คุณเคยตกอยู่ในสถานการณ์เหล่านี้ไหมครับ? เงินไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือน หรือทำงานมาหลายปีแต่ไม่มีเงินเก็บสักที ลองจินตนาการดูนะครับถ้าวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา รายได้หลักจากการทำงานในแต่ละเดือนที่เราเรียกว่า Active Income จะเพียงพอกับความเสี่ยงต่าง ๆ หรือเปล่า ถ้าอยากมีอิสรภาพทางการเงินมากขึ้น ลองมองหารายได้เพิ่มเติมจากการสร้าง Passive Income สินทรัพย์ที่เราสร้างหรือสะสมมาเรื่อย ๆ จนสามารถสร้างรายได้ให้กับเราโดยที่ไม่ต้องลงแรง ผลิดอกออกผลเป็นเงินได้ในอนาคต แล้ววันนี้เราควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อสร้าง Passive Income ให้เงินทำงานแทนเรา มาดูพร้อม ๆ กันเลยครับ
ซื้อหุ้นหรือกองทุนก่อนเลย
การลงทุนใน
หุ้นหรือกองทุนเป็นหนทางสร้าง Passive Income ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ เพราะเริ่มลงทุนได้ไม่ยาก มีสภาพคล่องสูง ได้รับผลตอบแทนในระยะยาว ส่วนจะได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับประเภทของการลงทุน สำหรับใครที่กำลังเริ่มลงทุน แต่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้น
กองทุนรวมก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เช่น กองทุนรวมหุ้น กองทุนตราสารหนี้ ฯลฯ การลงทุนแบบนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยบริหารดูแลพอร์ตให้ ช่วยแนะนำว่ากองทุนประเภทไหนเหมาะสมกับเรา โดยพิจารณาจากความเสี่ยงที่เรารับได้ กองทุนความเสี่ยงสูงก็มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง ควรเลือกประเภทกองทุนตามเป้าหมายการลงทุน ว่าเราต้องการใช้เงินก้อนนี้ในระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว ผลตอบแทนที่จะได้ก็มีทั้งรูปแบบกำไรที่ได้จากการขายกองทุน และเงินปันผลที่ได้รับระหว่างถือกองทุน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกองทุน หากใครกำลังเริ่มต้นสร้าง Passive Income เริ่มต้นด้วยการซื้อหุ้นกับกองทุนก็ถือว่าตอบโจทย์นะครับ
ธุรกิจให้เช่า...รับเงินโดยไม่เปลืองแรง
ธุรกิจให้เช่ายังเป็นสิ่งที่น่าลงทุนเพราะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ในระยะยาวเจ้าของไม่ต้องเหนื่อยหรือลงแรงอะไรมาก แค่รอรับเงินจากค่าเช่ารายเดือนหรือรายวัน เช่น การลงทุนให้เช่าอสังหาริมทรัพย์อย่าง
คอนโดซึ่งก็ต้องพิจารณาถึงทำเลที่ตั้ง กำหนดเป้าหมายของกลุ่มลูกค้า และเปรียบเทียบราคาของผู้ให้เช่ารายอื่น เพื่อตั้งราคาคอนโดให้เช่าอย่างเหมาะสม รวมถึงการคัดกรองคุณสมบัติผู้ที่จะมาเช่า นอกจากอสังหาริมทรัพย์แล้วเดี๋ยวนี้ยังมีบริการให้เช่าสิ่งของต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น ให้เช่ากล้องถ่ายรูป หรือให้เช่าเครื่องดนตรี บางคนให้เช่าของโบราณที่หาไม่ได้แล้วในยุคนี้ ถ้าคุณคิดว่ามีของที่เป็น Limited Edition ก็สามารถสร้างรายได้จากสิ่งนั้นได้นะครับ โดยการคิดค่าเช่าก็ต้องคำนึงถึงมูลค่าและค่าเสียหายของอุปกรณ์ เพื่อคำนวณราคาค่าเช่าให้คุ้มค่าที่สุด
สร้างรายได้จากความชอบและความสามารถพิเศษ
วิธีต่อมาคือการสร้างรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ที่มาจากผลงานของเราเอง ลองสำรวจตัวเองว่าความชอบของเราคืออะไร และสิ่งนั้นต้องเป็นงานที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่องด้วย บางคนถนัดงานเขียนหนังสือ ก็อาจจะเผยแพร่ผลงานบนเว็บไซต์ หรือส่งผลงานประกวด จากนั้นก็ลองส่งงานเขียนไปยังสำนักพิมพ์ ส่วนใครถนัดด้านศิลปะอย่างการถ่ายภาพ ก็ลองมองหาอาชีพช่างภาพ Stock Photo ที่มีโอกาสทำเงินแบบต่อเนื่อง รายได้มีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว เพียงแค่อัปโหลดภาพถ่ายฝีมือตัวเองลงบนเว็บไซต์ขายภาพออนไลน์ หากภาพถ่ายผ่านตามข้อกำหนดของเว็บไซต์แล้ว ทุกครั้งที่มีคนซื้อภาพ เราจะได้ค่าตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่นที่ทางเว็บไซต์จ่ายให้ สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือยังไม่มั่นใจว่างานอดิเรกของเราจะสร้างรายได้ได้หรือเปล่า แนะนำให้ลองเข้าร่วมเวิร์กชอปกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ ออกไปพบปะผู้คน เจอสังคมใหม่ ๆ ก็จะช่วยให้เราค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบและถนัดได้ครับ
