อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ลงทุนอย่างไรดี
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ลงทุนอย่างไรดี

icon-access-time Posted On 09 กุมภาพันธ์ 2566
by สิรภัทร เกาฏีระ CFP®, AISA
ก่อนที่จะกล่าวถึง “อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น” เราต้องเข้าใจก่อนว่า อัตราดอกเบี้ย ในที่นี้หมายถึง อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศใช้ดำเนินนโยบายทางการเงิน ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน ผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือชะลอเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อ ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้การเติบโตทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศดำเนินไปในทิศทางที่เหมาะสม ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินจะอ้างอิงอยู่กับอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้วย

ขณะนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติเงินเฟ้อรุนแรง เพื่อแก้ไขปัญหาธนาคารกลางของแต่ละประเทศจึงต้องทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่ภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นนั่นเอง ซึ่งภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรกับเศรษฐกิจภาพรวม

ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น

  1. ประชาชนรัดเข็มขัด ไม่ก่อหนี้เกินตัว
    เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น ประชาชนจะเริ่มระมัดระวังในการจ่ายเงิน จับจ่ายใช้สอยน้อยลง และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นประชาชนจะสร้างหนี้เกินตัวเหมือนแต่ก่อน ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง

  2. เกิดการชะลอการลงทุน
    การขึ้นดอกเบี้ยทำให้ความน่าสนใจของการลงทุนลดลงไป ประชาชนมีแนวโน้มจะฝากเงินไว้ในธนาคารเยอะขึ้น เพราะได้ผลตอบแทนจากเงินฝากสูงขึ้น จึงมีแรงจูงใจน้อยลงที่จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพราะผลตอบแทนที่ได้จากสินทรัพย์เสี่ยงอาจจะไม่ได้แตกต่างกับการฝากเงินเท่าไหร่นัก ภาคธุรกิจจะมีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากภาระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้หลายบริษัทอาจจะชะลอการขยายธุรกิจออกไป หรือระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น
ค่าเงินบาท
 
  1. ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า
    ถ้าหากดอกเบี้ยในประเทศไทยสูงกว่าต่างประเทศ เงินทุนจากต่างชาติก็อาจจะไหลเข้ามาลงทุนหรือเก็งกำไรในเงินบาทของไทยมากขึ้น เพราะมีผลตอบแทนที่สูงกว่าสกุลเงินต่างประเทศ ทำให้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นด้วย ซึ่งถ้าหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นธุรกิจที่เป็นการส่งออกก็จะได้รับผลกระทบจากรายได้หลังคำนวนอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลงด้วย

แนวทางการปรับพอร์ตการลงทุนจากดอกเบี้ยขาขึ้น

จากผลกระทบที่กล่าวไป นักลงทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นได้โดยมีคำแนะนำดังต่อไปนี้
  1. ถ้านักลงทุนมีสินเชื่อที่มีการคิดดอกเบี้ยเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นได้ในอนาคต นักลงทุนควร Refinance สินเชื่อที่มีอยู่ให้เป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นทุนทางการเงินของนักลงทุนเพิ่มขึ้น

  2. หากนักลงทุนต้องการลงทุนในตราสารหนี้ นักลงทุนควรลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นเพราะว่าอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นเรื่อย ๆ จะมีตราสารหนี้ออกใหม่ที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเดิมออกมาสู่ตลาดเรื่อย ๆ ด้วย
การลงทุน
 
  1. หากนักลงทุนต้องการลงทุนในหลักทรัพย์ ในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นต้นทุนของกิจการที่อาจเพิ่มขึ้น ทำให้การลงทุนหุ้นในช่วงเวลานี้มีความเสี่ยงที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีบางกลุ่มธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น เช่น ธุรกิจธนาคาร เพราะมีรายได้ส่วนใหญ่ของธุรกิจธนาคารมาจากการปล่อยสินเชื่อ และทำกำไรจากส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้กับดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งตามปกติอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะปรับตัวขึ้นเร็วกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเสมอ รวมถึงธุรกิจประกันชีวิตที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการนำเบี้ยประกันไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในตราสารหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นด้วย

    นอกจากนี้ธุรกิจที่มีอำนาจในการกำหนดราคา (Pricing Power) เช่น ธุรกิจอาหาร ธุรกิจยารักษาโรค บริการทางการแพทย์ สินค้าอุปโภคที่จำเป็น และสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า น้ำมัน น้ำประปา เป็นต้น แม้จะไม่ได้รับประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ยตรง ๆ แต่ธุรกิจก็จะไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบมากนัก เพราะเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ สามารถปรับราคาสินค้าหรือบริการให้สูงขึ้นเพื่อผลักภาระต้นทุนบางส่วนไปยังผู้บริโภค เพื่อเป็นการลดผลกระทบในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นได้

    สำหรับในกลุ่มธุรกิจอื่นนั้น ควรเลือกธุรกิจที่มีเงินสดสำรองจำนวนมาก เนื่องจากมีโอกาสได้รับรายได้มากขึ้นจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น หรือธุรกิจที่มีอัตราหนี้สินต่ำ เนื่องจากสะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนกิจการที่ต่ำตามไปด้วย เพราะเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มขึ้น ภาระหนี้ของบริษัทก็จะสูงขึ้นตาม บริษัทที่มีหนี้เยอะหรือขาดกระแสเงินสด จะเสียเปรียบอย่างมากต่อการขยายธุรกิจ ยิ่งถ้าบริษัทมีรายได้เท่าเดิม ก็จะส่งผลต่อแนวโน้มกำไรในอนาคตที่ลดลงด้วย เพราะมีรายจ่ายจากต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน ควรเน้นหุ้นที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถดูได้จากภาระหนี้สินของบริษัทต่ำ (D/E Ratio <= 1.5 เท่า) และบริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวก (Net Cash Flow) ซึ่งบริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกกดดันจากนโยบายทางการเงินก็ตาม
ลงทุนทองคำ
 
  1. หากนักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก จากภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในปัจจุบันสาเหตุหลักมาจากความต้องการควบคุมเงินเฟ้อของธนาคารกลาง ดังนั้นสินทรัพย์ทางเลือกที่สามารถเพิ่มมูลค่ามากขึ้นในช่วงที่มีภาวะเงินเฟ้อก็เป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนด้วย ได้แก่

    ทองคำ หนึ่งในสินทรัพย์ที่ใช้อ้างอิงมูลค่าเงิน และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ การถือทองคำในระยะยาวก็เป็นการลงทุนที่นักลงทุนส่วนมากเลือกอยู่ เพราะในระยะยาวมูลค่าของทองคำไม่ลดลงนั่นเอง

    นอกจากนี้อสังหาริมทรัพย์สำหรับปล่อยเช่า ก็สามารถปรับค่าเช่าขึ้นได้ตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นด้วย แต่ก็ต้องระวังกรณีที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ใหม่ด้วยการกู้เงินสินเชื่อ เพราะจะมีต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นได้หากเราบริหารจัดการได้ไม่เหมาะสม

จากภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และผลกระทบที่ตามมา นักลงทุนจึงควรทบทวนเป้าหมาย และแผนการลงทุนของตัวเองให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความเหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้นักลงทุนสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ได้ หากต้องการปรึกษาหรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมในด้านวางแผนทางการเงิน การลงทุน ทางธนาคารกรุงศรีมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนโดยเฉพาะ ที่สามารถปรึกษาผ่านช่องทางฮอตไลน์ได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้ที่ปรึกษาทางด้านการเงินจากธนาคารกรุงศรี ติดต่อกลับ

บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา