ใคร ๆ ก็อยากมีเงินเก็บจำนวนมาก อยากสร้างนิสัยรักการออมให้ติดตัวไปตลอดชีวิต แต่หลาย ๆ ครั้งที่เราตั้งใจจะออมเงิน แต่พอออมเงินไปได้สักพักก็เริ่มรู้สึกท้อ คิดวนเวียนอยู่แต่ว่าเมื่อไหร่จะถึงตามที่ตั้งไว้เสียทีนะ ดูมันช่างห่างไกลและเป็นความฝันที่เลือนรางมาก ๆ ในขณะที่บางคนแอบเปิดดูเงินออมที่เก็บไว้ก็ตกใจว่า เราเก็บได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย แต่สุดท้ายก็แอบถอนออกมาใช้ กลายเป็นคนที่ออมเงินในระยะยาวไม่ได้ จนทำให้เราต้องกลับมาคิดว่า แนวคิดการออมเงินแบบไหนที่เหมาะสมกับเรา และช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการออมเงิน
ก่อนอื่นเราต้องกลับมาถามตัวเองว่า "เราตั้งโจทย์ชีวิตว่าอย่างไร" เพราะคำถามที่ถูกต้องจะนำมาสู่คำตอบที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน โจทย์ชีวิตที่เราตั้งมานั้น ทำให้ชีวิตดีขึ้นหรือทำให้แย่ลง ลองดูคำถามที่ตั้งขึ้นมาเกี่ยวกับการออม 2 ตัวอย่างนี้ แล้วคิดไปด้วยกันนะคะ
- ทำไมเราถึงออมเงินไม่ได้?
- ทำอย่างไรเราถึงจะออมเงินได้?
ลองหาคำตอบจากคำถามที่ว่า “ทำไมเราถึงออมเงินไม่ได้” เราจะมองเห็นสารพัดปัญหาที่เป็นอุปสรรคของการออมเงิน รวมไปถึง “ข้ออ้าง” ต่าง ๆ ที่ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เช่น
- เป็นเด็กก็เรียนหนังสืออย่างเดียว ไม่มีรายได้ พ่อแม่ให้ค่าขนมไปโรงเรียนทุกวันจะออมเงินไปทำไม เดี๋ยววันพรุ่งนี้ก็ได้เงินค่าขนมอีก
- เพิ่งเริ่มทำงาน รายได้ยังไม่มาก ข้าวของก็แพง แค่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวรายเดือนก็แทบจะหมดกระเป๋า แล้วจะมีเงินที่ไหนมาออมกันล่ะ
- ภาระหนี้สินพะรุงพะรัง ทั้งบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หนี้นอกระบบ แล้วยังเจอเจ้าหนี้โทรมาทวงทุกวันแบบนี้ จะมีที่ไหนมาเหลือออม
- เป็นหัวหน้าครอบครัวหาเงินเข้าบ้านฝ่ายเดียว ยิ่งตอนนี้ลูกกำลังเรียนอยู่ด้วยก็ยิ่งต้องใช้เงิน หมุนเงินแทบไม่ทันแบบนี้จะมีเงินส่วนไหนมาออม
คิดกลับกันนะคะ ถ้าเราเปลี่ยนการตั้งโจทย์ เพื่อให้ชีวิตดีขึ้นด้วย “ทำอย่างไรเราถึงจะออมเงินได้” เพื่อสร้างนิสัยรักการออม แนวทางของคำตอบจะเปลี่ยนไป จะทำให้เรามองเห็นแต่ “ทางออก” และมีแนวคิดการออมเงินรูปแบบใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับเรา ที่จะทำให้เรามีเงินออมมากขึ้น เพราะโจทย์เปลี่ยน คำตอบของชีวิตเราก็จะเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งจะได้รับคำตอบ เช่น
- เป็นเด็กก็ต้องฝึกวินัยและสร้างนิสัยรักการออม เมื่อหาเงินใช้เองไม่ได้ก็จะต้องช่วยพ่อแม่ประหยัดรายจ่าย
- เพิ่งเริ่มทำงานก็ออมเงินได้ แม้อาจเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากเท่าไร แต่ถ้าหากเราจัดการเงินก้อนเล็ก ๆ ได้ เมื่อเรามีรายได้มากขึ้นเราก็จัดการได้เช่นกัน
- ยิ่งหนี้สินเยอะก็ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เริ่มจากการมีสติแล้วจัดการกับพฤติกรรมรายจ่ายของตนเอง ลดหนี้ที่ไม่สร้างรายได้ และไม่ควรสร้างหนี้เพิ่มแบบหมุนวนหนี้สิน วิธีหนึ่งที่หลายคนใช้เพื่อปิดยอดหนี้ คือ ออมเงินก้อนแล้วต่อรองกับเจ้าหนี้เพื่อปิดหนี้ทีเดียว
- เสาหลักของครอบครัวก็ยิ่งต้องสร้างนิสัยรักการออม เพราะถ้าล้มป่วยหรือเป็นอะไรไปคนอื่น ๆ ในครอบครัวก็จะเดือดร้อน
เมื่อคำตอบเราเปลี่ยนไปในแนวทางที่ทำให้รู้ว่าการออมเงินนั้นสำคัญกับชีวิตเป็นอย่างมาก ต่อไปก็เป็นเรื่องของกำลังใจที่จะต้องสร้างแรงบันดาลใจเพื่อสร้างนิสัยรักการออมให้ตัวเอง เพื่อที่เราจะได้ออมเงินสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
4 วิธีสร้างแรงบันดาลใจในการออมเงิน
1. หาเพื่อนออมเงิน