การสร้าง Digital Platform
สำหรับคนที่มีความสามารถด้านไอทีและสนใจเรื่องของเทคโนโลยีอยู่แล้ว ลองมองหา Passive Income จากการทำเว็บไซต์ เกม หรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ลงมือทำเพียงครั้งเดียวก็สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งมียอดดาวน์โหลดหรือจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์มากเท่าไร ก็ยิ่งมีรายได้มากเท่านั้น อย่างการทำแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ที่มีช่องทางการขายใน Google Play Store และ App Store แค่ 2 ช่องทางนี้ก็มีจำนวนผู้ใช้งานหลายล้านคนในประเทศไทย ลองสำรวจว่าแอปพลิเคชั่นแบบไหนกำลังได้รับความนิยม แล้วเอามาปรับใช้เป็นแนวทางสร้างสรรค์ในแบบของเรา ถ้าคิดจะมาทางนี้จริง ๆ ก็ต้องหมั่นหาความรู้เพิ่มเติม เข้าคอร์สฝึกอบรมเฉพาะทาง เพราะแนวโน้มคนใช้สมาร์ทโฟนก็มีเพิ่มขึ้นตลอด สามารถกอบโกยรายได้กันไปยาว ๆ เลยนะครับ
ลงทุนกับสตาร์ทอัพและธุรกิจแฟรนไชส์
วงการ
สตาร์ทอัพไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลของ Techsauce Startup Report พบว่าตั้งแต่ปี 2561 มีสตาร์ทอัพไทย 35 รายที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากต่างประเทศรวมกันถึง 61.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในไม่ช้าเราคงได้เห็นสตาร์ทอัพไทยไปไกลถึงระดับยูนิคอร์น ไม่เพียงแต่สตาร์ทอัพจะเนื้อหอมในหมู่นักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น นักลงทุนรายย่อยก็สนใจร่วมลงทุนในธุรกิจประเภทนี้ได้ด้วย เราเรียกกลุ่มนักลงทุนนี้ว่า Angel Investor ที่เปรียบเสมือนเป็นนางฟ้ามาช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจสตาร์ทอัพดำเนินต่อไปได้ โดยในระยะแรกของการทำธุรกิจจะหาเงินทุนจากองค์กรขนาดใหญ่ได้ยาก เพราะยังไม่มีชื่อเสียงและผลงานมากพอ นี่จึงเป็นโอกาสทองของนักลงทุนรายย่อยที่สามารถประสบความสำเร็จไปพร้อม ๆ กับสตาร์ทอัพได้ ส่วนจะเลือกลงทุนกับสตาร์ทอัพรายไหนก็ให้พิจารณาถึงวิสัยทัศน์ของทีมผู้ก่อตั้ง คุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการว่ามีประสิทธิภาพมากแค่ไหน
นอกจากสตาร์ทอัพแล้ว การเลือกลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ในปี 2563 นี้ ธุรกิจที่ขาขึ้นสุด ๆ ยังคงอยู่ในประเภทงานบริการ อาหาร และสุขภาพความงาม ตัวอย่างแฟรนไชส์ที่น่าจับตามองในตอนนี้ เช่น Otteri (อ๊อตเทริ) เป็นธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญเปิด 24 ชั่วโมง มี Wi-fi ให้บริการ ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบายในชีวิต ลูกค้าสามารถบริการตัวเองในทุกขั้นตอนของการซักผ้าผ่านระบบหยอดเหรียญ หากลงทุนในธุรกิจนี้คุณอาจจะใช้เวลาแค่ 1-2 วัน ต่อสัปดาห์ เพื่อเข้ามาดูแลร้าน ที่สำคัญยังไม่ต้องลงทุนจ้างพนักงานมากมาย เพราะบริษัทแม่จะมาตรวจเช็กเครื่องให้ทุก ๆ 2 เดือนอยู่แล้ว
หนทางการสร้างรายได้จาก Passive Income ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป ควรพิจารณาจากความสนใจและความสามารถในการลงทุนเป็นหลักว่าวิธีไหนที่เหมาะกับคุณ รวมทั้งปัจจัยต่าง ๆ ในชีวิต เงินทุนตั้งต้นและเป้าหมายในอนาคต แค่นี้ก็มี Passive Income ได้เงินแบบไม่ต้องลงแรงมาก เรียกว่าลงทุนครั้งเดียวได้ผลกำไรแบบคุ้มค่าจริง ๆ