การเลย์ออฟ (Lay Off) คำสั้น ๆ ที่พนักงานกินเงินเดือนทุกคนไม่อยากได้ยิน เพราะเจ็บบาดลึก คำ ๆ นี้ มีความหมายตรงตัวก็คือ การปลดออกจากงาน โดยบางครั้งอาจหมายถึงการสั่งพักงานชั่วคราว ไปจนถึงการที่ผู้ว่าจ้างให้ลูกจ้างออกจากงาน เพราะทำผิดทางวินัย ทั้งนี้การเลย์ออฟอาจเป็นนโยบายในช่วงเวลาหนึ่งของบริษัท ที่อาจมาจากการประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง ผลจากเศรษฐกิจ หรือการปรับลดขนาดธุรกิจ ผู้บริหารและฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็ต้องเริ่มมองหาคนที่เข้าข่ายควรถูกเลย์ออฟ เพื่อลดต้นทุน ซึ่งฝ่ายทรัพยากรบุคคลมักจะคัดเลือกคนที่ควรให้ออกจากงานจากลักษณะเหล่านี้
1
พนักงานที่ได้ผลประเมินต่ำกว่าเกณฑ์ คนที่ทำงานเช้าชามเย็นชาม สแกนนิ้วเข้างาน แต่ไม่มีผลงาน แถมยังเข้างานสายกลับก่อน ไม่ช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม หรือสร้างปัญหางานบ่อย ๆ คนแบบนี้แหละค่ะ ที่ HR เขาจะไม่เอาไว้กินเงินเดือนเล่น ๆ
2
อายุมาก กินเงินเดือนเยอะแต่ผลงานน้อย พนักงานอาวุโสบางคนมีตำแหน่งที่ค่อนข้างสูง หรือไม่ก็มีเงินเดือนเยอะ แต่ภาระหน้าที่ค่อนข้างน้อยกว่าพนักงานรุ่นน้อง แต่ด้วยความที่อยู่มานาน บริษัทก็ให้ความสำคัญ เมื่อกินเงินเดือนเยอะและไม่ค่อยมีผลงานให้เห็น หรือไม่แสดงท่าทีว่าเป็นเฟืองตัวหนึ่งที่สำคัญของบริษัท พนักงานกลุ่มนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่มักจะถูกขอให้ออกจากงานก่อนเกษียณ
3
พนักงานที่ยังไม่ผ่านการทดลองงาน การที่บริษัทเพิ่งรับพนักงานกลุ่มนี้เข้ามาทำงาน อาจจะยังอยู่ในช่วงที่ขาดคนและยังมีศักยภาพในการจ้างงานอยู่ แต่พนักงานทดลองงานเหล่านี้จะมีเวลาทำงาน 3-6 เดือน เพื่อดูการประเมินให้พ้นโปรฯ ซึ่งถ้าบริษัทอยู่ในสภาวะง่อนแง่น การปรับลดจำนวนพนักงานทดลองงานก็เป็นอีกช้อยส์ที่เข้าท่า เพราะยังทำงานได้ไม่เท่าคนเก่าที่อยู่มา ทั้งเมื่อผ่านโปรฯ แล้วก็มักจะต้องปรับเงินเดือนขึ้น ทำให้เพิ่มต้นทุนมากขึ้นอีก
จากสาเหตุหลัก 3 ข้อที่เล่าไปข้างต้น ถ้าคุณยังไม่เข้าข่ายเหล่านี้ ก็พอจะวางใจได้ แต่ก็ควรระมัดระวังเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อไม่ให้ติดลิสต์โดนเลย์ออฟ ด้วยวิธีเหล่านี้
1. ตั้งสติให้สงบ สยบดราม่า
ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังระส่ำระสาย คนอื่นอาจจะเศร้าซึมขาดสติเผลอโพสต์ดราม่าลองโซเชียล หรือก่อวอดรวมกลุ่มกันเมาส์เรื่องบริษัท แต่คุณก็เลี่ยงที่จะไม่เป็นเช่นนั้นได้ด้วย “สติ” การที่เราเอาตัวเองไปอยู่ในมุมมองเชิงลบยิ่งทำให้เสียขวัญกำลังใจ ขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน ยิ่งคิดว่าตัวเองน่าจะโดนเลย์ออฟก็จะยิ่งทำให้หมดอาลัยตายอยาก สิ่งที่ดีที่สุด คือ การนิ่งดูท่าทีไว้ก่อน เพราะไม่แน่ เจ้าสัญญาณการปรับลดพนักงานอาจจะเป็นแค่ข่าวเมาส์กันก็ได้
