หากเรามีเงินก้อนอยู่จำนวนหนึ่ง และรู้สึกอยากเก็บเงินแต่ก็ต้องการให้เงินได้งอกเงยจากผลตอบแทนต่าง ๆ เช่นกัน หรือแม้แต่หลาย ๆ คนเองคงเกิดคำถามแน่ ๆ ว่าหากเรานำเงินเหล่านี้ไป
ฝากธนาคารแล้วจะคุ้มไหม? แล้วตัวเลือกไหนที่จะทำให้เราได้รับดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เพราะแน่นอนว่าเราคงไม่ต้องการความเสี่ยงจากเงินที่มีอยู่ ฉะนั้นแล้วอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้การฝากเงินเลยก็คือ “
ประกันสะสมทรัพย์"
เราขอเชิญทุก ๆ ท่านที่กำลังสงสัยในเรื่อง
ฝากเงินธนาคาร VS
ประกันสะสมทรัพย์ อ่านบทความนี้จนจบ เพื่อประกอบการตัดสินใจที่เหมาะกับตัวเรามากยิ่งขึ้น
เริ่มจากเรื่องของ “ฝากเงินธนาคาร” กันก่อนดีกว่า อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าการฝากเงินธนาคารนั้นมีหลัก ๆ อยู่ 2 รูปแบบ คือ
- เงินฝากออมทรัพย์ เป็นการฝากที่ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และมักจะทำพร้อมกับบัตรเอทีเอ็ม โดยสามารถนำเงินออกมาได้ง่าย หรือแม้แต่จะหักเงินเพื่อชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็ได้ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ
- เงินฝากประจำ เป็นการฝากเงินที่ตามกำหนดระยะเวลาทั้งฝากและถอนที่แน่นอน เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าการฝากเงินแบบออมทรัพย์
แน่นอนว่าปัจจัยหลักของการฝากเงินคือความปลอดภัย และ
ดอกเบี้ยเงินฝากที่เราได้รับ ซึ่งในปัจจุบัน
ดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 1% ต่อปี หรือถ้าหากเรานำเงินจำนวน 1,000,000 บาท ไปฝากธนาคาร เมื่อครบปีดอกเบี้ยที่เราได้รับก็จะประมาณราว ๆ 10,000 บาท (ไม่รวมการหักภาษี)
ต่อมาเรามาลองดูกันที่
ประกันสะสมทรัพย์ แน่นอนว่าเราคงเคยได้ยินผ่าน ๆ เรื่องที่
ประกันสะสมทรัพย์จะได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากกันมาบ้างแล้ว และผลตอบแทนของ
ประกันสะสมทรัพย์ก็มาจากการที่เรานำทุนประกันชีวิตตั้งต้นที่เราจะได้รับจากประกันสะสมทรัพย์ หรือทำความเข้าใจง่าย ๆ ว่าเป็นประกันที่ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปีจากเงินต้นของเรานั่นเอง
ซึ่งหน้าที่หลัก ๆ ของประกันสะสมทรัพย์ คือ
- การให้ความคุ้มครองที่จะจ่ายเป็นเงินทุนประกันหากผู้รับกรมธรรม์เสียชีวิต เงินทุนประกันก็จะชดเชยให้ญาติหรือคนในครอบครัวของผู้รับกรมธรรม์
- เมื่อครบสัญญาประกันเงินทุน และผลตอบแทนนั่นเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น หากเรามาลองคำนวณผลตอบแทนที่ได้จริง ๆ อาจไม่ได้มากไปกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ เลย
อย่างไรก็ตามทั้งสองทางเลือกนี้ก็เป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงต่ำทั้งคู่ เพราะฉะนั้นแล้วเรามาดูถึงความแตกต่างระหว่าง
ฝากเงินธนาคาร VS
ประกันสะสมทรัพย์ ด้วยตารางด้านล่างนี้
และนี่ก็เป็นข้อเปรียบเทียบที่เรานำมาให้ทุก ๆ ท่านได้พิจารณาตามความเหมาะสมของตัวเอง อย่างไรก็ตามเราอาจจะต้องลองเช็กสุขภาพทางการเงินของเราก่อนตัดสินใจที่จะเลือกฝากเงินธนาคารหรือเลือกซื้อประกันสะสมทรัพย์
โดยวิธีเช็กสุขภาพการเงินของเราหลัก ๆ แบ่งออกเป็น 3 วิธี
- พิจารณาอัตราส่วนสภาพคล่องของการเงินเรา โดยเราจะต้องพิจารณาจำนวนเงินที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงเงินที่เราหวังจะสามารถใช้สำรองฉุกเฉินได้ อีกทั้งเราอาจจะมองดูจากสินทรัพย์ที่เรามีว่าสามารถแปลงมูลค่าของสินทรัพย์ไปเป็นเงินสดได้หรือไม่ โดยที่มูลค่าเปลี่ยนแปลงไปไม่มากนัก เช่น มีที่ดินทำเลดี ๆ หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถขายได้ทันทีโดยที่ราคาไม่ตก
- พิจารณาส่วนภาระหนี้สิน หากเรามีหนี้สินค่อนข้างสูง หรือหากในเดือนหนึ่งเราจำเป็นจะต้องเสียเงินกับหนี้สินมากกว่า 50% ของรายได้ เราอาจจะต้องพิจารณาเลือกการฝากเงินแทน เพราะสภาพคล่องดีกว่าแน่นอน หากเกิดเหตุฉุกเฉินจากภาระหนี้สินเราจะได้มีเงินที่สามารถแก้ไขปัญหาตรงนี้ไปได้
- พิจารณาส่วนของการลงทุน หากเราเป็นนักธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนหมุนเวียนอยู่แล้ว เราอาจจะต้องเลือกการฝากเงินเพื่อที่จะให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน และหากมีเงินเหลืออาจจะซื้อประกันสะสมทรัพย์ไว้เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้เราในอนาคต และถ้าหากเรามีเงินจำนวนมากจากการลงทุนซึ่งส่งผลให้การเงินของเราเกิดสภาพคล่อง เราก็สามารถตัดสินใจเลือกได้ทั้งฝากเงินธนาคาร และเลือกซื้อประกันสะสมทรัพย์ไว้อีกได้เช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อนำข้อมูลต่าง ๆ ข้างต้นมารวบรวม พร้อมทั้งเราเช็กสุขภาพการเงินของเราไปด้วย เราก็จะสามารถเลือกช้อยส์ที่ใช่เลือกการเก็บเงินที่ชอบได้ โดยไม่เกิดความลังเลอีกต่อไปนั่นเอง…