ทำงานหนัก เหนื่อยล้าทั้งปีกันมาตั้งแต่ต้นปี ตอนนี้ถึงเวลาออกเที่ยวตามหาพลังใจกันแล้ว เพราะการ
ท่องเที่ยวก็เป็นอีกสิ่งที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องการ และยิ่งถ้าหากได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยแล้ว ก็เหมือนได้พาตัวเองออกไปเจอสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น
มนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจมีความกังวล หรือข้อสงสัยว่า งานเยอะขนาดนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปเที่ยว? ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายมากมาย ไม่ว่าค่าตั๋ว ค่าที่พัก ยิ่งต้องแลกเงินต่างประเทศ งบจะบานปลายไหม ทุกความกังวลและข้อสงสัยเหล่านี้ บทความ “5 เทคนิคท่องเที่ยวต่างประเทศฉบับมนุษย์เงินเดือน” จะพาคุณไปเริ่มวางแผนการท่องเที่ยวแบบสุดคุ้มกัน
1. รีบวางแพลนวันหยุด
เก็บวันหยุดแล้วไปสนุกกัน แน่นอนว่าเราต่างก็มีวันลาประจำปีอยู่แล้ว เพียงแค่เราอดใจรอ ไม่ลางานโดยไม่จำเป็น เน้นเก็บสะสมวันลาไว้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะก็เขียนใบลาหยุดยาว ๆ ขอแนะนำให้เราเลือกช่วงเวลาที่ไม่ใช่ช่วงวันหยุดจะยิ่งดีมาก ๆ เพราะนั่นหมายความว่าเราจะไม่ต้องไปพบปะผู้คนมากมายตามสถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งราคาของที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ช่วงวันหยุดบางครั้งก็แพงขึ้นด้วย การเที่ยวในช่วงวันปกติ เราจะไม่ต้องเจอค่าใช้จ่ายที่สูงเกินความจำเป็น ทำให้เราสามารถ
เที่ยวต่างประเทศในงบที่สบายกระเป๋าได้
2. เลือกเที่ยวตามงบประมาณของเรา
สถานที่ท่องเที่ยวบนโลกนี้มีหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประเทศเล็ก ประเทศใหญ่ ใกล้หรือไกล ก็สามารถเที่ยวได้ทั้งนั้นตามกำลังของเรา ถ้างบมีจำกัดเราอาจลองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ค่าใช้จ่ายไม่สูง ยิ่งหากเราเลือกเที่ยวแถบประเทศเพื่อนบ้านก็จะยิ่งประหยัดมากขึ้น อาทิ เวียดนาม สิงคโปร์ หรือเกาหลี แต่สำหรับใครที่มีงบสูงหน่อยก็สามารถมองหาทริปเที่ยวต่างทวีป อย่างทางยุโรป หรืออเมริกา ไปเที่ยวไกลขึ้นก็อาจได้เห็นอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ มากขึ้นด้วยเหมือนกัน
3. เตรียมเช็กเรทและแลกเงินต่างประเทศ
เมื่อเลือกได้แล้วว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน เราก็เริ่มเช็กเรทเตรียมแลกเงินกันเลย เราสามารถติดตามเรทค่าเงินในแต่ละวันได้จาก
เว็บไซต์หรือ
แอปธนาคาร และจะดีกว่าไหมหากเราเจอเรทที่ถูกใจ แล้วสามารถล็อกเรทเพื่อแลกเงินล่วงหน้าได้เลย ทำได้ง่ายๆ แค่มี
Krungsri Boarding Card ที่สามารถล็อกเรทถูกใจล่วงหน้าได้สูงถึง 15 วัน และสามารถตั้งล็อกซื้อเรทถูกใจได้สูงสุด 3 รายการ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีแลกเงินไปเที่ยวต่างประเทศให้คุ้มค่า เมื่อเจอเรทถูกใจยิ่งแลกไวเท่าไหร่ก็ยิ่งคุ้มค่าต่อทริปของเรา
สมัคร Krungsri Boarding Card ง่ายผ่าน
KMA krungsri app
- ฟรี! ค่าธรรมเนียมสมัครบัตร 150 บาท (1 ม.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67)
- ฟรี! Starbucks e-Coupon มูลค่า 100 บาท
- พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย อาทิ ส่วนลดที่ Outlet และห้างต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่น
4. การวางแผนที่ดีคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ขั้นตอนต่อมาคือการวางแผนท่องเที่ยว โดยระบุวัน ระบุเมือง ที่พักแต่ละคืน และกิจกรรมต่างๆ รวมถึงที่เที่ยว ที่กิน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งอาจมีค่าเข้าและต้องจองล่วงหน้า รวมถึงเวลาปิดเปิด เราต้องอย่าลืมหาข้อมูลส่วนนี้ด้วย และเพื่อให้การท่องเที่ยวครั้งนี้ไม่มีสะดุดเราควรเลือกซื้อประกันการเดินทางติดตัวไว้ อุ่นใจแน่นอน
กรุงศรีขอแนะนำ
ประกันเดินทางกรุงศรี Simple Sure ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า ค่าเบี้ยเริ่มต้นเบา ๆ 250 บาท รับความคุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาท ครอบคลุมครบ
- ก่อนเดินทาง ไม่ต้องกลัวบริษัททัวร์โกง หากจ่ายเงินจองทริปแล้วทริปล่ม เคลมได้
- เจ็บป่วยระหว่างทริป ช่วยดูแลค่ารักษา ทั้งผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน ไม่ต้องสำรองจ่าย
- เที่ยวสบายใจฝากบ้านไว้กับประกัน หายห่วงหากทรัพย์สินในบ้านสูญเสีย/เสียหายระหว่างทริป
ใครที่สนใจสามารถกดซื้อได้เองง่าย ๆ ผ่าน
เว็บไซต์ธนาคารกรุงศรี หรือ KMA krungsri app เลือกเมนู “ประกันภัย”
5. เช็กระบบขนส่งมวลชนของแต่ละประเทศไว้ด้วย
เราควรทำการบ้านเช็กระบบขนส่งมวลชน เช็กวิธีการเดินทาง พร้อมทั้งเรียงลำดับสถานที่ที่ต้องการจะไปเที่ยว เพราะคงไม่สนุกแน่ถ้าเราต้องเสียเวลาหรือเสียเงินโดยไม่ใช่เหตุเพียงเพราะขึ้นรถผิด หรือขึ้นรถวนซ้ำไปมา หรือแม้แต่เสียอารมณ์กับการเดินหลงอยู่เป็นเวลานาน ดังนั้นเราจึงควรวางแผนล่วงหน้า พร้อมทั้งบันทึกรายละเอียดต่าง ๆ ไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อความสะดวกในการค้นหา แต่ก็ต้องอย่าลืมเตรียมแผนสำรองไว้ด้วยเพื่อที่จะทำให้เราอุ่นใจขึ้น เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่คาดฝันขึ้นหรือเปล่า เพียงเท่านี้ทริปท่องเที่ยวของเราก็จะออกมาสมบูรณ์แบบชาร์จพลังความสุขให้เราได้เต็มที่
หากว่าตอนนี้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน เราขอให้คุณหาทริปเที่ยวดี ๆ ที่จะทำให้คุณรีเฟรชตัวเองยามเหนื่อยล้า และได้ออกไปเจออะไรใหม่ ๆ การท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณต้องวางแผน เตรียมทริป เตรียมค่าใช้จ่ายไว้ให้ดีนั่นเอง สุดท้ายนี้เราขอให้ “ทุกสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไป ได้กลายเป็นความทรงจำดี ๆ ของคุณ” นะ