2. งดใช้เงินฟุ่มเฟือย
หากเห็นแล้วว่า บริษัทเริ่มเข้าสู่ใจกลางพายุแล้วจริง ๆ ก็ถึงเวลาแห่งการประหยัดอดออม งดใช้เงินฟุ่มเฟือย เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมาแล้วจริง ๆ คุณจะยังพอมีเงินส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิต ไม่กระทบหรือสร้างภาวะความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น แล้วก็ยังพอมีเงินทุนเอาไว้มองหาลู่ทางในการทำมาหากิน หรือมีเงินไว้ใช้มากขึ้น (เมื่อรวมกับเงินชดเชย) ในช่วงเวลาที่ตกงานอยู่
3. ตั้งใจทำงาน พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
การทำงานอย่างตั้งใจทำงาน มาทำงานตรงเวลา นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของพนักงาน รวมทั้งการพัฒนาตนเองอยู่เสมอก็เป็นเรื่องดี ๆ ที่ทำให้คุณสร้างผลงานใหม่ ๆ ได้อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการด้านภาษา โปรแกรม ความสามารถพิเศษ หรือแม้แต่การมีปริญญาเพิ่มอีกสักตัว เพราะนอกจากมันจะเป็นตัวช่วยในการไม่ให้โดนเลย์ออฟแล้ว ถ้าคุณออกจากบริษัทนี้ คุณยังมีวิชาติดตัวไปทำอะไรให้ได้มากกว่าเดิม หรือขอเงินเดือนเพิ่มขึ้นได้อย่างไม่เคอะเขิน
4. ทุ่มเทและสร้างผลงาน
อีกหนึ่งเกณฑ์ในการคัดเลือกพนักงานให้อยู่ต่อ เพราะมันเป็นการแสดงออกถึงความทุ่มเทและรักงาน ดั่งคำคมที่ว่า ค่าของคนวัดกันที่ผลของงาน เมื่อคุณมีผลงานที่ดี ดูมีความรักและความทุ่มเทต่อบริษัท ดูคุ้มค่าจ้างสุด ๆ แล้วเหตุผลอะไรล่ะที่ผู้บริหารจะให้คุณออก
5. มีสภาพร่างกายและจิตใจที่ดี
การมีทัศนคติที่ดี ไม่ว่าจะด้วยเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น เพราะการดูแลสภาวะความรู้สึกนึกคิดให้เป็นปกติได้ คุณย่อมมีแต้มต่อจากคนที่ขาดสติหรือมองโลกในแง่ลบแน่นอน เมื่อสภาพจิตใจดีไม่เครียดแล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกายด้วย เพราะฝ่ายบุคคลคงไม่อยากจะจ้างพนักงานที่ลาป่วยบ่อย ๆ ทำงานไม่ทันแน่นอน
การเลย์ออฟ หรือปลดพนักงานเป็นเรื่องที่เราเห็นบ่อย ๆ ในหน้าข่าวหรือโลกโซเชียล แต่เมื่อถึงเวลาที่ได้เจอกับตัวเอง สิ่งสำคัญก็คือ สติ การวางตัว และการตั้งใจทำงานด้วยใจจริง ทั้งนี้เมื่อโดนเลย์ออฟแล้ว ก็อย่าลืมตรวจสอบเรื่องผลประโยชน์ที่ควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน ว่าต้องมีค่าชดเชยอย่างไร ถ้าตกงานแล้วก็อย่าลืมไปลงทะเบียนคนว่างงานที่สำนักงานประกันสังคม หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังจะโดนเลย์ออฟแน่ ๆ แทนที่จะเครียดหรือเศร้าใจ ก็ลองคิดในมุมกลับกันว่า นี่อาจเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้ไปเรียนต่อ ไปทำธุรกิจส่วนตัว หรือสมัครงานกับบริษัทใหม่ที่เล็งมานานแล้วก็ได้