ไอเดียหารายได้เสริมในยุคดิจิทัล
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

ไอเดียหารายได้เสริมในยุคดิจิทัล

icon-access-time Posted On 23 มีนาคม 2565
by Krungsri The COACH

สมัยนี้อาชีพไหนก็มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะทำกิจการส่วนตัว เป็นฟรีแลนซ์ หรือแม้แต่พนักงานประจำที่มีรายได้สม่ำเสมอทุกเดือน เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ข้าวของก็แพงขึ้นตลอด มองไปทางไหนก็ต้องลุ้น ลุ้นว่าจะมีลูกค้าเข้ามาไหม เดือนนี้จะได้จ๊อบใหม่หรือเปล่า หรือบริษัทที่ทำอยู่จะลดคน ลดค่าใช้จ่ายเมื่อไหร่ ดังนั้น วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เรารับมือกับปัญหาที่มีอยู่แล้ว หรือที่อาจจะตามมาในอนาคต ก็คือ การหารายได้เสริม เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าของเรา เพราะการมีเงินมากขึ้นจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ในวันที่ชีวิตเราเกิดสะดุดขึ้นมา


อาชีพเสริมใหม่ๆ ในสังคมยุคดิจิทัลมีหลายอย่าง บางอย่างเราอาจไม่เคยรู้ หรือไม่คิดว่าเราจะทำได้ แต่ก็มีคนที่ทำได้จริงๆ ลองตามมาดูกัน
 
ไอเดียหารายได้เสริมในยุคดิจิทัล
 
  1. ขายของออนไลน์ อันนี้หลายคนคงเคยลองทำมาบ้าง ในตอนแรกเราอาจเริ่มแบบง่ายๆ ไม่ต้องวุ่นวายไปติดต่อหาของมาขาย ไม่ต้องหาเงินทุน เพียงเรามีของสะสมหรือสิ่งที่สนใจ ก็ลองเอามาขายในสังคมออนไลน์ได้ไม่ยาก หรือถ้าเราชอบแต่งตัว ก็ลองเอาเสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้วมาขายให้คนที่ชอบสไตล์เดียวกันไปใช้ต่อได้ พอเราคุ้นเคยกับการขายของออนไลน์แล้ว เราก็ค่อยทดลองขยับไปรับของมา Live ขาย ทั้งของกิน ของใช้ที่ผู้คนสนใจ จุดสำคัญคือ เราต้องมองตลาดให้ออกว่าช่วงนี้ของอะไรกำลังอยู่ในกระแสที่คนสนใจ เราจะได้จัดมาขายให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ค่อยๆ ทำไปเพื่อชิมลางว่าเรามาถูกทางไหม เมื่อมั่นใจก็ขยายเพื่อทำรายได้เพิ่ม สะสมไปเรื่อยๆ ก็กลายเป็นเงินก้อนได้
  2. นายหน้าออนไลน์ คือการเป็นตัวแทนขายสินค้าให้กับร้านค้าออนไลน์ต่างๆ โดยเราสามารถเลือกสินค้าที่ตรงกับความชอบหรือ Lifestyle ของเราได้เลย มีตั้งแต่ของใช้ทั่วไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า วิธีเริ่มต้น ก็แค่เราสมัครสมาชิกเพื่อเข้าร่วมโครงการ Affiliate program กับทางร้านค้า แล้วเราก็จะสามารถนำลิงค์แนะนำสินค้าที่เราเลือกไว้มาแชร์ต่อให้เพื่อนๆ หรือโพสต์ลง Facebook Instagram ของเราเพื่อโปรโมทสินค้า เมื่อมีคนสนใจซื้อสินค้า เราก็จะได้ส่วนแบ่งเป็นค่าคอมมิชชั่น ยิ่งถ้าเรามีผู้ติดตามมาดูและซื้อสินค้ามากขึ้น เราก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นเยอะขึ้น
  3. ขายภาพถ่ายออนไลน์ ทุกวันนี้เวลาไปเที่ยวหรือออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน หลายคนมักถ่ายรูปเก็บไว้อยู่แล้ว รู้หรือไม่ว่ารูปเหล่านี้เอาไปขายบนเว็บไซต์ขายภาพออนไลน์ได้นะ เช่น Shutterstock แค่เราลงรูปไว้ ยิ่งลงไว้มาก ก็ยิ่งมีโอกาสการขายได้มากขึ้น ดังนั้น เวลาเราไปสถานที่สวยๆ หรือทำกิจกรรมอินๆ หากเพิ่มเทคนิคการถ่ายภาพเจ๋งๆ เข้าไปก็จะเป็นหนทางหารายได้เสริมเข้ากระเป๋าได้ด้วย
  4. ขายศิลปะออนไลน์ โดยผันตัวเป็น Digital artist คือ ถ้าเรามีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ แต่ยังไม่รู้ลู่ทางว่าจะเอาผลงานไปทำเงินได้อย่างไร ลองเอาผลงานมาแปลงเป็น NFT แล้วนำไปขายบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน NFT ดู ไม่แน่อาจจะทำเงินได้หลักล้านเลยทีเดียว ในส่วนนี้สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความที่เราเคยเขียนแนะนำไว้ได้ที่นี่
ไอเดียหารายได้เสริมในยุคดิจิทัล
 