การทำอะไรคนเดียวบางครั้งอาจจะไม่มีแรงกระตุ้น แต่พอมีเพื่อนที่อยากออมเหมือนกันมาเป็นแนวร่วม เราจะเริ่มรู้สึกมีแรงกระตุ้นอยากจะทำมากขึ้น เพราะเพื่อนชอปปิง เพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน เรามีเยอะแล้ว น่าจะหา “เพื่อนออมเงิน” เพิ่มอีกสักคนช่วยกันสร้างนิสัยรักการออม ซึ่งอาจจะช่วยเตือนกัน ว่าวันนี้ออมเงินแล้วหรือยัง พร้อมทั้งมีไอเดียออมเงินหรือแนวคิดการออมเงินแบบแปลก ๆ มาแชร์กันให้มีเงินออมมากขึ้นอีกด้วย คบเพื่อนดี ชีวิตก็จะดี๊ดีนะจ๊ะ
ขอแชร์เหตุการณ์หนึ่งที่แฟนเพจมาเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่เราพูดเรื่องออมเงินจากแบงก์ 50 แล้ว เขาก็ชวนพ่อตัวเองออมเงิน มีวันหนึ่งพ่อซื้อกาแฟแล้วกำลังจะจ่ายเงิน ก็ควักแบงก์ออกมาซึ่งในนั้นมีแบงก์ 50 ปนอยู่ 3 ใบ แล้วคุณพ่อก็จ่ายด้วยแบงก์ 100 พนักงานรับเงินบอกว่าทำไมไม่ใช้แบงก์ 50 จ่ายล่ะครับ เห็นมีอยู่หลายใบ คุณพ่อตอบว่า “ไม่ได้หรอกต้องเก็บไว้ แข่งเก็บเงินกับลูกสาวอยู่” เหตุการณ์นี้เรามองว่าน่ารักดีนะเพราะเป็นการสร้างสังคมการออมเงินที่ง่าย โดยเริ่มต้นจากจุดง่าย ๆ ที่ครอบครัวเรานั่นเอง
2. อ่านบทความหรือกระทู้เกี่ยวกับการเงินเพื่อกระตุ้นต่อมอยากออม
หลายบทความหรือกระทู้ของคนธรรมดาก็สามารถเปลี่ยนสังคมได้ เราเคยอ่านกระทู้ของคนที่จำเป็นต้องใช้เงิน 800 บาทให้อยู่รอดได้ภายใน 1 เดือน จนกระทั่งถูกนำมาทำเป็นเรื่องสั้นเผยแพร่ออนไลน์ นับเป็นกระทู้ยอดฮิตที่ให้กำลังใจคนท้อแท้สิ้นหวังกับภาวะการเงินของตนเองมากมาย หลายความคิดเห็นในกระทู้ทำให้รู้สึกมีกำลังใจในการใช้ชีวิตของตนเองมากขึ้น บางคนหันมาเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น หากเราขาดแรงบันดาลใจในการสร้างนิสัยรักการออมเงินให้ลองหาบทความหรือกระทู้อ่านเพื่อสร้างกำลังใจก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี
3. แปะภาพความฝันไว้ที่ผนังบ้าน
แนวคิดการออมเงินอีกวิธีหนึ่ง คือ ให้เรานำภาพความฝันที่ดูเลือนรางมาทำให้เป็นของจริงที่จับต้องได้มากขึ้น โดยปรินท์ภาพความฝันออกมาแปะไว้ที่ผนังบ้านเพื่อจะเตือนตัวเองทุกครั้งที่เดินผ่านภาพความฝันนี้ว่า ทุกวันนี้เราออมเงินไปเพื่ออะไร หากทำสำเร็จไปได้บางส่วนก็อาจจะเขียนลงไปในภาพว่าสำเร็จไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อดูความก้าวหน้าของเงินออม เช่น เราจะเก็บเงินไปดาวน์บ้านในฝัน ก็อาจจะปรินท์ภาพบ้านในฝันพร้อมกับจำนวนเงินดาวน์ เมื่อเก็บเงินดาวน์ได้มากขึ้น ก็มาขีดฆ่าตัวเลขเดิมให้เป็นจำนวนเงินที่ลดลง
4. หยอดกระปุกออมสิน
วิธีธรรมดาที่หลายคนมองข้าม แต่ก็เป็นวิธีที่สร้างแรงบันดาลใจและสร้างนิสัยรักการออมให้เราได้อย่างเหลือเชื่อ เราลองนำกระปุกออมสินมาตั้งไว้ในที่ที่เราเดินผ่านทุกวัน แล้วหยอดเหรียญหรือแบงก์ลงไปทุกวันแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เวลาผ่านไปสัก 1 ปีลองเปิดออกมานั่งนับดูว่าได้เท่าไหร่ เราอาจจะตกใจกับตัวเองว่า “นี่เราก็ออมเงินได้เหมือนกันนะ” เริ่มจากจุดเล็ก ๆ ที่เป็นการสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจกับตนเอง หลังจากนี้เราจะรู้ว่าการออมเงินนั้นง่ายมากแล้วต่อไปเราก็อยากจะออมเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นแนวคิดการออมเงินที่ได้ผลมานักต่อนักแล้ว
การออมเงินนั้น ไม่ได้ใช้แค่เงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องอาศัยจิตใจที่มุ่งมั่นอีกด้วย การหาวิธีสร้างแรงบันดาลใจและแนวคิดการออมเงินที่จะทำให้เราออมเงินไปตลอดรอดฝั่งนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนั่นหมายถึงความสำเร็จที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ ซึ่ง 4 วิธีสร้างแรงบันดาลใจออมเงินนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ผู้อ่านควรนำไปปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเองเพื่อสร้างนิสัยรักการออมกันนะคะ