได้ข่าวว่า STANLEY จะหยุดผลิตรุ่นนี้ พวกเธอจึงติดต่อขอให้บริษัทกลับมาผลิต รวมถึงซื้อแก้ว Quencher 5,000 กว่าขวด เพื่อมาขายต่อ และสามารถขายได้หมดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทางแบรนด์จึงเห็นโอกาสนี้ และทำการปรับฐานลูกค้าใหม่ ผ่านการ Rebranding โดยเปลี่ยนให้แก้ว Quencher เป็นสินค้าเชิงแฟชั่นไลฟ์สไตล์ โดยปรับรูปแบบสินค้า เพื่อให้เหมาะกับลูกค้าผู้หญิงและคนทั่วไป ตัวอย่างเช่น

• การเพิ่มสีสันของขวดน้ำ ให้มีความสดใสและหลากหลาย โดยมีให้เลือกกว่า 100 เฉดสี ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และการ Mix & Match ให้เข้ากับเสื้อผ้า
• การออกแบบคอลเลกชันรุ่น Limited ให้มีความน่าเก็บสะสม เอาใจกลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชอบในการสะสมแก้วรุ่น Quencher จนมีการไปไล่ตามหากัน ทำให้มูลค่าของแบรนด์สูงขึ้น
• การ Collaboration กับศิลปินดารา และแบรนด์อื่น เช่น Starbucks เอาใจกลุ่มลูกค้าที่ชอบดื่มกาแฟ
• โฆษณาโปรโมตสินค้าบนโซเชียลมีเดีย ด้วยระบบ ‘Affiliate Program’ ทำให้เกิดการมองเห็นสินค้าที่มากขึ้น

  การ Rebranding ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนโลโก้ แต่ยังเป็นการสร้างความแตกต่าง และปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดให้กว้างขึ้น ซึ่งมีข้อดีอื่น ๆ ด้วย เช่น

• เพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต
• ช่วยให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ สร้างความไว้วางใจกับผู้บริโภคได้
• ช่วยให้แบรนด์สามารถปรับตัวได้ทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ

 
จากเรื่องราวของ STANLEY ทำให้เห็นแล้วว่าการ Rebranding ให้ตอบรับกับสังคมสมัยใหม่ แม้จะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ แต่หากทำสำเร็จได้ก็จะได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ซึ่งสำหรับคนที่มีแบรนด์ของตัวเองแล้วต้องการที่จะ Rebranding ก็สามารถนำแนวคิดที่เราถอดความสำเร็จจากแก้ว STANLEY หรือเทคนิคการ Rebranding อื่น ๆ ที่เรานำมาฝากไปลองปรับใช้กันได้เช่นกัน


อ้างอิง

• capitalread.co
• longtunman.com
• positioningmag.com
• ditp.go.th
• talkatalka.com
• adaddictth.com
• longtungirl.com