  1. หารายได้เพิ่มจากการลงทุนในกองทุนรวมที่มีการจ่ายกระแสเงินสดออกมาในรูปของเงินปันผลหรือการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ซึ่งวิธีนี้ทำให้เรามีโอกาสได้รับ Passive Income สม่ำเสมอ

    สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับ “กองทุนรวม” ขอเล่าสั้นๆ ว่า “กองทุนรวม” (Mutual Fund) ก็คือ การที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) รวบรวมเงินลงทุนจากนักลงทุนหลายๆ ราย มารวมกันให้เป็นเงินลงทุนก้อนใหญ่ แล้วนำเงินก้อนใหญ่นี้ไปลงทุนตามนโยบายที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน ซึ่งนักลงทุนแต่ละรายจะได้รับจัดสรร “หน่วยลงทุน” เพื่อแสดงสถานะความเป็นเจ้าของในเงินที่ได้ลงทุนไป จากนั้นเมื่อ บลจ. นำเงินกองทุนไปบริหารตามนโยบายการลงทุนแล้วเกิดผลตอบแทนขึ้น ผู้ถือหน่วยลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนจากหน่วยลงทุนที่ถืออยู่ในรูปของส่วนต่างกำไร หรือเงินปันผล ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุน

    ซึ่งกองทุนรวมนับเป็นทางเลือกการลงทุนเหมาะมากสำหรับคนยุคนี้ เพราะจะได้ทั้งโอกาสในการรับ Passive income และรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป นอกจากนี้กองทุนรวมยังมีข้อดีอีกมากมาย ได้แก่
    • มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินทั่วไป ช่วยให้เงินของเราเติบโตมากขึ้น
    • มีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ช่วยบริหารและดูแลการลงทุนให้เรา
    • เงินน้อยก็ลงทุนได้ เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท
    • มีหลากหลายประเภทสินทรัพย์ให้เลือกลงทุน ตามนโยบายการลงทุนที่สนใจ และระดับความเสี่ยงที่เรารับได้
    • ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัล เพราะสะดวกมาก เปิดบัญชี และซื้อ-ขายกองทุน ได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองผ่าน KMA-Krungsri Mobile App

และวันนี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีกองทุนรวมที่มีนโยบายสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ และกองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายปันผล มาแนะนำกัน
 
KF-INCOME KFGBRAND PRINCIPAL-iPROP-D

ใครที่สนใจอยากได้ข้อมูลการลงทุนเพิ่ม สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา หรือคุยกับผู้เชี่ยวชาญแบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยติดต่อ Krungsri Plan Your Money หรือโทร. 02-296-5959 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. สอบถามจนมั่นใจแล้วค่อยเริ่มลงทุนก็ได้นะ

หวังว่าหลากหลายไอเดียการหารายได้เสริมที่เรานำมาให้อ่านจะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกคนได้เห็นโอกาสการเตรียมความพร้อมในรูปแบบที่ตัวเองถนัด เพื่อรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน และเดินทางสู่เป้าหมายชีวิตที่มั่นคง

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • กองทุน KF-INCOME, KFGBRAND-D, PRINCIPAL iPROP-D ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • สำหรับ KF-INCOME การจ่ายผลตอบแทนรายเดือนขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุน ซึ่งอาจมีโอกาสที่นักลงทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนรายเดือนในบางช่วงเวลา
  • PRINCIPAL iPROP-D ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ จึงอาจมีความเสี่ยงและความผันผวนของราคาสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไปที่มีการกระจายการลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน

บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา